posttoday

ฝังศพสิบตำรวจตรีสภ.จะแนะที่ถูกซุ่มโจมตีดับ

30 มีนาคม 2559

นราธิวาส-ฝังศพสิบตำรวจตรีสภ.จะแนะที่ถูกซุ่มโจมตีดับขณะปฏิบัติหน้าที่ พ่อแม่สุดอาลัยเพราะเป็นศูนย์รวมของความรักในครอบครัว

นราธิวาส-ฝังศพสิบตำรวจตรีสภ.จะแนะที่ถูกซุ่มโจมตีดับขณะปฏิบัติหน้าที่ พ่อแม่สุดอาลัยเพราะเป็นศูนย์รวมของความรักในครอบครัว
        
ที่กุโบร์บ้านโคกติมุง หมู่1 ต.ปูโยะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส พันตำรวจเอก จักรพร แท่นทอง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธีฝังศพ สิบตำรวจตรี ราชพฤกษ์ อาแว  เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรจะแนะ ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ จากเหตุคนร้ายซุ่มยิงบนถนนในหมู่บ้านเมาะสาวา หมู่4 ต.บองอ อ.ระแงะ จังหวัดนราธิวาสเมื่อวันที่ 29 มี.ค.59 โดยมีพันเอก จิรสิทธิ์ จันทรมี รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจังหวัดนราธิวาส นายสุรัตน์ ลายจันทร์ ปลัดอาวุโสอำเภอสุไหงโก-ลก พันตำรวจเอก ประยุทธ พงค์สันติ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรมูโนะ ผู้นำศาสนา เพื่อนข้าราชการตำรวจ และประชาชนในพื้นที่ร่วมพิธีเพื่อแสดงความไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย
        
สิบตำรวจตรี ราชพฤกษ์ อาแว เกิดเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2538 อายุ21ปี เป็นบุตรของนายมะดาโอะ อาแว และนางแมะยะ อาแว เข้ารับการบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 ที่สถานีตำรวจภูธรจะแนะ จังหวัดนราธิวาส
 
ดาบตำรวจ รุสลาม อาแว เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรมูโนะ ผู้เป็นพี่ชายกล่าวว่า น้องชายเป็นคนเรียบร้อย มีความกตัญญูต่อพ่อแม่ และมีความใฝ่ฝันตั้งแต่วัยเด็กว่าอยากเป็นตำรวจ จึงพยายามตั้งใจเรียนและขวนขวายหาความรู้เพื่อสานฝันของตัวเอง จนประสบความสำเร็จเมื่อสอบเข้าตำรวจและถูกเรียกบรรจุเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และในช่วงนี้ได้เตรียมตัวที่จะสมัครเข้าสอบเป็นนายร้อยด้วย

วันแรกของการได้สวมเครื่องแบบชุดตำรวจของน้องชาย เป็นวันที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวมาก เพราะน้องชายเป็นบุตรชายคนสุดท้อง ที่เป็นศูนย์รวมของความรักของครอบครัว พ่อแม่ยิ้มอย่างมีความสุขไปพร้อมกับพี่ๆทุกคน ซึ่งตลอดช่วงเวลาของการปฏิบัติหน้าที่แม้จะอยู่ในพื้นที่เสี่ยง แต่น้องก็ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ด้วยใจรักและอุดมการณ์ที่มุ่งมั่นว่าจะช่วยแก้ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จนเป็นที่รักของผู้บังคับบัญชาและผู้ร่วมงาน
น้องชายพูดเสมอว่า ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุร้ายกับตัวเองขึ้นมาวันใด แต่ขอให้ครอบครัวสบายใจว่าจะดูแลตัวเองและระมัดระวังให้มากที่สุด แต่หากเกิดอะไรขึ้นก็ขอให้ครอบครัวเข้าใจและยอมรับกับเหตุที่เกิดขึ้นว่า เป็นการเสียสละชีวิตในหน้าที่ตำรวจ ที่เป็นความภาคภูมิใจของตัวเอง

การพบกันครั้งสุดท้ายคือเมื่อวันที่26 มี.ค.น้องชายกลับมาที่บ้านพร้อมถุงยาสมุนไพรจากเห็ดป่าของชนเผ่าซาไกในพื้นที่ เพื่อให้พ่อแม่ได้ต้มดื่มรักษาโรคหอบหืดของพ่อและโรคเบาหวานของแม่ ซึ่งจากนี้ไปพี่ๆทุกคนจะดูแลพ่อแม่อย่างใกล้ชิดมากขึ้นเพราะท่านยังทำใจไม่ได้กับความสูญเสียที่เกิดขึ้น

ข่าวล่าสุด

ขนส่ง เตือน! รถติดถุงลมนิรภัยทาคาตะ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต เช็ก-เปลี่ยนฟรี