"วัยโจ๋ขี่บิ๊กไบค์"...ไม่อยากตายฟรีต้องจำกัดอายุ
เเก้ปัญหาครอบครองบิ๊กไบค์ของเยาวชน ด้วยการจำกัดอายุผู้ขับขี่
โดย..วรรณโชค ไชยสะอาด
ตลาดซื้อขายรถบิ๊กไบค์กำลังเติบโตไม่หยุด เด็กหนุ่มวัยรุ่นวัยเรียนต่างพากันถอยออกมาขับขี่บนท้องถนน โดยลืมไปว่าตัวเองไร้ทักษะการขับขี่ วุฒิภาวะการตัดสินใจหย่อนยาน มีแต่ความคึกคะนอง ส่งผลให้อุบัติเหตุและเสียชีวิตของคนกลุ่มนี้เกิดขึ้นบ่อยจนน่าตกใจ
เสียงเรียกร้องให้แก้ไขปัญหานี้จึงตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ห้าวเป้ง...ต้นเหตุนักบิดวัยคะนองเสียชีวิต
ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบกระบุว่า อุบัติเหตุทางถนนกว่า 80 % เกิดจากความประมาท โดยรถที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือรถจักรยานยนต์ สาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่หนีไม่พ้นไม่สวมหมวกนิรภัยและขับรถเร็ว
อาจารย์โฮ่-ชาติชาย แซ่ลิ้ม อดีตนักแข่งชื่อดังและผู้ก่อตั้ง ho racing school บอกว่า ปัญหาของเด็กๆหลายคน คือความห้าว ซ่า คึกคะนอง มีประสบการณ์ขับขี่เพียงแค่รถขนาดเล็ก แต่คิดว่าตัวเองสามารถควบคุมรถบิ๊กไบค์ได้
“บางคนเคยขับแต่รถเล็ก มาขับรถใหญ่ดันทำนิสัยเหมือนเดิม ความคะนองยังมีอยู่ ได้รถแรงขึ้น รู้สึกซ่า อยากฟัด พอมีอุบัติเหตุขึ้นมา ผู้ใช้รถคนอื่นก็พากันเหมารวมว่าไอ้พวกบิ๊กไบค์ขับรถเถื่อน ทุกวันนี้อย่าว่าแต่เด็กๆเลย คนอายุเกิน 20 ปี ส่วนใหญ่ก็ยังขี่ไม่เป็น แค่ขี่ได้ เท่านั้น”
ชาติชาย แนะนำว่า ก่อนจะตัดสินใจซื้อรถบิ๊กไบค์สักคัน มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีความพร้อมทั้งเรื่องทักษะความรู้และความชอบอย่างแท้จริงด้วย
"ถามตัวเองก่อนว่าชอบจริงไหม หรือแค่ตามกระแส เด็กบางคนไม่ชอบ แต่ซื้อเพราะเพื่อนชวนหรืออยากเข้ากลุ่ม เพื่อนบอกเฮ้ย ขี่ง่าย เหมือนรถยนต์แหละ ถอยๆมาเหอะ แต่จริงๆเเล้วไม่ใช่ บิ๊กไบค์ไม่ได้เร็วอย่างเดียว ยังมีความหลากหลายในการควบคุม ต้องใช้ทักษะในการขับขี่สูง ตั้งแต่จูงรถเพื่อเข้าใจสรีระของรถ ความรู้ความเข้าใจเรื่องการใช้เกียร์ วิ่งทางตรง เข้าโค้ง ท่าทางการขับขี่ จับแฮนด์ คันเร่ง ใช้เกียร์ ใช้เบรค ตำแหน่งวางเท้า ของพวกนี้ถ้าคนไม่ชอบ ไม่อยากเรียนรู้จริงจัง เจ็บตัวเเน่นอน ออกมาวันเดียวตายเลยก็มี
เรื่องร่างกายต้องมีสภาพสมบูรณ์ เเข็งเเรงเท่าไหร่ยิ่งดี เหมือนเป็นภูมิต้านทานในการควบคุมเเละทนต่อความเจ็บปวดได้ดีหากเกิดอุบัติขึ้น ต่อมาเรื่องอุปกรณ์เซฟตี้ เด็กๆหลายคนอยากเท่ อยู่กลุ่มห้าวยิ่งซ่าใหญ่ ไม่ใส่หมวกกันน็อคก็พากันไม่ใส่ทั้งหมดทั้งกลุ่ม ผมเคยสอนไปแล้วว่าอย่าอายเพื่อน พลาดมาครั้งเดียวตายเลยนะ สู้ลงทุนซื้อของดีๆ สวยๆใส่นำเพื่อนไปเลยดีกว่า อุปกรณ์เซฟตี้มีเยอะยิ่งดี เสื้อผ้า กางเกงรองเท้า เซฟได้หมด”
นอกจากความพร้อมส่วนตัวแล้ว โฮ่ เรซซิ่ง ทิ้งท้ายว่า ต้องมีสติพร้อมรับความเสี่ยงจากคนมักง่ายบนท้องถนนด้วย เพราะประเทศไทยมีคนขับรถผิดกฎหมายจำนวนมาก การลดอุบัติเหตุอย่างยั่งยืนต้องการความร่วมมือจากทุกคนบนท้องถนน
ผู้ปกครอง-โรงเรียนต้องร่วมรับผิดชอบ
ตามกฎหมายกรมการขนส่งทางบก ระบุว่า อายุของผู้ที่ประสงค์จะขอรับใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี แต่หากเป็นผู้ขอใบขับขี่รถจักรยานยนต์ชั่วคราวสำหรับรถจักรยานยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบรวมกันไม่เกิน 110 ซีซี ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์
ทว่าในความเป็นจริง ทุกวันนี้สามารถพบเห็นเด็กๆในชุดนักเรียนซิ่งรถซีซีสูงตามท้องถนนเป็นประจำ ไม่เว้นแม้กระทั่งในกลุ่มบิ๊กไบค์
นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน บอกว่าถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องกำหนดนิยามขนาดรถจักรยานยนต์ให้ชัด เพื่อกำหนดการมาตรฐานใบขับขี่เฉพาะ สามารถป้องกันการเข้าถึงจากเยาวชนได้ดีกว่าปัจจุบัน
“การเข้าถึงรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ทำได้ง่าย แม้ราคาค่อนข้างแพง แต่มีระบบเงินผ่อน มีโปรโมชั่นดึงดูด ขณะที่พ่อแม่ผู้ปกครองและโรงเรียนก็ปล่อยปละละเลย ทำให้เกิดผู้ขับขี่ในระดับเยาวชนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ท้องถนนเวลานี้จึงเต็มไปด้วยผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ที่หลายคนเหมารวมว่าบิ๊กไบค์ในวัยเรียนจำนวนสูงขึ้น ทั้งที่ว่าไปแล้ว อายุ วุฒิภาวะ มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากการเรื่องตัดสินใจ ความคิดและรวมไปถึงสรีระร่างกาย การขับขี่รถขนาดใหญ่ จำเป็นต้องมีทักษะพิเศษที่ต้องเรียนรู้เฉพาะ”
ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยบนท้องถนน ชี้ว่า ผู้ปกครองและโรงเรียนควรจะมีส่วนรับผิดชอบอย่างเข้มงวดกับเหล่าเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี เพราะการส่งเสริมปล่อยปะละเลย ทำให้ประเทศสูญเสียทรัพยากรไปจำนวนมาก ไม่ควรปล่อยให้เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงอย่างเดียว
กฎหมายใหม่ ต่ำกว่า 20 ปีห้ามขับ
พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บังคับการตำรวจราจร (รองผบก.จร. ) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เสนอแนวคิดเรื่องการจำกัดอายุผู้ขับขี่ เสนอต่อทางกรมการขนส่งทางบกไปตั้งแต่ปี 2558 จากการศึกษารายละเอียดจนข้อสรุปเบื้องต้นว่า ผู้ขับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์จะต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป จึงจะสามารถขับรถขนาดเครื่องยนต์ตั้งแต่ 400 ซีซี และต้องทำใบขับขี่ใหม่แยกจากใบขับขี่รถจักรยานยนต์ธรรมดา รวมทั้งทำการทดสอบทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะภาคปฏิบัติจะต้องทดสอบขับขี่รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่เท่านั้น เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยและเสริมทักษะการขับขี่อย่างถูกต้อง คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปี 2559 และจะเป็นกลไกสำคัญในการช่วยลดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันในอนาคตอาจต้องมีสถาบันการฝึกอบรมการขี่รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่โดยเฉพาะ เปิดจัดอบรมและจัดสอบทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ โดยให้ครูฝึกประเมินว่าผ่านหรือไม่
ทั้งนี้ สิ่งที่ทุกคนควรรู้ก็คือ อัตราความเร็วตามพ.ร.บ.จราจรทางบก ฉบับ 8 พ.ศ. 2551 ระบุไว้ว่า รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ สามารถใช้ความเร็วในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือนอกเขตดังกล่าวให้ขับไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่ พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ.2535 กำหนดให้รถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ สามารถใช้ความเร็วบนทางหลวงชนบทได้ไม่เกิน 90 กม./ชม. ขณะที่ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรี) และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 (ถนนกาญจนาภิเษก) ให้ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 120 กม./ชม. นั่นหมายความว่า ผู้ขับขี่รถยนต์สามารถใช้ความเร็วสูงถึง 120 กม./ชม. ได้เฉพาะบนมอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรี และถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร เพียง 2 สายเท่านั้น ที่อื่นๆ ทำได้แค่ 90 กม./ชม.
