แวดวงสงฆ์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คอลัมน์แวดวงสงฆ์ พูดถึงวัดที่สอบบาลีได้มากที่สุด 3 อันดับแรก โดยมีวัดโมลีโลกยาราม
โดย...สมาน สุดโต
เคล็ดลับความสำเร็จ วัดจองคำ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คอลัมน์แวดวงสงฆ์ พูดถึงวัดที่สอบบาลีได้มากที่สุด 3 อันดับแรก โดยมีวัดโมลีโลกยาราม เป็นที่ 1 วัดพระธรรมกาย ที่ 2 และวัดจองคำ จ.ลำปาง ที่ 3 (สำนักเรียนวัดจองคำ จ.ลำปาง สอบได้ 85 รูป จากผู้เข้าสอบ 143 รูป
วันนี้จะกล่าวถึงเคล็ดลับความสำเร็จของวัดจองคำ จ.ลำปาง
วัดจองคำ เป็นวัดโบราณ ปัจจุบันมีฐานะเป็นพระอารามหลวง เป็นสำนักเรียนนักธรรม-บาลี และสำนักปฏิบัติธรรม ประจำจังหวัดลำปาง โดยมีหลวงพ่อพระเทพปริยัติมงคล (โอภาส โอภาโส) เป็นเจ้าอาวาส และเจ้าสำนักเรียน เริ่มเปิดสำนักเรียนมาแต่ พ.ศ. 2537 และตลอดเวลาเหล่านี้ได้รับเกียรติคุณ และการยกย่อง เช่น สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) ในฐานะประธานผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช มอบทุน มอบประกาศเกียรติคุณ เรื่องการจัดการเรียนการสอนพระปริยัติธรรมแผนกบาลีดีเด่น มีนักเรียนสอบบาลีได้มากที่สุดในหนเหนือ เป็นต้น
เป็นสำนักเรียนที่สอนตั้งแต่ชั้นประโยค 1-2 ถึงชั้น ป.ธ.9 เวลาผ่านไป 20 ปี (2537-2557) นักเรียนบาลีสอบได้ทุกประโยครวม 1,881 รูป ในจำนวนนี้สอบ ป.ธ.9 ได้ 29 รูป
เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2559 สามเณรวัดจองคำ สอบ ป.ธ.9 ได้ 3 รูป เท่ากับสำนักเรียนวัดปากน้ำ วัดสร้อยทอง และวัดสามพระยา
พระธรรมราชานุวัตร เจ้าคณะภาค 6 เจ้าอาวาสวัดพระแก้ว จ.เชียงราย พูดถึงความสำเร็จของสำนักเรียนวัดจองคำ ว่า เป็นเพราะหลวงพ่อพระเทพปริยัติมงคล ลงทุนทางด้านบาลีเต็มที่ ควบคุมการเรียนการสอนด้วยตัวเอง แม้จะอยู่ในวัย 85 ปีแล้ว โดยจัดการเรียนการสอนแบบเข้มข้น วันหนึ่งเรียน 3 เวลา ช่วงเช้าตั้งแต่ 08.30-10.30 น. ช่วงบ่ายตั้งแต่ 14.00-16.30 น. และช่วงค่ำตั้งแต่ 19.30-22.00 น. (เวลาดูหนังสือ)
พระมหานที อิสฺสริโยภาโส ป.ธ.9 ครูสอนชั้น ป.ธ.3 บอกผู้เขียนทางโทรศัพท์ว่า ทั้งครูและนักเรียนอยู่ในสายตาหลวงปู่ตลอดเวลา เช่น ก่อนเวลาเรียนทั้งครูและนักเรียนต้องท่องหนังสือ และอ่านหนังสือที่หน้ากุฏิหลวงปู่ เมื่อเสียงระฆังให้สัญญาณบอกเวลาเรียน ต้องเข้าเรียนพร้อมกัน ทำอย่างนี้วันจันทร์ถึงวันศุกร์ และในวันศุกร์เป็นวันสอบเพื่อประเมินผล และนำผลสอบถวายหลวงปู่ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ เป็นวันเรียนนักธรรม
เมื่อออกพรรษา จะมีการสอบใหญ่ทุกประโยค โดยหลวงปู่ออกข้อสอบเอง ผลการสอบสามารถประเมินผลได้ว่า ใครมีจุดอ่อนอย่างไร ต้องแก้ไขกันอย่างไร
สามเณรนักเรียนบาลีส่วนมากเป็นเด็กจากภาคอีสาน หรือ จ.ร้อยเอ็ด และวันที่ 13 เม.ย. 2559 จะมีบวชเพิ่มเติมอีก 40 คน
ท่านพระมหานที เล่าว่า การมาเรียนที่วัดจองคำ ก็เหมือนเรียนในโรงเรียนกินนอน ทุกคนมีหน้าที่เรียนเท่านั้น ห้ามดูทีวี ห้ามรับกิจนิมนต์นอกวัด ไม่มีการยกเว้น แต่ใช้โทรศัพท์มือถือได้ เพราะเห็นใจผู้ปกครองที่มีความห่วงใย ให้สามารถติดต่อลูกหลานได้
ส่วนอาหารการกินทางวัดจัดให้ทุกอย่าง ตอนเช้าฉันข้าวต้ม ตอนเพลฉันอาหารหลัก ซึ่งเป็นข้าวเหนียว 2 จาน กับข้าว 3 อย่าง ฉันเสร็จยกภาชนะไปวางไว้ที่จัด โดยไม่ต้องล้างแต่อย่างใดทั้งสิ้น ทำอย่างนี้เป็นวงจร รวมถึงเวลาทำวัตรสวดมนต์เช้าเย็นด้วย
นอกจากนั้น ยังมีระเบียบสำหรับผู้ที่มาเยี่ยมเยียนสามเณร จะอนุญาตให้เยี่ยมเฉพาะช่วงปิดเทอมเท่านั้น ดังนั้นหากมานอกเวลาที่กล่าวอาจถูกเชิญให้กลับบ้านได้ และอีกเวลาหนึ่งที่เยี่ยมได้ คือ ช่วงฉลองพัดเปรียญของผู้ที่สอบได้ คือ หลังวันวิสาขบูชา
พ่อแม่สามเณรที่จะมาเยี่ยมลูกเณรช่วงปิดเทอม จะได้รับความสะดวก โดยหลวงพ่อจะเหมารถไป-กลับให้ หรือหากพ่อแม่ของสามเณรเสียชีวิตหลวงพ่อจะช่วยจัดการงานศพให้อย่างดี เช่น มอบปัจจัยค่าทำศพ และผ้าไตร 10 ไตร เป็นต้น
เมื่อถามว่าสามเณรทนไม่ได้หนีออกจากวัดมีหรือไม่ ท่านพระมหานที ตอบว่า มี สามเณรบางรูปหนีไปในเมือง พบตำรวจ ตำรวจจะถามว่าสามเณรมาจากไหน สามเณรก็ตอบด้วยความซื่อว่ามาจาก จ.ร้อยเอ็ด ตำรวจถามต่อว่าจะไปไหน สามเณรตอบว่าจะไปร้อยเอ็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจรายนั้นบอกว่า ไม่ต้องไปร้อยเอ็ดหรอก จะพาไปฝากหลวงพ่อวัดจองคำ ผม (ตำรวจ) รู้จัก และหลวงพ่อก็ชอบสามเณรที่มาจากร้อยเอ็ดมาก
ตกลงหนีวัดจองคำไม่พ้น


