‘ใช้หัวใจในการคบคนและทำงาน นี่แหละคือ ธรรมะแท้’
สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนอยู่เสมอ คือ เรื่องของการมีสติมีความรู้สึกตัว แม้แต่ในบทมหาสติปัฏฐานสูตร
โดย...ราช รามัญ
สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนอยู่เสมอ คือ เรื่องของการมีสติมีความรู้สึกตัว แม้แต่ในบทมหาสติปัฏฐานสูตร ซึ่งได้พูดถึงธรรมะในชั้นของการปฏิบัติ ปราชญ์เมธี สอนอยู่เสมอๆ ถึงการเป็นศูนย์รวมของธรรมะบทนี้ว่า
“รอยเท้าสัตว์รวมลงในรอยเท้าช้างได้ฉันใด ธรรมทั้งปวงย่อมรวมลงในสติปัฏฐานฉันนั้นแล”
ธรรมะหลายๆ บท ที่สำคัญที่สุดรวมเอาไว้ คือ การมีสติสัมปชัญญะ ธรรมข้อนี้สามารถนำเอาไปใช้กับชีวิตประจำวันได้ ที่สำคัญไม่ว่าจะทำงานอาชีพอะไรก็ตาม การมีสติมีความรู้สึกตัวหรือสัมปชัญญะมากำกับอยู่ด้วยนั้นในทุกๆ อิริยาบถ จะทำให้ชีวิตเราไม่เกิดข้อผิดพลาดใดๆ ในการใช้ชีวิตเลย
ธรรมะที่ทำให้คนสำเร็จในการใช้ชีวิต แบบที่ไม่ต้องเคยทำผิดพลาดใดๆ เลยในชีวิต ตามความเป็นจริงก็คือ ธรรมะข้อการมีสตินี้เอง แม้แต่พระอรหันต์ทั้งหลายท่านก็สมบูรณ์ด้วยความรู้สึกตัว สมบูรณ์ด้วยสติ อยู่ตลอดเวลา
พระสงฆ์องค์เณรที่มุ่งปฏิบัติธรรม มากมายในปัจจุบันจึงมุ่งเน้นในเรื่องของการฝึกสติให้มากขึ้น แม้แต่ทุกวันนี้ไม่ว่าวัดไหนก็ตามที่จัดการบวชภาคฤดูร้อน ก็จะมีการสอนสามเณรให้รู้จักคำว่าสติ ให้อยู่กับสติ ทั้งสอนเดินจงกรมและการภาวนาแบบที่เน้นสติมากกว่าไปสร้างรูปแบบ
แม้แต่พระมหาวีรพล วีรญาโณ วัดยานนาวา กรุงเทพฯ ที่จัดฝึกอบรมสามเณรภาคฤดูร้อนก็ยังสอนเรื่องสตินี้เป็นการปลูกฝังธรรมะแบบปัญญา เพื่อที่จะให้นำเอาไปใช้ได้จริง ไม่ใช่ธรรมะแบบลอยๆ แค่เรื่องเล่า พระมหาวีรพล เป็นพระนักเทศน์ธรรมะอารมณ์ดี ที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย แล้วก็มีลูกศิษย์คนหนึ่งที่เป็นคนโพธาราม ราชบุรี เป็นนักพูดที่ท่านได้แนะนำอบรมสั่งสอนมาซึ่งเริ่มมีชื่อเสียงและก็เติบโตด้วยการนำเอาธรรมะในข้อของการมีสติมาใช้กับตัวเองจนประสบความสำเร็จ
อาจารย์ชัชวาล มะโนวัฒนา หรืออาจารย์แบงค์ อารมณ์ดี นักพูดที่สร้างรอยยิ้มและความสุขในเชิงสร้างสรรค์ที่ผสมผสานกับแนวคิดและแรงบันดาลใจ อันดับต้นๆ ของวงการนักพูดบ้านเรา อายุไม่มากแต่มีงานล้นมือใน 365 วัน เกือบจะมีวันพักไม่ถึง20 วัน
จากเด็กบ้านนอก ชื่นชอบการพูด มีอาจารย์จตุพล ชมภูนิช เป็นไอดอล ฝึกพูดครั้งแรกในวัดพระศรีอารย์ ใน จ.ราชบุรี กับพระอาจารย์สุเทพสุเทโว จากนั้นเข้ามาในกรุงเทพฯ จนสามารถสอบเข้ารับราชการได้อยู่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และมาเรียนรู้การพูดเพิ่มเติมต่อกับพระมหาวีรพล