ด้าน ผศ.ดร.ทวีศักดิ์ แตะกระโทก อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยนเรศวร บอกว่า ที่ผ่านมาสภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) มีการพูดคุยในประเด็นเรื่องจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ และเห็นตรงกันว่า ต้องมีการแยกประเภทใบขับขี่สำหรับรถจักรยานยนต์กลุ่มนี้ออกมา โดยผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป ต้องผ่านการทดสอบ รวมทั้งอบรมการขับขี่เพิ่มเติม
“มีข้อถกเถียงว่านิยามคำว่าบิ๊กไบค์ในเมืองไทยควรเป็นกี่ซีซีกันแน่ อย่างประเทศญี่ปุ่นกำหนดไว้ที่ 400 ซีซี ขณะที่เมืองไทย หลายคนบอกว่า 250 ซีซีก็ต้องเรียกบิ๊กไบค์แล้ว เพราะเห็นว่าอุบัติเหตุในเมืองไทยนั้นเยอะมาก ปัญหาส่วนหนึ่งมาจากความเร็ว ฉะนั้นหากกำกับความเร็วไว้ตั้งแต่แรก น่าจะทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้นและเป็นประโยชน์กว่า ที่สำคัญจักรยานยนต์ตั้งแต่ 250 ซีซีขึ้นไป สามารถทำความเร็วได้ราวๆ 100 กว่ากม.ต่อชม.อยู่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายที่กำหนดว่า แทบทุกพื้นที่บนท้องถนนอนุญาตให้ใช้ความเร็วแค่ไม่เกิน 90 กม.ต่อชม. เท่านั้น เราก็ไม่ควรมีซีซีสูงๆ หรือควรจำกัดการเข้าถึงได้ยากขึ้น
ส่วนการกำหนดอายุผู้ขับขี่ไว้ที่ 21 ปีขึ้นไป เนื่องจากเห็นว่ากฎหมายปัจจุบันอนุญาตให้สามารถขับขี่รถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกได้ที่อายุ 21 ปี หากคิดว่า 21 ปีสามารถรับผิดชอบชีวิตคนอื่นได้ ก็น่าจะเป็นเกณฑ์ที่เพียงพอสำหรับคนที่คิดจะขับขี่บิ๊กไบค์ นอกจากนั้นยังเห็นตรงกันว่า ต้องมีหลักสูตรอบรมเฉพาะที่สูงหลายชั่วโมง อย่างญี่ปุ่น เอาแค่จักรยานยนต์ธรรมดา เขาอบรมสูงถึง 40 ชั่วโมง ของเราแค่ 4 ชั่วโมงเอง โดยบางประเทศผู้ขับขี่ต้องทดสอบศักยภาพความแข็งแรงของร่างการด้วย เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า สามารถประคองและควบคุมรถไหว”
นักวิชาการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนนรายนี้ อัพเดตความคืบหน้าให้ฟังว่า โดยหลักการขณะนี้ทุกฝ่ายเห็นด้วย อยู่ระหว่างรอประกาศใช้ พรบ.การจัดการขนส่งทางบก คาดว่าไม่เกินปี 2559 นี้
ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนจำเป็นต้องป้องกันอย่างเข้มงวด พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อลดความสูญเสียและตัดวงจรหายนะอันจะเกิดขึ้นกับเด็กหนุ่มๆซึ่งจะเป็นอนาคตของชาติต่อไปในอนาคต
ภาพประกอบบางส่วนจาก http://pantip.com/topic/33436285


