posttoday

ลอว์สันดึงวัยรุ่นเวียดนาม รับมือญี่ปุ่นขาดแรงงาน

24 กันยายน 2559

การทำงานพาร์ตไทม์ที่ร้านสะดวกซื้อ ถือได้ว่าเป็นวัฒนธรรม อย่างหนึ่งที่วัยรุ่นและนักศึกษามหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นส่วนใหญ่ต้องเคยมีประสบการณ์

โดย...อักษราภัค ลาภานันต์

การทำงานพาร์ตไทม์ที่ร้านสะดวกซื้อ ถือได้ว่าเป็นวัฒนธรรม อย่างหนึ่งที่วัยรุ่นและนักศึกษามหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นส่วนใหญ่ต้องเคยมีประสบการณ์ เป็นที่มาให้ ลอว์สัน กลุ่มธุรกิจร้านค้าปลีกจัดตั้งศูนย์การฝึกอบรมพนักงาน เพื่อรับสมัครวัยรุ่นเหล่านี้เข้ามาเรียนรู้วิธีการบริการลูกค้า ก่อนที่จะกระจายตัวไปทำงานในสาขาต่างๆ ทั่วประเทศ

อย่างไรก็ดี ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ลอว์สันได้ขยายไปสู่โครงการรับสมัครวัยรุ่นชาวเวียดนาม มีการตั้งศูนย์ฝึกอบรมที่กรุงฮานอยและโฮจิมินห์ ไม่ใช่เพียงแค่ในกรุงโตเกียวเท่านั้นอีกต่อไป เพื่อดึงดูดพนักงานใหม่จากกลุ่มผู้ที่กำลังจะเข้ามาเรียนต่อในญี่ปุ่น เพื่อรับมือกับการเข้าสู่ภาวะขาดแคลนแรงงานอย่างหนักในประเทศ

ลอว์สันตั้งเป้าหมายฝึกอบรมนักศึกษาชาวเวียดนาม 100 ราย ในช่วงปีแรกของโครงการ และจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นในอนาคต โดยเป็นโครงการสำหรับนักศึกษาที่จะมาเรียนต่อในญี่ปุ่นเท่านั้น และบริษัทจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการศึกษา ค่าใช้จ่ายอื่น รวมทั้งวีซ่าของว่าที่นักศึกษาเหล่านี้

"เป้าหมายของบริษัทคือช่วยให้ผู้ที่กำลังจะเข้ามาศึกษาต่อสามารถหางาน พาร์ตไทม์ที่ร้านลอว์สันได้ง่ายขึ้นระหว่างที่อยู่ในญี่ปุ่น โดยผู้ที่จะรับเข้ามาทำงานนั้นจะต้องมีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นอยู่บ้าง" ประกาศของลอว์สัน ระบุ

นอกจากนี้ ลอว์สัน เสริมว่า โครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในวิธีการรับมือกับภาวะขาดแคลนแรงงานที่มีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยประชากรวัยทำงานของญี่ปุ่นปรับตัวลดลงราว 1 ล้านคน ในแต่ละปี ส่วนอัตราการว่างงานก็ลดลงอยู่ที่เพียง 3%

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมาแล้วตั้งแต่ปี 2010 เป็นผลให้ตลาดแรงงานในปัจจุบันตึงตัวอย่างรุนแรง จากปริมาณแรงงานที่ลดลง ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรี ชินโสะ อาเบะ ก็ยิ่งทำให้ความต้องการแรงงานขยายตัวขึ้น

โครงการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า นโยบายเศรษฐกิจของอาเบะ หรือที่เรียกว่า อาเบะโนมิกส์ ส่งผลให้เกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็วของผู้อพยพเข้ามาอยู่ในญี่ปุ่นระยะสั้น ภายใต้วีซ่าสำหรับแรงงานจากประเทศที่ยากจนกว่า

ไฟแนนเชียลไทมส์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ที่อาเบะเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศเมื่อปลายปี 2012 มีจำนวนชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 10% หรือเพิ่มขึ้นมา 2.2 ล้านคน โดยในจำนวนนี้มีจำนวนผู้เข้ามาฝึกงานทางเทคนิค ซึ่งเพิ่มขึ้น 27% และเมื่อพิจารณาเพียงจำนวนนักศึกษาต่างชาติที่เข้ามา พบว่าเพิ่มขึ้น 36% ในช่วงเวลาดังกล่าว โดยแรงงานต่างชาติได้เข้ามาทำงาน 10-15% ของจำนวนงานใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้อาเบะโนมิกส์
  
