20 ปี ในตัวตน ต้า พาราด็อกซ์
10 ปี ในการทำงานเพลงอัลบั้มล่าสุดของวงพาราด็อกซ์ +20 ปี กับการเดินทางบนนถนนดนตรี ในนามวงพาราด็อกซ์
โดย...มัลลิกา ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน
10 ปี ในการทำงานเพลงอัลบั้มล่าสุดของวงพาราด็อกซ์ +20 ปี กับการเดินทางบนนถนนดนตรี ในนามวงพาราด็อกซ์
ทุกกาลเวลาได้หล่อหลอมตัวตนของ อิทธิพงศ์ กฤดากร ณ อยุธยา หรือแฟนเพลงทั้งประเทศรู้จัก เรียกขานเขาว่า ต้า พาราด็อกซ์ ชายหนุ่มเรียบร้อย บุคลิกขี้อาย พูดน้อย แต่ร้องเพลงเก่ง เรียกว่าภาพของต้าบนเวทีกับข้างล่างสวนทางกันนิดๆ หากแต่มุมมองความคิด สิ่งที่สะท้อนออกมาจากตัวตนของเขานั้น คือของจริง ตัวจริง และจริงใจที่จะสื่อสาร ทำงานเพลง แน่นอนว่าแฟนเพลงของพาราด็อกซ์สัมผัสมันได้มาตลอด
ความฝันในแดนสนธยา
22 บทเพลงในอัลบั้มล่าสุด Before Sunrise, After Sunset ใช้เวลาทำร่วม 10 ปี ซึ่งต้าได้บันทึกเบื้องหลังทุกบทเพลง เล่าเรื่องวิธีคิดในการทำเพลงต่างๆ ของวงพาราด็อกซ์ไว้ในหนังสือชื่อ “ความฝันในแดนสนธยา” ของสำนักพิมพ์กี๊ก บุ๊ค ในเครือโมโนกรุ๊ป
“เมื่อ 10 ปีก่อน ผมเขียนหนังสือบันทึกลึกลับพาราด็อกซ์ เอ็กซ์ เป็นเบื้องหลังการทำอัลบั้ม X (10 Years After) เล่มนั้นผมเขียนเองหมด ชอบมาก แฟนเพลงเรียกร้องมา ถ้าทำอัลบั้มใหม่ให้ทำหนังสือด้วย ผมก็รับปากไปแล้ว แต่ถึงเวลาจริงๆ ตอนทำค่อนข้างงานเร่งไม่ได้เก็บบันทึก ก็ถอดใจว่าจะไม่ทำหนังสือแล้ว ทางสำนักพิมพ์กี๊ก บุ๊ค ก็พร้อมช่วยสนับสนุน มาหาวิธีการทำกัน หาคนมาสัมภาษณ์ เบื้องหลังการทำอัลบั้ม โฟกัสที่มาของแต่ละเพลง เนื่องจากตอนทำเพลงผมไม่ได้เก็บภาพตอนอัดเสียง ภาพที่ใช้ในเล่มนี้ จึงเป็นภาพคอนเสิร์ตใหญ่ที่ผ่านมา”
หนังสือความฝันในแดนสนธยา ต้าตั้งใจให้เป็นการบันทึกความทรงจำจากส่วนลึกของเขาเพื่อยืนยันว่า วิธีคิดในการทำเพลงของพาราด็อกซ์จะไม่มีวันตายและมันจะเป็นอมตะในหัวใจของผู้ฟังเสมอ ทั้งความหมายที่เข้มข้น ล้ำลึก และที่มาของความรู้สึกที่ต้ามีต่อทุกบทเพลง เช่น หลุมศพปลาวาฬ ฤดูฝน หรือ เพดาน
“ทุกเพลงมีเรื่องเล่า มีตำนานของมันเองหมดเลย ระหว่างเล่นเพลงฤดูร้อนอยู่ก็ได้เพลง ฤดูฝน เรื่องบังเอิญเห็นคนในอารมณ์อกหัก แล้วเดินออกไปตากฝน ให้ฝนสาดหน้า ก็ได้เป็นไอเดีย เอามาล้อกันดู จินตนาการเกี่ยวกับโครงสร้างเพลงสไตล์เดิม เป็นเรื่องที่ท้าทายอีกแบบ