หลังจากที่มุ่งเข็มทิศมาเอาดีทางด้านการพูด เพราะว่าทำแล้วมีความสุข ทำแล้วหัวใจยิ้มได้ จึงลาออกจากราชการและมาเป็นนักพูดในเชิงสร้างสรรค์มาโดยตลอดจวบจนถึงวันนี้
ธรรมะที่ได้รับการสอนจากที่ได้เรียนรู้เติบโตมากับพระกับวัด คือ การมีสติ มีสติด้วยหัวใจอันสงบงดงามด้วยธรรมะ เวลาคบกับใคร ทำงานกับใคร มักจะใช้ใจที่มีสติกำกับอยู่เสมอๆ การให้ใจกับคนอื่นสิ่งที่ได้คืนมานั้นมันคือ ความสุขใจ ไม่ใช่สิ่งของ อย่างที่เจ้าตัวเขาบอกว่า
“เงินไม่สามารถซื้อความจริงๆ ได้หรอก ไม่ว่าความสุขที่ได้จากเพื่อน หรือความสุขจากการทำงาน เพราะว่าถ้าคิดว่าเงินทำให้เรามีเพื่อนวันหนึ่ง เราเงินหมดเพื่อนก็ตามอย่างแน่นอน แต่ผมใช้หัวใจในการคบเพื่อน การทำงานผมก็ใช้หัวใจในการทำงาน ถ้าเราใช้ใจเมื่อไหร่ ใส่ใจเมื่อไหร่ เราจะมีสติสัมปชัญญะเกิดขึ้นมาทันทีโดยอัตโนมัติ นี้คือ ธรรมะ ที่ผมนำเอามาใช้กับชีวิตตลอดเวลา”
เครื่องดนตรีเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่อาจารย์ชัชวาล บอกว่าสามารถสื่อและบ่งบอกให้เราเข้าถึงธรรมะได้ และเป็นสิ่งเดียวที่เป็นงานอดิเรกที่เล่นหรือฝึกเพื่อทำให้ใจนิ่งสงบ และมีสติได้ในขณะที่บรรเลง
“ถ้าคุณอ่านพุทธประวัติจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า พระพุทธเจ้าในวันที่เป็นเจ้าชายสิทธัตถะนั้น ได้ฟังนักดนตรีคนหนึ่ง กำลังตั้งสายพิณของตัวเอง และก็สอนคนอื่นๆ ด้วยว่า สายของพิณนี่ ตึงไปก็เล่นไม่ได้เพราะสายจะขาด หรือหย่อนไปก็เล่นไม่ได้เช่นกัน สายของพิณนี่ต้องพอดี จึงจะสามารถเล่นได้ เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะได้ยิน ดังนั้นก็เกิดจิตสำนึกเกิดขึ้นมาว่า ชีวิตก็คงจะต้องอย่างนั้นเหมือนกัน ตึงไปก็ไม่ดี หย่อนไปก็ไม่ดี ทุกอย่างมันต้องพอดี”
ในสายมหายานนั้นต่างก็มีความเชื่อกันว่า เจ้าชายสิทธัตถะมีความคิดที่เป็นช่องทางที่ทำให้เกิดปัญญาได้จนสามารถบรรลุธรรมนั้นมาจากเครื่องดนตรีนี้เอง ด้วยเหตุนี้พระในสายมหายานอย่างท่านติชนัทฮันห์ พระเซนแห่งเวียดนาม แต่อยู่ฝรั่งเศสจึงไม่ปฏิเสธในการเอาเครื่องดนตรีมาเป็นสื่อการสอนธรรมะเพื่อให้เกิดสติเช่นกัน
การเรียนรู้ธรรมะ เพื่อนำเอาธรรมะมาใช้จริงๆ นั้น ไม่ว่าจะธรรมะบทไหนก็ตามต่างก็มารวมลงในคำว่า สติ และ สัมปชัญญะ เพราะนี่คือกุญแจที่สำคัญที่จะทำให้ชีวิตของคุณประสบความสำเร็จ ทั้งในทางโลกและทางธรรมอย่างแท้จริง