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นได้ออกวีซ่าสำหรับผู้ที่จะเข้ามาฝึกงานทางเทคนิค ซึ่งอนุญาตให้แรงงานจากประเทศกำลังพัฒนาสามารถเข้ามาฝึกงานในบริษัทเทคโนโลยีระดับสูงได้สูงสุดถึง 3 ปี กลายเป็นหนึ่งในผู้อพยพประเภทหลักที่ญี่ปุ่นรับเข้ามา โดยมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 1.92 แสนราย จาก 4.11 หมื่นราย ตั้งแต่ที่เริ่มยุคอาเบะโนมิกส์
 
กระนั้นทางการญี่ปุ่นก็ยังมีนโยบายควบคุมผู้อพยพถาวรอย่างเข้มงวด ซึ่งอาจจะถือว่าเป็นอีกหนึ่งมาตรการที่บรรดาบริษัทญี่ปุ่นใช้เพื่อควบคุมไม่ให้ค่าแรงเพิ่มขึ้นมากเกินไป

มิตซูฮิโระ ฟูกาโอะ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเคโอ ระบุว่า มีการเข้ามาของแรงงานที่เน้นราคาถูก โดยอำพรางเข้ามาภายใต้วีซ่าสำหรับ ผู้ฝึกงานทางเทคนิค โดยเกือบครึ่งของ ผู้ที่เข้ามาด้วยวีซ่าดังกล่าวมาจากจีน แต่ในขณะนี้จำนวนแรงงานจากเวียดนามก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า จากเมื่อปี 2012 ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเกี่ยวโยงกับประเทศที่กำลังมีเศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม แม้ผู้อพยพระยะสั้นเหล่านี้จะช่วยลดแรงกดดันจากตลาดแรงงาน แต่บรรดาภาคธุรกิจก็ยัง ไม่พอใจกับระดับแรงงานผู้อพยพระยะยาว ซึ่งยังมีจำนวนน้อย โดยหวังว่าจะเข้ามาช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากจำนวนประชากรที่ลดลงเรื่อยๆ

ประเด็นดังกล่าวยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในทางการเมือง แม้อาเบะจะมีท่าทีผ่อนคลายมาตรการรับแรงงานมีฝีมือเข้ามาเป็นผู้อพยพถาวรหรือระยะยาวบ้าง แต่ก็มีผู้เข้ามาด้วยวีซ่าดังกล่าวก็ยังมีจำนวนน้อย
 
ด้าน ฟูกาโอะ เสริมว่า สถานการณ์ขาดแคลนอย่างหนักขนาดนี้ โดยเฉพาะในภาคพยาบาลหรือการดูแลผู้ป่วยก็อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยมองว่าแรงต้านผู้อพยพกำลังค่อยๆ ลดลง

ล่าสุด มาซาฮิโกะ ชิบายามะ สมาชิกพรรคเสรีประชาธิปไตยของญี่ปุ่น เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลกำลังวางแผนรับแรงงานต่างชาติเพิ่มเป็น 2 เท่า สอดคล้องกับที่ ยาสุโตชิ นิชิมูระ ที่ปรึกษาของ อาเบะ และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ ระบุว่า รัฐบาลเตรียมผ่านร่างกฎหมายขยายระยะเวลาให้แรงงานต่างชาติสามารถทำงานในประเทศได้ถึง 5 ปี จากในปัจจุบันที่ 3 ปี พร้อมทั้งพิจารณาเพิ่มประเภทวีซ่าใหม่ สำหรับแรงงานที่เข้ามาทำงานในญี่ปุ่นโดยเฉพาะ โดยกำลังหารือเพื่อเพิ่มจำนวนแรงงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจากอินเดียและเวียดนาม

ข่าวล่าสุด

ทรูเปิด True Alpha Hub สยามสแควร์ แลนด์มาร์กใหม่ Gen Alpha