ธุรกิจยูโร 2016
พรุ่งนี้แล้วสินะครับ ที่มหกรรมฟุตบอลยูโร 2016 จะเปิดฉากขึ้นที่ฝรั่งเศส
พรุ่งนี้แล้วสินะครับ ที่มหกรรมฟุตบอลยูโร 2016 จะเปิดฉากขึ้นที่ฝรั่งเศส
ว่ากันไปแล้ว การชิงแชมป์แห่งชาติของประเทศในทวีปยุโรปนั้น ยิ่งใหญ่เป็นรองก็เพียงฟุตบอลโลก บางคนบอกว่าแค่เพิ่มทีมจากละตินอเมริกาอย่างบราซิลและอาร์เจนตินาเข้าไปก็กลายเป็นฟุตบอลโลกสบายๆ
ที่ผมหยิบยกเรื่องฟุตบอลยูโรมาคุยในคอลัมน์เงินเงินเงินของคุณอรุณ ซึ่งยังคงติดภารกิจอยู่ที่ต่างประเทศ ก็เพราะว่ามหกรรมกีฬา โดยเฉพาะกีฬาฟุตบอลในยุคปัจจุบัน ได้กลายเป็นธุรกิจไปหมดแล้ว และไม่ใช่ธุรกิจเล็กๆ เสียด้วย แต่วงเงินที่เกี่ยวข้องว่ากันเป็นล้านล้านบาททีเดียว
การลงทุนในกีฬาฟุตบอลกลายเป็นแนวโน้มใหม่ของบรรดามหาเศรษฐีโลก รวมทั้งมหาเศรษฐีของไทยด้วย เพราะผลตอบแทนจากการลงทุนในธุรกิจประเภทนี้ ดีไม่แพ้หรือดีกว่าการลงทุนในธุรกิจประเภทอื่นด้วยซ้ำ อย่างกรณีของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา แห่งคิงเพาเวอร์ในทีมเลสเตอร์ซิตี้ ของอังกฤษนั่นเป็นตัวอย่างที่ดี
ในการลงทุนตอนแรก คุณวิชัยลงทุนในหลักพันล้านบาท แต่ตอนนี้ทีมเลสเตอร์มีมูลค่าทางการตลาดกว่าหมื่นล้านบาทแล้ว เพิ่มเป็น 10 เท่า ในเวลาช่วง 2-3 ปีเท่านั้น จะหาธุรกิจอะไรที่ให้ผลตอบแทนดีเท่านี้ คงจะมีไม่มาก
สำหรับการแข่งขันแบบทัวร์นาเมนต์อย่างเช่น ฟุตบอลโลก หรือบอลยูโรนั้น ก็มีวงเงินเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นแสนล้านบาท และทุกอย่างก็กลายเป็นธุรกิจไปหมด ว่ากันตั้งแต่การเป็นสปอนเซอร์หลักของการแข่งขัน การซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอด แม้แต่โลโก้ของการแข่งขันก็ล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับเงินเป็นร้อยเป็นพันล้านบาททั้งนั้น
เมื่อก่อนนั้น เวลามีมหกรรมแบบนี้สื่อต่างๆ โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ก็มักจะมีการพิมพ์ฉบับพิเศษ เพื่อเป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแข่งขันและนักฟุตบอลแต่ละชาติให้กับคนอ่าน แต่เดี๋ยวนี้การพิมพ์ฉบับพิเศษอย่างนั้นกลายเป็นเรื่องยาก เพราะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับทางยูฟ่าเจ้าของมหกรรมยูโร
ทางเลี่ยงอย่างหนึ่งก็คือ พิมพ์โดยไม่ใช้โลโก้ของการแข่งขัน หรือแม้แต่คำชื่อยูโร 2016 แต่เลี่ยงไปใช้คำอื่นแทน เช่น การชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เป็นต้น
สื่อทีวีเองก็มีปัญหาในการนำเสนอข่าว เมื่อก่อนนั้นทีวีแต่ละช่องสามารถเอาภาพเด็ดๆ ตอนยิงประตูมานำเสนอ แต่ปัจจุบันก็ทำไม่ได้ เวลาเสนอข่าว จึงได้แต่เสนอเป็นภาพนิ่ง ไม่มีภาพเคลื่อนไหว
ที่ยังสามารถเอาภาพนิ่งมานำเสนอเป็นข่าวได้ เพราะสื่อไทยแต่ละสำนักจะเป็นลูกค้าของสำนักข่าวต่างประเทศอยู่แล้ว ซึ่งสำนักข่าวต่างประเทศก็จะต้องไปซื้อลิขสิทธิ์จากทางยูฟ่า และเมื่อเราเป็นลูกค้าของสำนักข่าวต่างประเทศก็มีสิทธินำเอาภาพนิ่งมาเสนอได้
และก่อนหน้านั้น เราจะพบว่ามีร้านค้าต่างๆ โดยเฉพาะบรรดาภัตตาคาร หรือร้านขายเครื่องดื่ม จะนำเอาจอทีวีขนาดยักษ์มาให้ลูกค้าได้ชมเวลาที่มีการถ่ายทอดสด แต่ปัจจุบันก็ทำไม่ได้อีก เพราะทางยูฟ่าจะตีความว่าการกระทำแบบนั้นเป็นการทำในเชิงพาณิชย์ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้านมากขึ้น เพราะได้ดื่มกินสังสรรค์และชมการถ่ายทอดฟุตบอลไปด้วย