ประสบการณ์แต่งเพลงมาจากรอบตัว การใช้ชีวิต ส่วนใหญ่มาจากการดูหนังหลายๆ เรื่อง หลายโทน แล้วได้ไอเดีย เช่น เพลงเนื้อหาเกี่ยวกับความรัก ชื่อเพลง ปีก รัก เปรียบการทำอะไรที่ปีกเปียกไปด้วยน้ำตา โทนอารมณ์นกบินอยู่แบบไม่สมหวัง เป็นไปในทางแฟนตาซี ก็เป็นเพลงแปลกๆ ที่แฟนๆ ชอบถามถึง
ถ้าคนไม่ใช่แฟนเพลงอ่าน จะทำให้รู้สึกกับการแต่งเพลง ได้รู้ในมุมลึก ภาพรวมคือความสนุกสนาน มิติในการแต่งเพลงมีมากมาย ถ้าไม่สนใจเรื่องการแต่งเพลง ผมก็หวังว่าเรื่องในนี้จะเป็นแรงบันดาลใจ เพราะเหมือนบันทึกการทำงานของสายอาชีพหนึ่ง”
มหากาพย์อัลบั้ม
ตัวเลข 10 ปี ได้ 1 อัลบั้ม ดูเหมือนนาน ห่างหาย แต่ในความเป็นจริงพาราด็อกซ์ยังทำงานทุกๆ วัน แม้การใช้ชีวิตของเขาก็ยังมาเป็นงานในบทเพลงนั่นละ
“เพลงใช้คำว่าดองได้ สถิติเราทำไว้ 7 ปี ในการแต่งให้จบเพลง เพลงส่วนใหญ่ถูกดองไว้แล้วมาเปิดกรุ เราเรียกเมื่อกรุแตกได้ฤกษ์ทำงานซะที ที่จริงอัลบั้มนี้ต้องออกเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ตั้งใจเป็นอัลบั้มคู่ด้วยซ้ำ แต่ผัดผ่อนไปเลย จนวงการเพลงเปลี่ยนเข้าสู่ยุคซิงเกิ้ล
เราก็มีเพลงปล่อยออกมาในกระแสนั้น เราทำงานไปเรื่อยๆ และมีคอนเสิร์ตแทบทุกวัน เวลาหมดไปกับการทัวร์คอนเสิร์ตเยอะ แล้วมีโปรเจกต์ต่างๆ มาแทรก ที่จริงอัลบั้มนี้เจ้าปัญหาที่สุดในชีวิต ไม่เคยท้อแท้เท่ากับอันนี้มาก่อน มันแบกหลายอย่าง แบกความกดดัน เหมือนเรามานั่งจัดห้องที่มีสายไฟระโยงระยาง มานั่งรื้อสาย มานั่งหาไฟล์ที่อัดไว้เมื่อ 5 ปีก่อน มานั่งเปิดนั่นนี่ มีปัญหาอื่นๆ อีก ด้วยระยะเวลาที่นาน มันทำให้ขี้เกียจทำด้วย
มันมีความรู้สึกอยากออกอัลบั้ม แต่ก็อ่อนล้าในการเริ่มต้นทำ เรื่องระบบการแต่งเพลง อัลบั้มนี้เป็นเพลงเก่าระบบโบราณหน่อย เพลงมีแต่เมโลดี้มาใส่เนื้อ แล้ววิธีนี้การใส่เนื้อยากมาก แค่คิดก็ขี้เกียจแล้ว อยู่ในความสับสนด้วยว่าเราจะทำอะไรดี”
ผลงานทำให้มีเวทีของตัวจริง
