ลิขสิทธิ์โดราเอมอน
ไหนๆ ก็เขียนเรื่องลิขสิทธิ์แล้ว ขอเขียนเรื่องลิขสิทธิ์ต่ออีกในฉบับนี้ แต่เป็นลิขสิทธิ์ที่เจาะจงเล็กน้อย
โดย...พวงรัตน์ อัศวพิศิษฐ์
ไหนๆ ก็เขียนเรื่องลิขสิทธิ์แล้ว ขอเขียนเรื่องลิขสิทธิ์ต่ออีกในฉบับนี้ แต่เป็นลิขสิทธิ์ที่เจาะจงเล็กน้อย เพราะลงไปที่ตัว “โดราเอมอน” เนื่องจากมีผู้มาสอบถามว่าลิขสิทธิ์โดราเอมอนนั้นหมดอายุไปหรือยัง เพราะได้อ่านพบในบล็อกๆ หนึ่งที่ผู้มาลงเล่าให้ฟังว่าได้ขายน่าจะเป็นสติ๊กเกอร์ หรือกระเป๋ากระจุกกระจิก (ผู้เขียนไม่แน่ใจ เพราะไม่ได้อ่านเองแล้วก็แค่ฟังมา)
แต่ประเด็นสำคัญคือมีการล่อซื้อ ศัพท์นี้เป็นที่รู้กันว่าตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจมาจากเจ้าของสิทธิ์ ซึ่งในทางปฏิบัติก็จะมอบกันมาเป็นต่อๆ ได้มาสอบถามหาซื้อของที่มีรูปโดราเอมอน ผู้เขียนเดาว่าคงจะมาขอซื้อในจำนวนมากและให้ราคาดี ผู้ที่มาลงเล่าไว้ในบล็อกให้เป็นที่ทราบกันเพื่อเป็นประสบการณ์ จึงพยายามไปเสาะหาซื้อมาจนได้ แต่เมื่อมาขายให้จริงๆ กลับถูกจับและเรียกค่าละเมิดลิขสิทธิ์ถึง 2 แสนบาท กว่าจะเจรจาตกลงกันได้จนตัวเลขลดลงไปมากก็ต้องใช้เวลา
นี่ไม่ใช่ประเด็นที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อให้ทราบ เพราะมีผู้มาลงไว้ในบล็อกเช่นกันว่า ไม่ควรจะต้องเสียเงินให้ตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์ เพราะโดราเอมอนนั้นเป็นลิขสิทธิ์ที่มีอายุการคุ้มครองแค่ 25 ปี และขณะนี้ได้หมดอายุการคุ้มครองไปแล้ว ซึ่งถูกต้อง แต่ถูกต้องเพียงส่วนเดียว
ผู้เขียนจึงเป็นห่วงว่า หากเข้าใจเพียงแค่นั้นอาจทำให้เกิดการถูกจับกันใหญ่ เพราะนอกจากการดูกฎหมายลิขสิทธิ์แล้ว ควรดูกฎหมายเครื่องหมายการค้าด้วย
ในเรื่องของลิขสิทธิ์นั้น อายุการคุ้มครองลิขสิทธิ์ในงานศิลปะประยุกต์มีระยะเวลา 25 ปี นับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น แต่ถ้าได้มีการโฆษณางานนั้นในระหว่างเวลาดังกล่าว ให้ลิขสิทธิ์มีอายุ 25 ปี นับแต่ได้มีการโฆษณาเป็นครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม เจ้าของลิขสิทธิ์โดราเอมอนทราบเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาเป็นอย่างดี จึงได้พยายามสร้างโดราเอมอนเวอร์ชั่นใหม่ที่ปรับปรุงจากโดราเอมอนเดิมขึ้นมา และแน่นอนว่ามีอายุการคุ้มครองลิขสิทธิ์ไปอีก 25 ปี
นอกจากนี้ ยังได้นำโดราเอมอนไปจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าถึง 40 ตัว และหลายจำพวกมาก และเครื่องหมายบริการด้วย ซึ่งจะมีอายุการคุ้มครอง 10 ปี และสามารถต่ออายุไปได้เรื่อยๆ ทุก 10 ปี นี่คือประเด็นสำคัญที่อย่างไรเสียเจ้าของก็ยังได้รับการคุ้มครองและสามารถจับผู้ละเมิดเครื่องหมายของเขาได้อยู่ดี โดยมีบทกำหนดโทษที่แตกต่างจากกฎหมายลิขสิทธิ์ แต่ก่อนอื่นลอง
มาทบทวนเครื่องหมายการค้า และเครื่องหมายบริการว่าคืออะไร
“เครื่องหมายการค้า” หมายความว่า เครื่องหมายที่ใช้หรือจะใช้เป็นที่หมายหรือเกี่ยวข้องกับสินค้า เพื่อแสดงว่าสินค้าที่ใช้เครื่องหมายของเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้น แตกต่างกับสินค้าที่ใช้เครื่องหมาย การค้าของบุคคลอื่น
“เครื่องหมายบริการ” หมายความว่า เครื่องหมายที่ใช้หรือจะใช้เป็นที่หมายหรือเกี่ยวข้องกับบริการ เพื่อแสดงว่าบริการที่ใช้เครื่องหมายของเจ้าของเครื่องหมายบริการนั้นแตกต่างกับบริการของบุคคลอื่น
เมื่อจดทะเบียนแล้วกฎหมายเครื่องหมายการค้า หรือเรียกเต็มๆ คือ พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2543 ได้มีมาตรา 44 กำหนดไว้ว่า ผู้ซึ่งได้จดทะเบียนเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า เป็นผู้มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในอันที่จะใช้เครื่องหมายการค้านี้สำหรับสินค้าที่ได้จดทะเบียนไว้
ในกรณีของเครื่องหมายบริการก็ให้นำบทบัญญัติเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้ามาใช้บังคับแก่เครื่องหมายบริการโดยอนุโลม และให้คำว่า “สินค้า” ในบทบัญญัติดังกล่าวหมายความถึงบริการ
ดังนั้น หากนำสินค้า เช่น กระเป๋าสตางค์ แล้วมีตราโดราเอมอนไปแปะไว้ อาจมองได้ว่าเป็นการลวงขาย หรือหากมีการพิมพ์ลวดลายเป็นโดราเอมอนลงบนเนื้อวัสดุที่ใช้ทำกระเป๋าอาจเป็นการปลอมหรือเลียนแบบก็ได้
ดังเช่น หลุยส์ วิตตอง จดลายต่างๆ ที่มีบนผ้าใบของหลุยส์ วิตตอง ไว้เป็นเครื่องหมายการค้า ก็สามารถที่จะจับผู้ขายของปลอมของเลียนแบบหรือผู้ลวงขายได้เช่นกัน และมีการกำหนดโทษไว้ในพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าฯ ซึ่งขอยกมาให้ดูเพียงบางมาตราเนื่องจากเนื้อที่มีจำกัด ดังนี้
มาตรา 108 บุคคลใดปลอมเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ เครื่องหมายรับรอง หรือเครื่องหมายร่วมของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้ว ในราชอาณาจักรต้องระวางจำคุกไม่เกินสี่ปี หรือปรับไม่เกินสี่แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 109 บุคคลใดเลียนเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ เครื่องหมายรับรอง หรือ เครื่องหมายร่วมของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักร เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ เครื่องหมายรับรอง หรือเครื่องหมายร่วมของบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


