ตำรวจจับหนุ่มหื่นขืนใจผู้ช่วยพยาบาลตั้งข้อหาเพิ่มฐานพยายามฆ่า

บุรีรัมย์-หนุ่มวัย24สารภาพเมาจนหื่นกามลงมือข่มขืนผู้ช่วยพยาบาลสาวแถมซ้อมน่วมแล้วชิงทรัพย์พบข้อมูลรู้จักเหยื่อมาตั้งแต่เด็กตำรวจตั้งข้อหาเพิ่มฐานพยายามฆ่า

เมื่อวันที่21ก.ค.59 เวลา 11.00น. พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์  พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิศิษฐ์  ศรีสุพล ผกก.สภ.คูเมือง และตำรวจชุดสืบสวน สภ.คูเมือง แถลงจับนายปกครอง หรืออ๊อฟ  ดินไธสงอายุ 24 ปี ผู้ต้องหา ที่ได้ก่อเหตุดักถีบรถจักรยานยนต์ ผู้ช่วยพยาบาลสาว ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งแล้วใช้กำลังข่มขืนทำร้ายร่างกายเหยื่อได้รับอันตรายสาหัสและชิงทรัพย์ก่อนหลบหนีไป หลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีไปกบดานอยู่บ้านญาติที่ จ.จันทบุรี กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายศาลเข้าจับกุมตัวเอาไว้ได้ ที่บ้านพักคนงานภายในสวนไม่ทราบชื่อ ถ.เทศบาลสาย 1 ซอย 4 ต.เขาวัว อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี โดยตั้งข้อหา“ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น เพื่อสนองความต้องการของผู้กระทำ โดยใช้กำลังประทุษร้าย และลักทรัพย์ของผู้อื่น” พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง สีขาว ของผู้เสียหาย

นายปกครอง หรืออ๊อฟ ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุกับผู้ช่วยพยาบาลจริงเพราะเกิดอารมณ์ชั่ววูบหลังได้ตั้งวงดื่มสุรากับเพื่อนในหมู่บ้านเมื่อเมาได้ที่ก็เกิดอารมณ์เมื่อเห็นเหยื่อขับรถจักรยานยนต์สวนทางผ่านมาจึงขับรถจักรยานยนต์แล้วถีบรถจักรยานยนต์ล้มลง ก่อนลากตัวลงป่ายูคาลิปตัสข้างทางพร้อมลงมือก่อเหตุ แล้วหลบหนีไป ที่อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ก่อนตำรวจจับกุม และจากข้อมูลพบว่าบ้านของผู้ต้องหาและผู้เสียหายอยู่ห่างกันเพียง 100 เมตร และรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ไม่คาดคิดว่าจะกระทำกับคนที่คุ้นเคยกันมาก่อน 
 
สำหรับนายปกครองก่อนหน้านี้เคยก่อเหตุข่มขืนนักเรียนหญิงชั้น ป.6 ซึ่งเป็นแฟนสาวของตัวเอง แต่ญาติผู้เสียหายไม่ได้แจ้งความเอาผิด เพียงตกลงชดใช้ค่าเสียหายกันเท่านั้น จึงทำให้เกิดความย่ามใจ แล้วมาลงมือก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวซ้ำอีก นอกจากนี้ยังเคยมีคดีหลายคดี ทั้งข่มขืนกระทำชำเรา  ลักทรัพย์ เคยถูกจับกุมดำเนินคดีและติดคุกมาแล้ว ตั้งแต่อายุ 16 ปี แต่พ้นโทษออกมาก็ยังไม่ซ้ำนึกกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก

พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ ระบุว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่สร้างความสะเทือนใจแก่ประชาชนและสังคมเป็นอย่างมาก ส่วนกรณีที่ญาติไม่พอใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการติดตามจับกุมตัวคนร้ายล่าช้าก็จะมีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป ส่วนกรณีที่ญาติกังวลว่าผู้ต้องหามีญาติเป็นคนสนิทของนักการเมืองในพื้นที่นั้น อาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเกี่ยวกับเรื่องคดีนั้นก็ขอยืนยันว่าพร้อมจะตั้งกรรมการขึ้นมาสอบวนคดีดังกล่าวเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และจากพฤติกรรมการกระทำของผู้ต้องหาก็จะรวบรวมพยานหลักฐานจากผู้เสียหายแล้ว แจ้งข้อหา “พยายามฆ่า” เพิ่มเติมอีกด้วย