ตลอดระยะเวลา 20 ปีในวงการเพลง พาราด็อกซ์จัดเป็นวงดนตรีร็อกที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน และไม่เคยตามเทรนด์ใดๆ งานพวกเขาจะเรียกนอกกระแส นำกระแส หรืออะไรก็ช่าง แต่พาราด็อกซ์อยู่มาจนถึงทุกวันนี้ได้ก็เพราะความซื่อสัตย์ต่อดนตรีของตัวเองล้วนๆ จึงไม่แปลกที่แม้นานปีจะมีผลงานออกใหม่สักเพลง แต่ยังมีคอนเสิร์ตให้เล่นแทบทุกวัน แฟนเพลงยังให้การติดตามอย่างเหนียวแน่น เป็นอีกหนึ่งวงที่สามารถข้ามยุคสมัยมาได้และฝ่ากระแสวงการเพลงที่นักร้องล้มหายตายจาก ก้าวมาโดดเด่นเป็นตัวจริงในสนามดนตรี
“ทางออกวงการดนตรีตอนนี้คือ การทัวร์คอนเสิร์ต วงเก่าแฟนเพลงยังไม่ลืม ถ้าวงมีการเล่นต่อเนื่อง วงจะไม่หายไป ถ้าวงขาดตอนจะหายไป ผับบางผับจ้างงานเราจากการที่เห็นเราผ่านสื่อ การเล่นคอนเสิร์ต คือการโปรโมทตัวเองอีกแบบหนึ่งในยุคนี้ วงดังแต่ใช้รูปแบบการพักวงเพื่อทำอัลบั้ม คนลืมนะครับ
การอยู่รอดให้ได้สบาย คือการรับเล่นงานให้ได้บ่อยที่สุด อย่าถือตัว อย่าคิดเยอะ มันจะทำให้เราได้โปรโมทตัวเองไปเรื่อยๆ การเล่นต่อเนื่องเป็นทางออกของศิลปินในยุคนี้ ถ้ามีคอนเสิร์ตบ่อยๆ ก็มีรายได้ อัลบั้ม ซิงเกิ้ล เป็นคล้ายๆ โบรชัวร์ ทำออกมาให้เก็บเป็นผลงาน (เป็นขำๆ) วงเล็บให้ผมด้วยนะครับ เป็นขำๆ”
วงการเพลงแม้จะเปลี่ยนไป แต่คนทำงานเพลงจริงๆ จะไม่หายไป “ทุกวันนี้วงการเพลงของเราเปลี่ยนไปเยอะ แต่ผมมีความคิดว่าเปลี่ยนในทางที่ดี วงการเพลงมีการสื่อสารกันมากขึ้น ระหว่างคนทำงานเพลงกับแฟนเพลง แต่วงหน้าใหม่จะยากในการใช้ชีวิต ยากที่จะทำให้มันเป็นอาชีพได้
คนรุ่นใหม่เขาได้เปรียบในด้านการสื่อสาร แต่การจ้างงานจะยากกว่าวงยุคเก่า คนจำได้แต่เพลงฮิต ซิงเกิ้ลใหม่คนมาดูเพิ่มยอดวิวแต่คนร้องตามไม่ได้ ทำให้เราเห็นโครงสร้าง เพลงฮิตจากช่องทางไหน แล้ววงเราหลุดลอยจากคลื่นสึนามินิ ยุคนี้ออกยุคซิงเกิ้ลโชคร้ายมาก ไม่มีแผ่นให้เก็บจบหายไปตามกาลเวลา แต่ทุกทางมีทางออก วงการนักดนตรีอย่าคิดเรื่องเงินเป็นอันดับหนึ่ง ถ้าคิดเรื่องเงินแล้วจะ
อยู่ยาก ให้เริ่มจากความสุข แบ่งปัน ว่างก็ทำ ถ้าหน้าใหม่มาหวังรวยกอบโกย โครงสร้างความคิดผิดก็พัง”
แม้จะบอกว่าการทำงานอัลบั้มใหม่อ่อนล้า แต่ทั้ง 22 บทเพลงใน Before Sunrise, After Sunset กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังในการสร้างสรรค์ ทั้งการแต่งเนื้อเพลงและทำนองที่แปลกใหม่กว่าเดิม รวมถึงการทำดนตรีเอกลักษณ์ที่สะท้อนตัวตนของ “ต้า พาราด็อกซ์”


