ย้อนรอยกว่า20 ชม.พลิกป่าค้นหาฮ.ปลัดทส.
ย้อนรอยเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์คณะปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯหายจากจอเรดาห์ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 17 ส.ค. ก่อนเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาข้ามวันจนพบ
ย้อนรอยเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์คณะปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯหายจากจอเรดาห์ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 17 ส.ค. ก่อนเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาข้ามวันจนพบ
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา สัญญาณจาก เฮลิคอปเตอร์ อีโคลอย หรือ AS 350 1103 ที่มีนายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายสหัส บุญญาวิวัฒน์ ที่ปรึกษาสำนักพระราชวัง พร้อมนักบินและช่างเครื่องรวม 5 คน นั่งไปตรวจเยี่ยมโครงการปิดทองหลังพระเกี่ยวกับการรักษาป่าชุมชนที่ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน ได้หายไปจากจอเรดาห์และขาดการติดต่อ ท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนัก หลังบินขึ้นจากสนามบินพิษณุโลกมาได้ 43 ไมล์
พลันที่สัญญาณขาดหายไป เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกค้นหาจ้าละหวั่นทั่ว จ.พิษณุโลก ต่อมาเวลา 13.00 น. ดอลาร์หรือศูนย์ควบคุมการบินระยะไกล ได้โทรศัพท์แจ้งมาที่ศูนย์ควบคุมการบินพิษณุโลกว่า เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวได้ขอลงฉุกเฉิน ท่ามกลางกระแสข่าวสะพัดว่าเครื่องบินลำดังกล่าวได้ลงจอดฉุกเฉินที่ไร่ข้าวโพด บ้านห้วยเหียง ต.นาทะนุง อ.นาหมื่น จ.น่าน ซึ่งผู้โดยสารทุกคนปลอดภัยดี แต่เมื่อเข้าตรวจสอบในพื้นที่ก็ไม่พบเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว
ในช่วงดังกล่าวได้มีชาวบ้านในอ.นาหมื่นได้แจ้งมายังเจ้าหน้าที่ว่าพบเห็น เห็นเฮลิคอปเตอร์บินอยู่ในพื้นที่ป่าเขต ภายใน อุทยานแห่งชาติ ขุนสถาน อ.นาหมื่น ซึ่งเป็นพื้นที่เขาสูงรกทึบ ประกอบกับเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภับจังหวัดน่าน ได้รับการยืนยันจากผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั้ง เอไอเอสและ กสท.โทรคมนาคม ว่า สามารถจับคลื่นสัญญาณโทรศัพท์มือถือของผู้ที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ได้ครั้งสุดท้ายเมื่อเวลา 13.00น. ที่บริเวณเขต ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น จึงมั่นใจว่าที่เกิดเหตุอยู่ในบริเวณดังกล่าว
สภ.นาหมื่น ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ปกครอง ป่าไม้ เข้าไปในพื้นที่เข้าค้นหาในพื้นที่ดังกล่าว แต่ว่าในพื้นที่เป็นภูเขาและฝนตกหนัก ทำให้ไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวได้ ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้ยังไม่ทราบชะตากรรมผู้โดยสารทั้งหมดปลอดภัยหรือไม่
ต่อมาในเวลา 18.30 น. นายวีรวิทย์ วิวัฒนวานิช ผวจ.น่าน พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.ต.ชีวัน โหละบุตร ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกน่าน ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่นำเฮลิคอปเตอร์จำนวน 4 ลำ เป็นของกระทรวงทรัพยากรฯ 2 ลำ ทบ.อีก 2 ลำ ลาดตระเวนพื้นที่ 20 ตร.กม. แถบผาชู้ ห้วยเหียง ปลายน้ำลี ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ ต.นาทะนุง ต.ปิงหลวง ต.เมืองลี อ.นาหมื่น เพื่อเร่งค้นหาในช่วงเวลาก่อนฟ้ามืดแต่ก็ไม่พบ
ขณะที่อีกด้านได้ขอให้ชาวบ้าน กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่อาสมัคร (อส.) ฝ่ายปกครอง อ.นาหมื่น เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ออกเดินเท้าสำรวจภาคพื้นดินที่มีสภาพเป็นป่า การประสานงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะพื้นที่เป้าหมายไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือเลย และยังไม่ทราบชะตากรรมว่าทั้งหมดปลอดภัยดีหรือไม่ และเมื่อถึงเวลาประมาณ 19.00 น. เป็นเวลามืดค่ำหรือสภาพฟ้าปิด ก็ได้หยุดค้นหาและกลับมาวางแผนกันใหม่อีกครั้ง โดยจะบีบพื้นที่ให้แคบลงเพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา
"ตรวจสอบโทรศัพท์จากนักบินก็ทราบว่ามีสัญญาณโทรศัพท์ติดต่อได้ แต่ไม่มีคนรับ" พล.ท.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยถึงสัญญาณร้ายหลังค้นหาทั้งทางบกและอากาศเมื่อวันที่ 17 ส.ค. นานกว่า 10 ชั่วโมง
กระทั่งเวลา 05.00น. ของวันที่ 18 ส.ค. เจ้าหน้าที่ชุดค้นหาภาคพื้นดินที่ได้ดำเนินการค้นหาตลอดทั้งคืนได้พบเฮลิคอปเตอร์ของคณะปลัดกระทรงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ บริเวณบ้านน้ำแขว่ง ต.เมืองลี่ อ.นาหมื่น โดยเจ้าหน้าที่คาดว่า เฮลิคอปเตอร์จะชนเข้ากับภูเขา ซึ่งสภาพเครื่องได้รับความเสียหายอย่างหนัก รวมทั้งพบศพนักบินและผู้โดยสารทั้ง 5 ราย