หากร้านค้าใดจะเอาทีวีมาฉายตอนถ่ายทอดก็ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์
ขณะเดียวกัน การจัดการแข่งขันทั้งของฟีฟ่าในเรื่องฟุตบอลโลก หรือยูฟ่าในบอลยูโร ก็มีลักษณะเป็นธุรกิจที่มุ่งหารายได้เพิ่มมากขึ้นทุกทีอย่างเช่น การเพิ่มจำนวนทีมที่เข้ารอบสุดท้าย อย่างยูโรหนนี้ก็เพิ่มทีมจาก 16 เป็น 24 ทีม เรียกว่าเกือบจะครึ่งหนึ่งของจำนวนประเทศในยุโรปทีเดียว ทำให้ประเทศเล็กๆ หลายประเทศมีโอกาสเข้ารอบสุดท้ายเป็นครั้งแรก ส่วนประเทศยักษ์ใหญ่ในด้านฟุตบอลก็มากันเกือบครบจะขาดก็แต่เนเธอร์แลนด์ ที่เกิดฟอร์มตกอย่างหนักช่วงรอบคัดเลือก ทำให้ตกรอบคัดเลือกไป
ส่วนฟุตบอลโลกเองก็กำลังเตรียมการที่จะเพิ่มทีมจาก 32 ทีมในปัจจุบัน เป็น 48 ทีม
สาเหตุที่มีการเพิ่มทีมที่เข้ารอบสุดท้ายนั้น ก็เพื่อเพิ่มจำนวนคนดูให้มากขึ้น เพราะหากประเทศใดได้เข้ารอบสุดท้ายไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลโลก หรือยูโร แฟนทีมชาติเหล่านั้นก็จะแห่กันไปดู ในขณะเดียวกัน ประเทศเหล่านั้นก็จะทุ่มเงินซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอด ซึ่งล้วนแล้วแต่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับฟีฟ่าและยูฟ่า
ค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดในแต่ละโซน แต่ละประเทศอัตราไม่เท่ากัน อย่างประเทศเรา ซึ่งไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับบอลยูโร หรือแม้แต่ฟุตบอลโลก ซึ่งเราก็แอบฝันเสมอว่าสักวันบอลไทยจะได้ไปบอลโลก ก็ยังต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ในหลักร้อยล้านบาท ส่วนประเทศในแถบยุโรป หรือประเทศร่ำรวยอย่าง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ พวกนี้น่าจะต้องจ่ายแพงกว่านี้ ลองคูณกันดูก็แล้วกัน เฉพาะค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดก็น่าจะได้กันเป็นหมื่นล้านบาทแล้ว
จะจ่ายแพงจ่ายถูกกันอย่างไรก็ตาม แต่คนไทยเราโชคดีที่ยังได้ดูฟรีมาตลอด รวมทั้งครั้งนี้ด้วย
ส่วนการจะเป็นสปอนเซอร์อย่างเป็นทางการของการแข่งขันพวกนี้ก็ต้องจ่ายกันแพงมาก และแบ่งเป็นหลายระดับ บางระดับก็อาจจะได้สิทธิแค่ใช้โลโก้การแข่งขันไปใช้ด้านการตลาด แต่ถ้าจ่ายแพงมากขึ้นก็จะได้สิทธิในการทำกิจกรรมด้านการตลาดด้วย
กิจกรรมอีกอย่างหนึ่งที่มักจะมากับมหกรรมฟุตบอลระดับนี้คือ การพนัน ซึ่งในครั้งก่อนๆ พอใกล้จะถึงวันแข่งตำรวจก็จะตั้งโต๊ะแถลงข่าวอย่างครึกโครมในการตั้งศูนย์ปราบการพนัน แต่ครั้งนี้ตำรวจดูเงียบๆ นั่นก็เพราะว่าการพนันเดี๋ยวนี้พัฒนาไปเล่นกันทางออนไลน์ มีบริษัทรับพนันจากต่างประเทศ เวลาชำระเงินก็จ่ายผ่านบัตรเครดิตเหมือนกับที่เราซื้อของทางออนไลน์นั่นแหละ ตำรวจจะปราบปรามก็ทำไม่ได้ เพราะบริษัทเหล่านี้อยู่ต่างประเทศและก็เป็นบริษัทที่ถูกกฎหมายด้วย
สรุปว่าเงินที่เกี่ยวข้องกับยูโร 2016 ทั่วโลกรวมกันน่าจะเป็นล้านล้านบาท ซึ่งก็คงจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโลกให้คึกคักขึ้นบ้าง ไม่มากก็น้อย


