posttoday

คาดเฟดคงดอกเบี้ย

26 เมษายน 2559

โดย...ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

โดย...ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 0.50% แต่ติดตามถ้อยแถลงประธานเฟดเพื่อจับสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในระยะต่อไป สำหรับ Fed futures pricing probability ของการประชุมเฟดเดือน มิ.ย. 2559 ปรับขึ้นเป็น 19.6% (จากสัปดาห์ก่อนที่ 15.7%) แต่ก็ยังต่ำ ส่วนค่าเงินเหรียญสหรัฐแข็งค่าขึ้นก่อนจะมีการประชุมเฟด

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐ (FOMC) รอบที่ 3 ปี 2559 ในวันที่ 26-27 เม.ย. 2559 นั้น คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.25-0.50% ต่อเนื่องอีกระยะ ท่ามกลางความเสี่ยงการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงอยู่ในระดับสูง อันอาจเป็นปัจจัยกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐได้

นอกจากนั้น ยังได้รวบรวมประเด็นที่ต้องจับตาในการประชุมเฟดครั้งนี้ คือ พัฒนาการการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ยังคงได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก และปัจจัยเสี่ยงภายนอกเครื่องชี้เศรษฐกิจสหรัฐ เริ่มปรับตัวดีขึ้นบ้าง แต่ยังไม่สดใสมากนัก โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจสหรัฐหลายตัวยังคงให้ภาพการฟื้นตัวเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง

ทั้งนี้ แม้ว่าข้อมูลดัชนีชี้นำจะเริ่มมีมุมมองที่ปรับตัวดีขึ้น แต่คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะกว่าที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐจะกลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง อันคงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดน่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ เพื่อประเมินการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อไปอีกระยะ

ความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกยังคงอยู่ในระดับสูง โดยล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้มีการปรับลดประมาณการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ปี 2559 ลงจากระดับ 3.4% สู่ระดับ 3.2% รวมทั้งได้มีการปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐลงเช่นเดียวกันจากระดับ 2.6% เหลือ 2.4%

ท่ามกลางความเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังมีอยู่มาก กอปรกับปัจจัยด้านการเมือง อาทิ การลงประชามติว่าสหราชอาณาจักรจะยังคงอยู่ในสหภาพยุโรปหรือไม่ ในวันที่ 23 มิ.ย. 2559 รวมทั้งการถอดถอนประธานาธิบดีของบราซิลออกจากตำแหน่ง ซึ่งปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองดังกล่าวอาจจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐได้โดยในด้านการค้าระหว่างสหรัฐกับสหราชอาณาจักรและบราซิล ในปี 2558 ที่ผ่านมามีมูลค่ากว่า 1.1 และ 0.6 แสนล้านเหรียญสหรัฐตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วน 3.0 และ 1.5% ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของสหรัฐ (ถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ลำดับที่ 7 และ 12) อีกทั้งสหรัฐได้ดุลการค้ากับบราซิลกว่า 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวน่าจะสนับสนุนท่าทีของเฟดที่ระมัดระวังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องอีกระยะ จนกว่าปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้จะคลายตัวลง

ข่าวล่าสุด

เวทีไทย–จีนเปิดเกมลงทุนใหม่ ดัน Industrial Park เชื่อมซัพพลายเชนโลก