พิรุธซื้อที่ดิน93ล้าน ปม'อนันต์'พันคดีฟอกเงิน

หมายเรียกของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ให้ อนันต์ อัศวโภคิน ผู้บริหาร บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันฟอกเงินในคดีทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เป็นข่าวสะเทือนวงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างยิ่ง

เส้นทางคดีฟอกเงินนี้ เริ่มจาก ศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น นำเงินสหกรณ์จำนวน 275 ล้านบาท มาซื้อหุ้นของบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 โดยให้คนของตัวเองเป็นกรรมการบริษัท หนึ่งในนั้นมี สัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความวัดพระธรรมกาย ร่วมเป็นกรรมการอยู่ด้วย ทั้งนี้มีเอกสารกำหนดให้การบริหารงานบริษัท เอ็ม-โฮมฯ อยู่ภายใต้การควบคุมของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น

ต่อมา วันที่ 21 ธ.ค. 2554  คณะกรรมการ บริษัม เอ็ม-โฮมฯ มีมติให้นำที่ดินของบริษัทไปขายเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ หนึ่งในนั้นคือที่ดินตามโฉนดเลขที่ 31344 เนื้อที่ 46 ไร่ 3 งาน 56.2 ตารางวา ในพื้นที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยขายให้กับอนันต์ เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2554 ในราคา 93.7 ล้านบาท ในขณะที่ราคาประเมินที่ดินดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 281 ล้านบาท ซึ่งหมายความว่า บริษัทขายในราคาต่ำกว่าราคาประเมินถึง 3 เท่า

ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ปรากฏหลักฐานการจ่ายเงินซื้อขายที่ดินดังกล่าวให้กับบริษัท เอ็ม-โฮมฯ เท่ากับว่าสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ในฐานะที่ควบคุมการบริหารบริษัท เอ็ม-โฮมฯ ได้รับความเสียหาย

ต่อมา อนันต์ขายที่ดินแปลงนี้ให้กับบุคคลอื่นในราคา 492 ล้านบาท อนันต์นำเงินที่ได้จากการขายส่วนหนึ่ง จำนวน 303 ล้านบาท บริจาคให้กับมูลนิธิคุณยายจันทร์ ขนนกยูง ซึ่งมีพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เป็นองค์อุปถัมป์

ขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายสอบสวน 3 ซึ่งร่วมอยู่ในคณะสอบสวนของดีเอสไอยอมรับว่า คณะพนักงานสอบสวนได้พบเอกสารลับลงนามโดยศุภชัย ระบุว่า ยกที่ดินดังกล่าวให้พระธัมมชโย แต่พระธัมมชโยระบุให้อนันต์ถือครองตามกรรมสิทธิ์ตามหน้าโฉนดแทน ซึ่งถือเป็นพิรุธ

ดังนั้น วันที่ 23 ธ.ค. 2554 จึงปรากฏปมเงื่อนสำคัญ 2 เหตุการณ์ คือ 1.มีการโอนถ่ายที่ดินดังกล่าวโดยการซื้อขายให้กับอนันต์ และ 2.ศุภชัยทำเอกสารยกที่ดินแปลงนี้ให้พระธัมมชโย จึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า อนันต์ถือครองทรัพย์สินแทนพระธัมมชโย ซึ่งอนันต์จะต้องชี้แจง

"มีการโอนกรรมสิทธิ์ให้นายอนันต์ในที่ดินโฉนด 31344 ในราคาที่ต่ำกว่าราคาประเมินมาก ต่อมาได้ขายต่ออีก ซึ่งยังเปิดเผยไม่ได้ แต่รู้แล้วว่าเป็นใคร ส่วนจะเกี่ยวพันกับวัดพระธรรมกายหรือไม่ ขอสอบสวนก่อน แต่จะเห็นว่าขายในราคาที่สูง และมีการโอนเงินกลับมายังมูลนิธิคุณยายจันทร์ จำนวน 303 ล้านบาท เข้าสู่กระบวนการของวัดเหมือนเดิม ซึ่งตรงนี้มันเข้าข่ายการฟอกเงิน" อัยการพิเศษฝ่ายสอบสวน 3 กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึงการดำเนินคดีว่า ดีเอสไอตรวจสอบกรณีอนันต์ขายที่ดินจำนวน 3 แปลงต่อไปให้กับบุตรสาวนั้นเพราะเป็นอีกคดีที่มีความเชื่อมโยงกัน

"ดีเอสไอเคยได้รับการประสานจากอนันต์เพื่อต้องการเข้ามาชี้แจงในประเด็นดังกล่าว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มา ต่อมาคณะพนักงานสอบสวนเห็นว่ามีพยานหลักฐานพอ จึงมีมติแจ้งข้อกล่าวหา"

จากนี้ไป คงต้องจับตาคดีนี้อย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะถึงกำหนดให้อนันต์เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษในวันที่ 7 มิ.ย.นี้ อาจมีเบาะแสหลักฐานใหม่ๆ เปิดเผยออกมาอีก

ที่สำคัญต้องรอฟังคำชี้แจงจากฝ่ายของอนันต์ เพราะนอกจากจะเกี่ยวพันไปถึงวัดพระธรรมกายที่มีผู้คนศรัทธาจำนวนมาก รวมทั้งความเสียหายของสหกรณ์เครดิตยูเนี่นคลองจั่นที่มีมูลค่ากว่า 1.2 หมื่นล้านบาทแล้ว ยังเกี่ยวพันถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจหลักของอนันต์เอง