posttoday

สปก.นัดถกเอกชน แก้ปมเช่าที่ผลิตไฟฟ้า

03 กุมภาพันธ์ 2560

ภายในสัปดาห์หน้าสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จะเชิญผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตให้เช่าพื้นที่ ส.ป.ก.ติดตั้งกังหันลมเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าทั้ง 19 ราย มาหารือร่วมกัน เพื่อกำหนดกรอบกลางหลักเกณฑ์การใช้พื้นที่และกิจกรรมของแต่ละรายให้ไปในแนวทางเดียวกัน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ก.พ.นี้

ภายในสัปดาห์หน้าสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จะเชิญผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตให้เช่าพื้นที่ ส.ป.ก.ติดตั้งกังหันลมเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าทั้ง 19 ราย มาหารือร่วมกัน เพื่อกำหนดกรอบกลางหลักเกณฑ์การใช้พื้นที่และกิจกรรมของแต่ละรายให้ไปในแนวทางเดียวกัน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ก.พ.นี้

สมปอง อินทร์ทอง เลขาธิการ ส.ป.ก. ระบุว่า การหารือในครั้งนี้เพื่อหาแนวทางป้องกันปัญหาการฟ้องร้องเอกชนที่อาจเกิดขึ้น เช่นกรณีบริษัท เทพสถิต วินด์ฟาร์ม ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้ยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่หลังถูกชาวบ้านยื่นฟ้องเมื่อปี 2552

“กรณีบริษัท เทพสถิต วินด์ฟาร์ม ถือเป็นกรณีศึกษาให้ ส.ป.ก.มาทบทวนสัญญาเช่าที่ดินของเอกชนใหม่ โดยจะมีการนำสัญญาของทุกบริษัทที่ได้อนุญาตเช่ามาดูว่าสัญญาเช่าเป็นอย่างไร และมีการดำเนินการตามสัญญาจริงหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดกรณีฟ้องร้องเกิดขึ้นอีก

“ต่อไปคงจะต้องดูสัญญาให้เข้มขึ้นว่าดำเนินการจริงตามที่เสนอมาหรือไม่ ทั้งก่อนและหลังเปิดดำเนินการ เพราะก่อนอนุญาตก็มีการตรวจความเป็นไปได้โครงการที่เสนอมาในสัญญาแล้วว่าจะทำอะไรบ้าง แต่ในระหว่างที่เปิดดำเนินการอาจจะมีบางโครงการที่ทำไม่ได้ตามสัญญา ซึ่ง ส.ป.ก.จะเข้าไปตรวจดูให้มากขึ้น” สมปอง กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบัน ส.ป.ก.ได้อนุญาตให้ผู้ประกอบการเช่าที่ดินติดตั้งกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าอยู่ทั้งหมดรวม 19 ราย คือ จ.นครราชสีมา 7 ราย และชัยภูมิ 12 ราย

อย่างไรก็ตาม ในการหารือกับผู้ประกอบการในครั้งนี้ ทาง ส.ป.ก.มีข้อเสนอด้วยว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่เอกชนจะจ่ายไฟให้กับชาวบ้านในพื้นที่ในราคาพิเศษ ต่ำกว่าการขายไฟในราคาปกติ ซึ่งจะเป็นกิจกรรมที่เกิดประโยชน์โดยตรงกับพื้นที่

สำหรับผลของคำสั่งศาลปกครองกรณีบริษัท เทพสถิต วินด์ฟาร์ม เบื้องต้นคงทำอะไรไม่ได้ เพราะศาลตัดสินออกมาแล้วถือว่าสิ้นสุด แต่ทางบริษัทสามารถฟ้องร้องค่าเสียหายต่อรัฐได้ หากมองว่าเป็นความเสียหายที่เกิดจากภาครัฐ

ด้าน วีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า  กกพ.จะหารือแนวทางดำเนินการที่ชัดเจนเกี่ยวกับการบริหารจัดการโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม (วินด์ฟาร์ม) กับ ส.ป.ก.ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า โดยหากต้องยกเลิกโครงการวินด์ฟาร์มทั้งหมดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กกพ.ก็จะพิจารณามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบต่อไป

“มีข้อเสนอให้ไปพัฒนาวินด์ฟาร์มในพื้นที่ภาคใต้ เพราะมีศักยภาพสูง เพราะปัจจุบันโครงการส่วนใหญ่ 80% ดำเนินการอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่จะทำให้ช่วงเวลาการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบล่าช้าออกไป เนื่องจากต้องเริ่มต้นโครงการใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะการวัดปริมาณลมในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อนเป็นเวลา 1 ปี เพื่อพิจารณาว่าพื้นที่ดังกล่าวมีปริมาณลมสม่ำเสมอและคุ้มค่าแก่การลงทุนหรือไม่” วีระพล ระบุ

วีระพล กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีโครงการวินด์ฟาร์มที่ กกพ.ทำสัญญาตอบรับซื้อไฟฟ้าแล้ว 1,500 เมกะวัตต์ โดยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว 300 เมกะวัตต์ เกือบทั้งหมดดำเนินการในที่ดินของ ส.ป.ก. ดังนั้นหาก ส.ป.ก.บังคับใช้คำสั่งยกเลิกสัญญาการเช่าที่ดินของโครงการวินด์ฟาร์มทั้งหมดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาจจะส่งผล
กระทบต่อการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมทั้งระบบ 

“แต่จะไม่กระทบต่อสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาวของประเทศ (พีดีพี 2015) เนื่องจากมีการกำหนดสัดส่วนการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพียง 1.6 หมื่น เมกะวัตต์ ภายในปี 2579 ขณะนี้รับซื้อไปแล้วกว่า 9,000 เมกะวัตต์” วีระพล กล่าว

ข่าวล่าสุด

SCB WEALTH กวาด 6 รางวัลระดับโลก สะท้อนความเป็นเลิศในทุกมิติการบริหารความมั่งคั่ง