ลำปางเตือนชาวบ้านงดจับปลาตายลอยน้ำไปกินหวั่นอันตราย
ลำปาง - เทศบาลเตือนประชาชนงดจับปลาลอยตายในแม่น้ำวังไปบริโภค หลังเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุการตาย หวั่นเกิดอันตราย
ลำปาง - เทศบาลเตือนประชาชนงดจับปลาลอยตายในแม่น้ำวังไปบริโภค หลังเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุการตาย หวั่นเกิดอันตราย
เมื่อวันที่ 10 เม.ย. นายกิตติภูมิ นามวงค์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครลำปาง เปิดเผยว่า จากกรณีที่พบปลาเป็นจำนวนมากลอยขึ้นมาตายเหนือผิวน้ำในแม่น้ำวัง ในเขตตัวเมืองลำปาง ทำให้มีชาวบ้าน และคนหาปลาแห่ลงไปเก็บปลาขึ้นมา เพื่อนำไปบริโภค และนำไปขาย ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุทางเทศบาลนครลำปางได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปเก็บซากปลาที่ตายมาตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุการตาย และตรวจสอบถึงความสะอาด ดังนั้น ในช่วงที่พึ่งพบปลาลอยตาย และผลการตรวจความสะอาดปลายังไม่ระบุออกมา จึงขอประกาศเตือนประชาชนที่ลงไปเก็บปลาขึ้นมา ไม่ควรนำปลาที่ได้ไปปรุงอาหารรับประทาน เพราะอาจจะเกิดอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้
"ยอมรับว่าในบางจุดของแม่น้ำวังในช่วงแล้งนี้ น้ำวังเกิดเน่าเสีย จากท่อระบายน้ำในเขตตัวเมืองลำปางบางจุด ที่ยังคงปล่อยลงมา จากระบบท่อที่ยังไม่สามารถนำไปต่อรวม เพื่อผ่านไปยังระบบบำบัดน้ำเสียรวมได้ ดังนั้น จึงทำให้เกิดมีสภาพน้ำเน่า ซึ่งตามที่ทางเขื่อนกิ่วลม อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ในพื้นที่ จ.ลำปาง มีกำหนดปล่อยน้ำ เพื่อสนับสนุน และส่งเสริมประเพณี และเทศกาลสงกรานต์ ในช่วงระหว่างวันที่ 10 – 13 เม.ย. 2559 นี้ โดยถือว่าเป็นน้ำระลอกใหญ่จากเขื่อน ซึ่งมวลน้ำจะมาถึงเย็นวันนี้ จะเป็นการบรรเทาปัญหา ทั้งปลาตาย ปัญหาน้ำเน่า และมีกลิ่นไปได้ ซึ่งปีนี้ต้องยอมรับว่าการหยุดปล่อยน้ำจากเขื่อนกิ่มลม เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้ง เพื่อประหยัดน้ำ จึงทำให้กระทบต่อระบบนิเวศในแม่น้ำวังในเขตตัวเมืองอย่างมาก"นายกิตติภูมิกล่าว
ด้าน นายอาวีระ ภัคมาตร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อม ภาคที่ 2 ลำปาง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบคุณภาพน้ำวังขณะนี้ พบว่า สภาพน้ำ และคุณภาพน้ำวัง อยู่ในเกณฑ์น้ำเสื่อมโทรมมาก โดยพบออกซิเจนในน้ำต่ำ และพบค่าแบคทีเรียที่อยู่ในของเสีย เน่าเปื่อย และยังตรวจพบเชื้อโรคในน้ำวังมีค่าสูงมาก ซึ่งแม่น้ำวังแห่งนี้ เคยเกิดปรากฏการณ์ปลาลอยขึ้นมาตายแล้วครึ่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยปลาที่ตายจากการน็อคน้ำมาจากหลายสาเหตุ ทั้งน้ำเน่าเสีย และออกซิเจนในน้ำมีน้อยจึงลอยขึ้นมา และตายเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ขอแจ้งเตือนประชาชนอย่านำปลาที่ได้ไปปรุงอาหาร เพื่อรับประทาน เพราะยังไม่ทราบแน่ชัดว่าปลามีอันตรายหรือไม่ ซึ่งในการตรวจสภาพน้ำจะยืนยันได้ว่าไม่พบโลหะหนัก หรือสารพิษใด แต่กลุ่มเชื้อโรคต่างๆ โดยเฉพาะแบตทีเรียที่อยู่ในน้ำ ก็ยังไม่สภาพที่อาจจะทำให้ไม่ปลอดภัยได้


