อายุน้อย Rising Star พลิกชีวิตเอสเอ็มอี
“อรรฆรัตน์ นิติพน” มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน โดยเป็นคนที่ 3 ของครอบครัวนิติพน และเป็นน้องชายของนักแสดง “อ่ำ อัมรินทร์ นิติพน”
“อรรฆรัตน์ นิติพน” มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน โดยเป็นคนที่ 3 ของครอบครัวนิติพน และเป็นน้องชายของนักแสดง “อ่ำ อัมรินทร์ นิติพน” จึงได้รับแรงบันดาลใจจากพี่ชาย ทำให้ก้าวสู่วงการบันเทิง ด้วยการทำหน้าที่ผลิตคอนเทนต์ และผลิตรายการทีวี ไปจนถึงการทำหน้าที่พิธีกร โดยเริ่มต้นตั้งบริษัทในปี 2546 ตอนช่วงอายุ 26 ปี ต่อมาจึงผลิตรายการอย่างต่อเนื่อง และทำให้รายการต่างๆ ได้รับเรตติ้งอันดับสูง ทำให้ได้รับความสนใจและเกิดกระแสอย่างมากมาย
อรรฆรัตน์ เรียนจบระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ ระดับมัธยมศึกษา จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ และระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะนิติศาสตร์ ซึ่งเริ่มทำรายการทีวี จากการได้เรียนรู้งานของพี่ชาย และไปทำงานกับพี่ชาย โดยได้พบเจอคนที่มีความสามารถมากมาย จึงสะสมความรู้และพัฒนามาใช้กับการผลิตสื่อต่อเนื่อง ในปัจจุบันบริษัทก่อตั้งมาอายุกว่า 13 ปี ผลิตรายการรวมมากกว่า 118 รายการ
แรงบันดาลใจในการคิดค้นรายการมาจากสิ่งที่อยู่รอบตัวเองและการได้พบเห็นเรื่องราวใหม่ๆ จึงอยากถ่ายทอดเรื่องราวที่น่าสนใจสู่ผู้บริโภคต่อไป อีกทั้งผมค้นพบว่าประเทศไทยที่ผ่านมา คนที่กลายเป็นไอดอลของประเทศจะเป็นนักแสดง ศิลปิน แต่ตัวเองกลับมีมุมมองใหม่อยากให้คนที่เป็นไอดอลของประเทศไทยเป็นนักธุรกิจ เพื่อทำให้ประเทศไทยมีจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ เกิดไอดอลนักธุรกิจและทำให้ประเทศไทยสามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างดีในระยะยาว จากนักธุรกิจจำนวนมากและคนรุ่นใหม่ในประเทศ
โปรเจกต์ใหม่ที่กำลังทำในปี 2559 คือ ทำโครงการ “อายุน้อย Rising Star” เพื่อสร้างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาดเล็ก และกลุ่มผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ให้มีการขยายธุรกิจที่เติบโตมากขึ้น และสามารถก้าวเข้าสู่บริษัทที่มีรายได้ระดับ 100 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้จะเปิดให้เอสเอ็มอีที่สนใจเข้ามาร่วมโครงการกับบริษัทประมาณ 20 ราย หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการที่สนใจร่วมโครงการ
เอสเอ็มอีที่สนใจเข้ามาร่วมโครงการ “อายุน้อย Rising Star” บริษัทจะทำการดูแลแบรนด์ และทำตลาดอย่างครบวงจรว่าแบรนด์ควรมีการพัฒนาไปในทิศทางใด พร้อมกับจะนำเสนอข้อมูลของบริษัทผ่านทางดิจิทัล และการทำตลาดผ่านช่องทางดิจิทัลต่างๆ เพื่อสร้างแบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงกลุ่มมากที่สุด และทำให้ผู้ประกอบการสามารถเพิ่มยอดขายสินค้าได้มากขึ้น โดยผู้ประกอบการจะใช้งบทำการตลาดผ่านโครงการดังกล่าวประมาณ 1.5 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถใช้งบให้มีความคุ้มค่ามากที่สุด
“มัชรูม มีความพร้อมด้านการผลิตสื่อทั้งสื่อดิจิทัล สื่อทีวี อย่างครบวงจร จึงสามารถร่วมพัฒนาผู้ประกอบการเพื่อสร้างแบรนด์ และเพิ่มยอดขายอย่างจริงจัง เพราะในขณะนี้ความสำคัญของการทำตลาดและสร้างแบรนด์มีมากขึ้น อีกทั้งการใช้ช่องทางดิจิทัล ก็มีผลต่อการเพิ่มยอดขายในระดับสูงเช่นกัน” อรรฆรัตน์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทมีเครือข่ายของกลุ่มนักธุรกิจ “อายุน้อยร้อยล้าน” จำนวนกว่า 200 คน สามารถแนะนำผู้ประกอบการเพื่อขยายแบรนด์และเพิ่มช่องทางการขายได้ในอนาคต รวมถึงการสามารถใช้ช่องทางดิจิทัลได้อย่างครบวงจรที่สุด เชื่อมั่นว่าการมีแฟลตฟอร์มที่ดีและครบวงจรจะเปลี่ยนธุรกิจเอสเอ็มอีไทยอย่างมากมายแน่นอน


