คพ.ประกาศเริ่มฟื้นฟูคลิตี้ ส.ค.นี้ ด้านชาวบ้านร้องแผนไม่เหมาะสม
กรมควบคุมมลพิษจะเริ่มฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ในเดือน ส.ค.นี้ ขณะที่ชาวบ้านร้องไม่มีส่วนร่วมและแผนการฟื้นฟูไม่เหมาะสม
กรมควบคุมมลพิษจะเริ่มฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ในเดือน ส.ค.นี้ ขณะที่ชาวบ้านร้องไม่มีส่วนร่วมและแผนการฟื้นฟูไม่เหมาะสม
ความคืบหน้าแผนการแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนสารตะกั่วบริเวณห้วยคลิตี้ อำเภอทองผาภูมิ กาญจนบุรี
เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. นายวิจารย์ วิมาฉายา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า คพ.ได้ดำเนินการจัดประกวดราคาจ้างเหมาดำเนินการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ ราคากลางเป็นเงินทั้งสิ้น 582 ล้านบาท ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (E-bidding) โดยได้กำหนดให้มีการเสนอราคาในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ มีขอบเขตการดำเนินงาน เช่น ทำการก่อสร้างหลุมฝังกลบแบบปลอดภัยและดําเนินการฝังกลบตะกอนและดินที่ปนเปื้อนสารตะกั่ว ดูดตะกอนท้องน้ำและตะกอนหน้าฝายดักตะกอนเดิม ฟื้นฟูพื้นที่ปนเปื้อนรอบโรงแต่งแร่เดิม โดยการปิดคลุมด้วยดินหรือวัสดุที่มีค่าตะกั่วไม่เกินมาตรฐานคุณภาพดินที่ใช้ประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยและเกษตรกรรม และทำการก่อสร้างฝายดักตะกอนในลําห้วยคลิตี้ เป็นต้น โดยมีคณะกรรมการไตรภาคีฯจากหน่วยงานต่างๆ ทำหน้าที่ให้ข้อเสนอแนะต่อการดำเนินงานโครงการฯ เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ อย่างมีส่วนร่วมและเป็นที่ยอมรับของทุกภาคส่วน และเพื่อประสานการแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนในพื้นที่ คลิตี้ที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง
สำหรับการดำเนินงานที่ควบคู่ไปกับการประกวดราคาจ้างเหมาดำเนินการฟื้นฟูลำห้วย คพ. ได้ขออนุญาตใช้พื้นที่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ และสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม และได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการไตรภาคีเพื่อติดตามการดำเนินโครงการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ นอกจากนี้ยังได้จัดประชุมเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา ณ วัดคลิตี้ล่าง โดยมีศาสตราจารย์สุวิชัย หวันแก้ว ที่ปรึกษาของคณะกรรมการไตรภาคีฯ พร้อมด้วยกรรมการและผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมประชุม ได้แก่ กรมควบคุมโรค กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กรมทรัพยากรน้ำ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และประชาชนในพื้นที่ร่วมให้ข้อคิดเห็นในการดำเนินโครงการ
นอกจากนี้ คพ. ยังได้ดำเนินการจัดทำแผนการดำเนินงานแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนสารตะกั่วบริเวณห้วยคลิตี้ ระยะที่ 2 ปี พ.ศ. 2559 – 2564 ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเสนอให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเห็นชอบ
ด้านนายสุรพงษ์ กองจันทึก ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษากะเหรี่ยงและพัฒนา กล่าวว่า ชาวบ้านกะเหรี่ยง คลิตี้ล่างซึ่งเป็นผู้ฟ้องกรมควบคุมมลพิษต่อศาลปกครองสูงสุด จนศาลปกครองสูงสุดพิพากษาสั่งให้กรมควบคุมมลพิษ เร่งฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ภายใน 3 เดือน แต่กว่ากรมควบคุมมลพิษจะเริ่มก็ผ่านไป 3 ปี ชาวบ้านไม่ทราบแผนและรายละเอียดโครงการในการฟื้นฟูลำห้วยตลิตี้ที่จากการปนเปื้อนสารตะกั่วเลย แม้จะมีการตั้งให้ชาวบ้านเป็นคณะกรรมการไตรภาคีเพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ จากการปนเปื้อนสารตะกั่ว แต่เมื่อไม่มีรายะเอียดโครงการเลย ก็ไม่ทราบจะติดตามได้อย่างไร
นอกจากนี้ ชาวบ้านยังต้องการให้มีการฟื้นฟูลำห้วยตลิตี้ ให้ปราศจากมลพิษอย่างแท้จริงให้สามารถกลับไปใช้น้ำ และจับสัตว์น้ำกินได้ดังแต่ก่อน โดยการดูดหรือขุดลอกสารพิษจากกิจกรรมเหมืองแร่ออกทั้งหมด เริ่มจากบริเวณโรงแต่งแร่ต้องเอาตะกั่วปนเปื้อนในพื้นที่ทั้ง 90 กว่าไร่ออกทั้งหมด แล้วจึงไล่ขุดลอกในลำห้วยคลิตี้ จากบริเวณโรงแต่งแร่ ลงมาจนพ้นหมู่บ้านคลิตี้ล่างเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ไม่ใช่ขุดลอกเพียงบางจุดตามแผนของกรมควบคุมมลพิษ
"ตะกอนตะกั่วจากการขุดลอกต้องนำไปกำจัดอย่างของเสียอุตสาหกรรมโดยบริษัทและโรงงานกำจัดมลพิษภายนอก เพราะกรมควบคุมมลพิษเคยตรวจสอบพบว่าเป็นสารพิษจากอุตสาหกรรม และนำออกไปกำจัดภายนอกแล้ว 4 หลุม จึงไม่ควรนำไปเพียงฝังกลบไว้ในพื้นที่เหนือลำห้วยคลิตี้ เพราะหากมีการรั่วไหลจะลงสู่ลำห้วยคลิตี้โดยตรง และกลับมาสู่หมู่บ้านคลิตี้ใหม่"
นายสุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในระหว่างการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ไม่เสร็จสิ้นและชาวบ้านยังไม่สามารถใช้น้ำในลำห้วยและจับสัตว์น้ำได้ดังเดิม กรมควบคุมมลพิษต้องเยียวยาจัดน้ำสะอาดและอาหารแทนสัตว์น้ำ ตลอดจนเยียวยาด้านชุมชนสังคมแก่ชาวบ้านคลิตี้


