พบคอสะพานขาดเพิ่มภาคใต้ถูกตัดขาดทั้งขาขึ้นและขาล่อง
ประจวบคีรีขันธ์-แขวงทางหลวงพบสะพานหนองหญ้าปล้องขาดเพิ่มอีก1แห่ง ถนนเพชรเกษมถูกตัดขาดภาคใต้ทั้งขาขึ้นขาล่อง
ประจวบคีรีขันธ์-แขวงทางหลวงพบสะพานหนองหญ้าปล้องขาดเพิ่มอีก1แห่ง ถนนเพชรเกษมถูกตัดขาดภาคใต้ทั้งขาขึ้นขาล่อง
เมื่อวันที่ 10 ม.ค.2560 นายอภิชาติ ชาญธัญกร ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดมีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อำเภอบางสะพานได้ทำให้คอสะพานบ้านวังยาวบริเวณหลัก กม.ที่ 386-500 ขาดทั้งฝั่งขาขึ้นและขาล่องใต้ จึงจำเป็นต้องปิดการจราจร รถทุกชนิดไม่สามารผ่านไปได้ ซึ่งการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าคือการสร้างสะพานแบริ่ง โดยจะต้องรอ ชุดสะพานแบริ่งจากจังหวัดปทุมธานี เข้าดำเนินการแต่อุปสรรคสำคัญคือปัญหาทางด้านการจราจร
นอกจากนี้แล้ว ยังพบว่าสะพานหนองหญ้าปล้อง ถ.เพชรเกษม กม365+700 ต.ชัยเกษม อ.บางสะพาน ก็ได้ขาดทั้งขึ้นล่องรถทุกชนิดผ่านไม่ได้ ตั้งแต่เวลา 09.00 น.
ด้านสำนักงานทางหลวงที่ 15 (ประจวบคีรีขันธ์) รายงานว่ามีเส้นทางที่ถูกน้ำท่วมรถยังผ่านไม่ได้ดังนี้
ทางหลวงหมายเลข 4 ห้วยยาง – บางสะพาน ในพื้นที่ อ.ทับสะแก การจราจรผ่านไม่ได้จำนวน 1 แห่ง ระหว่าง กม.365+628 คอสะพานขาดด้านฝั่งขาเข้า (อยู่ระหว่างดำเนินการทอดสะพานเบลี่ย์)
ทางหลวงหมายเลข 4 บางสะพาน – น้ำรอด ในพื้นที่ อ.บางสะพาน การจราจรผ่านไม่ได้จำนวน 1 แห่ง ระหว่าง กม.386+542 คอสะพานขาด (อยู่ระหว่างดำเนินการทอดสะพานเบลี่ย์)
ทางหลวงหมายเลข 3374 บางสะพาน – หนองหัดไท ในพื้นที่ อ.บางสะพาน การจราจรผ่านไม่ได้จำนวน 1 แห่ง ระหว่าง กม.0+551 – 3+000
ทางหลวงหมายเลข 3497 ช้างแรก – บางสะพานน้อย ในพื้นที่ อ.บางสะพาน การจราจรผ่านไม่ได้จำนวน 1 แห่ง บริเวณ กม. 8+700 – 8+730
ทั้งนี้ยังเกิดฝนตกหนักในบางพื้นที่ของภาคใต้ สถานการณ์ยังคงต้องเฝ้าระวังตลอดเวลา ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่มจึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานของกรมทางหลวงประกอบด้วยสำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง และหมวดทางหลวงในพื้นที่ เตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นตลอด 24 ชม. โดยภารกิจหลักตอนนี้คือช่วยให้การจราจรผ่านได้ก่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่สะพานขาดหน่วยงานดำเนินการเองของกรมทางหลวงได้แก่ศูนย์สร้างทางและศูนย์สร้างและบูรณะสะพานในพื้นที่ เข้าพื้นที่แก้ไขโดยใช้เวลาอย่างรวดเร็วที่สุด หลักจากเมื่อน้ำลดจะทำการสำรวจความเสียหายเพื่อซ่อมแซมสู่ความยั่งยืนต่อไป
พร้อมทั้งนี้ ขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการใช้เส้นทางเพิ่มขึ้น เพื่อความสะดวกและปลอดภัย ของผู้ใช้ทาง หากต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)
ภาพ/ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์


