posttoday

น่านเจอสารเคมีปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐาน

13 กรกฎาคม 2559

น่าน-น่านเจอสารเคมีปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐาน ผู้ว่าฯเตรียมประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติทางสารเคมี ชงใช้มาตรา44ห้ามใช้ยาฆ่าหญ้าในพื้นที่ต้นน้ำ

น่าน-น่านเจอสารเคมีปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐาน ผู้ว่าฯเตรียมประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติทางสารเคมี ชงใช้มาตรา44ห้ามใช้ยาฆ่าหญ้าในพื้นที่ต้นน้ำ

เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 59 นายสุวัฒน์  พรมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วย พลตรีชัยณรงค์  แกล้วกล้า  ผู้บัญชาการมณฑลทหารที่ 38  เรียกประชุมด่วนเพื่อจัดตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อแก้ปัญหาการใช้สารเคมีในภาคการเกษตรในพื้นที่จังหวัดน่าน หลังรศ.ดร.พวงรัตน์  ขจิตวิชยานุกูล อาจารย์คณะวิศวรรกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร  เปิดเผยถึงผลวิจัยออกสู่สาธารณะว่าจังหวัดน่านมีการใช้สารเคมีด้านการเกษตรมีปริมาณสูงถึงปีละ 2,400,000 กิโลกรัมต่อปี   และจากสุ่มตรวจปลาในแม่น้ำ  ซึ่งพบสารเคมี ไกรโฟเซต  ซึ่งเป็นยาฆ่าหญ้าชนิดดูดซึม พบมีปริมาณสูงกว่า 10,000 ไมโครกรับต่อกิโลกรัม  ซึ่งเป็นปริมาณความเข้มข้นที่เกินค่ามาตรฐานของสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ  และมาตรฐานสากล ของ Codex  ที่ต้องไม่เกิน 50 ไมโครกรัม ต่อกิโลกรัม นอกจากนี้ยังพบสารเคมีที่ใช้ในการเกษตร 4 ชนิด ได้แก่  ไกรโฟเซต,อาทราซีน,พาราควอตและคลอร์ไพริฟอส  ปนเปื้อนในน้ำประปาหมู่บ้าน และโรงผลิตน้ำดื่มทั่วทั้งจังหวัดน่าน  ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ

รศ.ดร.พวงรัตน์  ขจิตวิชยานุกูล   อ.คณะวิศวรรกรรมศาสตร์  มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดเผยว่า จากผลวิจัยพบว่า ปัญหาสารเคมีที่ใช้ปลูกข้าวโพด กระจายเกือบทั่วทั้งจังหวัดน่าน ไม่ใช่แค่เพียงดินเท่านั้น ยังกระจายไปถึงแหล่งน้ำสำคัญที่หล่อเลี้ยงคนน่านและคนลุ่มน้ำเจ้าพระยา   ผลสำรวจพบว่าเกษตรกรใช้สารเคมี 2,400,000 กิโลกรัมต่อปีและพบว่า มีสารเคมีทางการเกษตร หรือ ยาฆ่าหญ้าชนิดต่างๆ ปนเปื้อนในเนื้อปลา และน้ำประปา น้ำดื่ม   ซึ่งจากการสุ่มตรวจน้ำ 9  ตัวอย่างจาก 8 อำเภอในจังหวัดน่าน  พบมีสารอาทราซีน หรือยากำจัดวัชพืช  ปนเปื้อนในน้ำประปาเข้มข้น ค่าเฉลี่ย 18.78 ไมโครกรัมต่อลิตร ขณะที่ค่าสูงสุดที่ยอมรับได้ในประเทศออสเตเรียคือ 0.5 ไมโครกรัมต่อลิตร  แต่ประเทศไทยยังไม่มีการกำหนดค่ามาตรฐานสารเคมีชนิดนี้ในน้ำดื่ม

ด้าน นายสุวัฒน์  พรมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า ได้สั่งการให้สาธารณสุขจังหวัดน่าน เร่งตรวจสอบคุณภาพน้ำประปาในพื้นที่จังหวัดน่าน หลังมีข้อมูลงานวิจัย จากมหาวิทยาลัยนเรศวรว่า พบสารเคมีปนเปื้อนในระบบน้ำประปาของหมู่บ้าน โดยจะขอเปรียบเทียบผลงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยอื่นๆ ซึ่งเคยทำงานวิจัยไว้ก่อนหน้านี้อีก 4 ฉบับ และทำการทดสอบผลการตรวจคุณภาพน้ำอย่างละเอียดซ้ำอีกครั้ง ซึ่งหากพบว่ามีการปนเปื้อนจนถึงขั้นวิกฤต จะให้ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติสารเคมีตามระเบียบราชการ และจะประสานไปยังผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหา

ที่ผ่านมามีการตั้งคณะทำงานบริหารจัดการปัญหาการใช้เคมีในภาคการเกษตรและเคยเสนอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมใช้มาตรา 44 ประกาศห้ามใช้ยาฆ่าหญ้าในพื้นที่ป่าต้นน้ำ แต่มีข้อจำกัดเพราะนโยบายรัฐยังเปิดเสรีทางการค้าระหว่างประเทศ จึงยังมีการนำเข้ายาฆ่าหญ้าต่อเนื่อง   อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้ขอความร่วมมือให้ทางคณะวิจัยมหาวิทยาลัยนเรศวร และอีก 8 มหาวิทยาลัย ที่พร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจค่าระดับความรุนแรงของสารเคมีที่พบในปลา เนื้อสัตว์ น้ำประปา  และน้ำดื่ม อย่างเร่งด่วน เพื่อนำมาสู่ความร่วมมือในการแก้ปัญหา พร้อมกับขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนก และรอฟังผลการวิจัยอย่างชัดเจนก่อน.