เชลออยล์มะกันฟื้น สกัดโอเปกดันราคา
โดย...นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์
โดย...นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์
ความหวังของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก (โอเปก) ซึ่งร่วมมือกันลดกำลังการผลิตน้ำมันครั้งแรกในรอบ 8 ปี รวมถึงร่วมมือกับกลุ่มนอกโอเปกเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี เมื่อปลายเดือน พ.ย.ปีที่ผ่านมา เพื่อดันให้ราคาน้ำมันดิบโลกกลับมาดีดตัวขึ้นอีกครั้ง ดูจะกลายเป็นความพยายามที่ไม่สมหวังอย่างที่คาดง่ายๆ
หลังการบรรลุข้อตกลงดังกล่าว ราคาน้ำมันปรับขึ้นมากว่า 20% กลับขึ้นมาอยู่เหนือระดับ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งหลังข้อตกลงลดการผลิตมีผลเมื่อวันที่ 1 ม.ค. โอเปกได้เดินหน้าลดปริมาณการผลิตมาอย่างต่อเนื่อง โดยเอสแอนด์พี โกลบอล พลาตต์ส บริษัทวิจัยอุตสาหกรรมพลังงาน เปิดเผยว่า เปอร์เซ็นต์การทำตามข้อตกลงของโอเปกสูงถึง 91% เนื่องจากการผลิตในเดือน ม.ค.นั้นอยู่ที่ 32.89 ล้านบาร์เรล/วัน ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน และลดลงมาจากการผลิตเมื่อเดือน ธ.ค. 2016 ที่ 33.08 ล้านบาร์เรล/วัน
ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งถือเป็นพี่ใหญ่ในกลุ่มโอเปกนั้น มีบทบาทสำคัญในการทำให้สมาชิกกลุ่มโอเปกอื่นๆ ปฏิบัติตามข้อตกลงลดผลิตในครั้งนี้ โดยเอสแอนด์พี โกลบอล พลาตต์ส เปิดเผยว่า ซาอุดิอาระเบียลดการผลิตได้ 9.98 ล้านบาร์เรล/วัน เมื่อเดือน ม.ค. จากเป้าหมายที่ 10.47 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่อิรัก ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ในกลุ่มโอเปก ผลิตน้ำมันเกินข้อตกลงมาเพียง 1.3 แสนบาร์เรล
แม้การเดินหน้าลดผลิตของโอเปกเริ่มเข้าใกล้ความสำเร็จขึ้นทุกที แต่สถานการณ์ดังกล่าวกลับสู่จุดน่าวิตกอีกครั้งเมื่อผู้ผลิตน้ำมันจากหินดินดาน (เชลออยล์) กลับมาเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อหวังชิงตลาดกับกลุ่มโอเปก และทำให้ราคาน้ำมันพลิกกลับมาสู่ช่วงขาลง
บลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในวันที่ 8 ก.พ. โดยระหว่างการซื้อขาย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส งวดส่งมอบเดือน มี.ค. ลดลง 95 เซนต์ อยู่ที่ 51.22 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เช่นเดียวกับสัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ งวดส่งมอบเดือน เม.ย.ที่ร่วงลง 1.1% อยู่ที่ 54.44 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (เอพีไอ) เปิดเผยว่า สต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมา 14.2 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยบริษัทพลังงานเบเกอร์ ฮิวจ์ส ระบุว่า เชลออยล์เพิ่มแท่นขุดเจาะน้ำมันทั้งหมดเป็น 583 แท่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จาก 566 แท่นเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ซึ่งนับเป็นจำนวนแท่นขุดเจาะที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2015 นอกจากนี้นับตั้งแต่โอเปกบรรลุข้อตกลงลดผลิต จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของเชลออยล์เพิ่มขึ้นมาโดยตลอดราว 106 แท่น
