posttoday

วิวัฒน์ ศัลยกำธร ผู้ถ่ายทอดศาสตร์พระราชา

28 พฤษภาคม 2560

...ข้าวต้องปลูก เพราะอีก 20 ปี ประชากรอาจจะ80 ล้านคน ข้าวจะไม่พอ ถ้าลดการปลูกข้าวไปเรื่อยๆ ข้าวจะไม่พอ

โดย...ปิยนุช ผิวเหลือง

“...ข้าวต้องปลูก เพราะอีก 20 ปี ประชากรอาจจะ80 ล้านคน ข้าวจะไม่พอ ถ้าลดการปลูกข้าวไปเรื่อยๆ ข้าวจะไม่พอ เราจะต้องซื้อข้าวจากต่างประเทศ เรื่องอะไรประชาชนคนไทยไม่ยอม คนไทยนี้ต้องมีข้าว แม้ข้าวที่ปลูกในเมืองไทยจะสู้ข้าวที่ปลูกในต่างประเทศไม่ได้ เราก็ต้องปลูก...” พระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9

ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร ประธานสถาบันเศรษฐกิจพอเพียงและประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ หรือที่รู้จักกันในนาม “อาจารย์ยักษ์” ผู้ก่อตั้งศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้อง หนึ่งในบุคคลสำคัญผู้ร่วมขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สู่การปฏิบัติจริง

“อยากให้มีการขับเคลื่อนศาสตร์นี้จริงๆ จึงได้จัดตั้งศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้องขึ้นในปี 2526 แต่ด้วยความไม่ต่อเนื่องในการขับเคลื่อนช่วงแรกทำให้ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จึงตัดสินใจลาออกจากราชการ ตำแหน่งสุดท้ายคือ ผู้อำนวยการกองประเมินผลและข้อมูล สำนักงานคณะกรรมการพิเศษ เพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อออกมาดูแลศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้องเต็มตัวในปี 2539 เมื่อกลับมาด้วยความเข้าใจและความมุ่งมั่นแรงกล้า ทำให้ศูนย์กสิกรรมค่อยๆ เป็นที่รู้จัก” ดร.วิวัฒน์ กล่าว

วิวัฒน์ ศัลยกำธร ผู้ถ่ายทอดศาสตร์พระราชา

แนวคิด “ที่ดิน 1 งาน 100 ตารางวา หรือประมาณ 1 ใน 4 ไร่ นำมาแปรรูปตามขั้นตอนที่ท่านรับสั่ง เช่น การนำสมุนไพรมาแปรรูป ทำเป็นยารักษาโรคพืช โรคสัตว์ หรือรักษาคน สร้างรายได้หลักล้าน แต่ท่านไม่ได้ต้องการให้ทำเพื่อขาย แต่ให้มุ่งเน้นการทำเพื่ออยู่ เพื่อใช้ เมื่อเหลือนำมาทำบุญทำทานก่อนที่จะนำมาแปรรูป ซึ่งเราไม่ได้มุ่งเน้นทำเงิน แต่เราเน้นให้ความรู้ เอาแนวคิดประสบการณ์นี้ เผยแพร่แก่ชาวบ้านต่อ แต่เราเน้นการตั้งโรงเรียน”

สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเราสามารถทำโซเชียล เอนเตอร์ไพรส์ (ธุรกิจเพื่อสังคม) ได้ ตั้งบริษัทขึ้นเพื่อหาเงิน จนสามารถจัดตั้งโรงเรียนปูทะเลย์มหาวิชชาลัยขึ้น จดทะเบียนที่ จ.ชลบุรี เป็นการศึกษาชั้นประถม และศูนย์การเรียนรู้กสิกรรมธรรมชาติจดทะเบียนที่ จ.ระยอง เป็นการศึกษาชั้นมัธยม สำหรับหลักสูตรปริญญาตรีและปริญญาโทจดทะเบียนร่วมกับสถาบันอาศรมศิลป์ หลักสูตรผู้ประกอบการสังคม

ดร.วิวัฒน์ กล่าวว่า ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย แท้จริงแล้วหมายรวมทั้งโรงเรียน ศูนย์การเรียนรู้ วัด สถานที่ พักพิงภัยพิบัติ และชุมชน บนเนื้อที่กว่า 40 ไร่ ในศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง จ.ชลบุรี ซึ่งได้เริ่มต้นจากศูนย์ฝึกระยะสั้น ตามด้วยค่ายพักพิง และนำไปสู่การจดทะเบียนก่อตั้งสถาบันการศึกษา กสิกรรมธรรมชาติชั้นประถม มัธยม ปริญญาตรี และปริญญาโท ซึ่งปัจจุบันได้มีการขยายตัวของเครือข่ายศูนย์การเรียนรู้ออกไปทั่วประเทศ 69 แห่ง แต่ยังมีการดำเนินการที่เข้มแข็งประมาณ 44 แห่ง

วิวัฒน์ ศัลยกำธร ผู้ถ่ายทอดศาสตร์พระราชา ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร

นอกเหนือจากนี้ กสิกรรมธรรมชาติมีการจัดตั้งในต่างประเทศ 2 แห่ง ที่ประเทศกัมพูชาและเมียนมา เพียงแต่ยังไม่เข้มแข็งเท่าในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีเยาวชนจากประเทศภูฏานเข้ามาศึกษาในระดับปริญญาตรี 4 ราย ในอนาคตจึงคาดว่าจะมีการจัดตั้งศูนย์กสิกรรมธรรมชาติในภูฏานเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 3 แห่ง

สำหรับพื้นที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติที่ได้จัดตั้งขึ้นได้มีพื้นที่ประยุกต์ใช้ทฤษฎีใหม่ด้านการออกแบบพื้นที่เพื่อการจัดการน้ำและฟื้นฟูสร้างระบบนิเวศด้วยการจัดการดินและป่า ปลูกป่า 3 อย่าง ปลูกแฝกเพื่ออนุรักษ์ดินและน้ำ บำบัดน้ำเสีย เป็นต้น นำไปสู่การสร้าง โคกหนองนาโมเดล หรือการออกแบบพื้นที่เพื่อการจัดการน้ำตามหลักภูมิสังคม

ดร.วิวัฒน์ กล่าวว่า มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติยังได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนและภาคประชาชนเรื่อยมา โดยล่าสุดได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง เปิดโครงการ “ทุนพอเพียง โดย กลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง” จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.นี้ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนได้ศึกษา เรียนรู้ และพัฒนาวิถีชีวิตตาม “ศาสตร์พระราชา”รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีศักยภาพและความตั้งใจจริงให้ได้รับทุนสนับสนุนการเริ่มต้น หรือต่อยอดการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้มอบทุน 3 ประเภท ได้แก่ 1.ทุนความรู้จากการจัดอบรมหลักสูตรพิเศษทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ จำนวน 60 คน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 2.ทุนเครือข่าย ซึ่งผู้ร่วมโครงการทั้ง 60 คน จัดตั้งเป็น “เครือข่ายทุนพอเพียง” ร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์จากด้านการจัดการที่ดินของแต่ละคนตลอดจนร่วมลงพื้นที่พัฒนาที่ดินตัวอย่างเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน และ 3.ทุนเงิน จะดำเนินการเปิดบัญชี “ทุนพอเพียง โดยกลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง” เพื่อสนับสนุนทุนตามความเหมาะสมแก่สมาชิกเครือข่ายที่ได้รับการคัดเลือกเป็นพื้นที่ตัวอย่างจำนวน 3 ทุน มูลค่ารวม 4 แสนบาท ซึ่งจะเป็นโครงการต่อเนื่องทุกปี เพื่อสนับสนุนเกษตรกรไทยและสานต่อศาสตร์พระราชาต่อไป

ข่าวล่าสุด

เจาะรายละเอียด อย.ปลดล็อก ยา ‘ATMP’ ตามความเสี่ยง 3 ระดับ!