การผลิตน้ำมันของเชลออยล์สหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศสหรัฐ (อีไอเอ) ปรับขึ้นคาดการณ์การผลิตน้ำมันของเชลออยล์ขึ้นเป็น 9 ล้านบาร์เรล/วัน ในปี 2017 จากคาดการณ์เดิมที่ 8.9 ล้านบาร์เรล/วัน อีกทั้งยังคาดว่าการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐจะพุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1970 ไปอยู่ที่ 9.5 ล้านบาร์เรล/วัน ในปี 2018
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้การกลับสู่ภาวะสมดุลของตลาดน้ำมันต้องใช้เวลานานยิ่งขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากเชลออยล์ส่งผลให้อุปทานน้ำมันเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยสกัดการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันต่อไปอีก
“แม้ว่าโอเปกหั่นกำลังการผลิตลง แต่การผลิตเพิ่มขึ้นของเชลออยล์ ทำให้การกลับสู่สมดุลของตลาดน้ำมันต้องใช้เวลานานยิ่งขึ้นกว่าเดิม รวมถึงยังเพิ่มความเสี่ยงฉุดให้ราคาน้ำมันกลับไปอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล” ริก สปูเนอร์ หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัย ซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์ กล่าว
ไม่เพียงแต่เชลออยล์จะกลับมาทำให้อุปทานน้ำมันล้นตลาดอีกครั้ง ผู้ผลิตน้ำมันสหรัฐยังทำให้โอเปกตกที่นั่งลำบากยิ่งขึ้น จากการเข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดน้ำมันเอเชีย ที่เป็นตลาดส่งออกน้ำมันใหญ่ของโอเปก ท่ามกลางดีมานด์น้ำมันโลกยังอยู่ในภาวะซบเซาอยู่ โดยอีไอเอได้หั่นคาดการณ์ดีมานด์น้ำมันโลกลง 1 หมื่นบาร์เรล/วัน อยู่ที่ 1.62 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ และปรับลดคาดการณ์ปี 2018 ลงอีก 5 หมื่นบาร์เรล/วัน อยู่ที่ 1.46 ล้านบาร์เรล/วัน
หลังกลุ่มโอเปกบรรลุข้อตกลงลดผลิต ซาอุดิอาระเบียได้ประกาศขึ้นราคาน้ำมันที่ส่งออกมายังเอเชียอีก 60 เซนต์/บาร์เรล ในเดือน ก.พ. ซึ่งเปิดโอกาสให้เชลออยล์สามารถส่งออกน้ำมันราคาถูกกว่ามายังเอเชียได้มากยิ่งขึ้น
รอยเตอร์สรายงานว่า กลุ่มเชลออยล์สหรัฐคาดว่าจะส่งออกน้ำมันราว 7-9 แสนบาร์เรล/วัน ในเดือน ก.พ. ซึ่งส่วนใหญ่จะส่งออกมายังตลาดเอเชีย เช่น ในจีน ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ โดยอีไอเอระบุว่า ปริมาณการส่งออกดังกล่าวจะทำสถิติการส่งออกสูงสุดใหม่
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ที่รัฐบาลสหรัฐยกเลิกข้อจำกัดในการส่งออกน้ำมันเมื่อปีที่แล้ว ยอดส่งออกน้ำมันของผู้ผลิตสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นมาตลอด และแตะระดับสูงสุดเมื่อเดือน ก.ย. 2016 ที่ 6.92 แสนบาร์เรล/วัน โดยตัวเลขการส่งออกน้ำมันของสหรัฐล่าสุดจากอีไอเอเมื่อเดือน พ.ย. ยังคงอยู่ที่ระดับสูงมากที่ 5.97 แสนบาร์เรล/วัน
กลุ่มเชลออยล์สหรัฐถือเป็นไม้เบื่อไม้เมากับโอเปกมาโดยตลอด และการกลับมาผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในครั้งนี้ ซึ่งมากกว่าครั้งไหนๆ ที่ผ่านมา ก็ทำให้ความพยายามตลอดที่ผ่านมาของโอเปกดูจะเปล่าประโยชน์ ในสงครามน้ำมันที่อาจกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง


