posttoday

กลยุทธ์นายใหญ่ ปตท. เรียกความเชื่อมั่นในสังคม

26 มีนาคม 2559

"สิ่งสำคัญคือ ปตท. ต้องสร้างความเชื่อมั่น ความน่าเชื่อถือให้ได้ พยายามให้คนเห็นว่า ปตท.มีความโปร่งใส ไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น หลายคนมองว่ามีการปิดบังข้อมูลข่าวสาร แต่จริงๆ แล้วมีการเปิดเผยเยอะมาก"

โดย...ชนิกา สุขสมจิตร

รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ด้านพลังงานของไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของการเปลี่ยนแปลงอีกครา เมื่อ “เทวินทร์ วงศ์วานิช” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. ซีอีโอลำดับที่ 8 ของกลุ่ม ปตท. ที่รับไม้ต่อจาก “ไพรินทร์ ชูโชติถาวร” เมื่อปลายปี 2558 กำลังสร้างระบบการกำกับกิจการที่ดีในองค์กร

แม้ว่าวาระการทำงานในตำแหน่งนี้ของเทวินทร์จะไม่ถึง 3 ปีก็ตาม แต่เทวินทร์มีความมุ่งมั่นในฐานะที่เป็นลูกหม้อของ ปตท. อยู่ในองค์กรนี้มากว่า 25 ปี ได้ประกาศชัดที่จะใช้ 4 นโยบายในการบริหาร คือ เพียงพอ ทั่วถึง เป็นธรรม และยั่งยืน เพื่อนำพา ปตท. ให้เป็นองค์กรพลังงานของชาติที่ยั่งยืนของไทย

นอกจากนี้ สิ่งที่เทวินทร์ไม่ลืม คือการให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการที่ดี โปร่งใส และตรวจสอบได้ ตลอดจนเชื่อมโยงการทำธุรกิจกับความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม โดยสนับสนุนการมีส่วนร่วมของผู้บริหารและพนักงานกลุ่ม ปตท. ตามค่านิยมขององค์กรที่ยึดถือปฏิบัติเป็นประจำ

เทวินทร์ บอกว่า “แม้ซีอีโอของ ปตท. จะเป็นตำแหน่งบริหารสูงสุดขององค์กร แต่วิธีการทำงานของผม จะเข้าไปคลุกคลีกับคนทำงานในภาคสนาม การที่เราลอยอยู่สูง เหมือนกับเราไม่เข้าใจปัญหา จริงๆ แล้วผมไม่ได้เห็นอะไรต่างจากที่คุ้นเคย เพราะอยู่ในองค์กรนี้มานาน เพียงแต่มีบทบาทที่แตกต่างกันตามช่วงเวลา”

ที่ผ่านมา ปตท.ได้สร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศมาโดยตลอด และมากจนกระทั่งถูกมองว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ กลายเป็นเรื่องธรรมชาติ เรื่องปกติ ในขณะที่กลับถูกโจมตีทางโลกโซเชียลที่เป็นจุดอ่อนมากกว่า ซึ่งเรื่องเหล่านี้ก็ต้องรับฟังและนำมาแก้ไขว่าจะทำอย่างไรให้คนเข้าใจ โดยพยายามนำเรื่องที่เป็นจุดแข็งของ ปตท.ให้สังคมเข้าใจ

“สิ่งสำคัญคือ ปตท. ต้องสร้างความเชื่อมั่น ความน่าเชื่อถือให้ได้ พยายามให้คนเห็นว่า ปตท.มีความโปร่งใส ไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น หลายคนมองว่ามีการปิดบังข้อมูลข่าวสาร แต่จริงๆ แล้วมีการเปิดเผยเยอะมาก ถ้าเทียบกับบริษัทน้ำมันแห่งชาติประเทศอื่นๆ เพราะ ปตท.เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงยังไงก็ต้องเปิดเผยข้อมูลตามระเบียบตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่แล้ว”

กลยุทธ์นายใหญ่ ปตท. เรียกความเชื่อมั่นในสังคม

เทวินทร์ ยืนยันว่า ในวันนี้หากมองในภาคธุรกิจ มองจากภายนอกผมถือว่า ปตท.มีความแข็งแรง เราตั้งเป้าหมายอยู่ตลอดให้ติดท็อปเทนบริษัทในอาเซียน จนนิตยสารฟอร์จูนรายงานผลการจัดอันดับบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดของโลก 500 อันดับ ประจำปี 2015 หรือฟอร์จูน โกลบอล 500 ปตท. ติดอันดับที่ 93 ซึ่งแม้ว่าจะไม่ดีเท่ากับอันดับ 84 ในปีก่อนหน้า แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน และยังนับเป็นการติดอันดับท็อป 100 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน

ดังนั้น คงไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้หรือท้าทายกันอีก สะท้อนให้เห็นว่า ความเข้มแข็งจากภายในเกิดขึ้นแล้ว

เทวินทร์ ย้ำว่า “ในช่วงที่ผ่านมาสิ่งที่เป็นจุดอ่อนของเราคือ ภาพจากภายนอกที่มอง ปตท. ด้วยความที่เรามีสองบทบาทที่เป็นรัฐวิสาหกิจและเป็นบริษัทมหาชน จะโดนโจมตีอยู่เรื่อยว่า ทำเฉพาะหากำไรสูงสุด ไม่คำนึงถึงคนอื่น เอาแต่ผู้ถือหุ้นเป็นหลัก...

ผมคิดว่า สิ่งที่เราทำวันนี้ควบคู่กันไปหลายเรื่องของการแข่งขันด้านธุรกิจพลังงาน โดยเฉพาะภายใต้ภาวะราคาน้ำมันขาลง เราจะใช้กลยุทธ์ ROIC
เป็นแนวทางในการทำงานของกลุ่ม

ROIC ที่เทวินทร์กำหนดเป็นแนวทางในการบริหารจัดการองค์กรขนาดใหญ่ เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง ประกอบไปด้วย

Rationalization การบริหารจัดพอร์ตลงทุน ให้ความสำคัญกับธุรกิจที่เป็นจุดแข็ง และก้าวออกจากธุรกิจที่เป็นจุดอ่อน

Optimization การลดค่าใช้จ่ายและการบริหารจัดการการทำธุรกิจให้เกิดประโยชน์สูงสุด

Integration การพิจารณาต่อยอดหรือลงทุนขยายธุรกิจเพื่อบริหารความเสี่ยงและสร้างมูลค่าเพิ่ม

Consolidation เป็นการควบรวมกิจการที่ซ้ำซ้อนกัน เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสความได้เปรียบทางการแข่งขันให้มากขึ้น

ดังนั้น จะเห็นได้ว่ากลยุทธ์ ROIC ทำให้มีความเข้มแข็งในเรื่องการบริหารจัดการอยู่แล้ว ภาคธุรกิจผ่านไปได้ แต่ด้านที่เราเสริมคือ การสร้างความเชื่อมั่น สร้างความเข้าใจจากภาคสังคม

“ผมเชื่อว่า ปตท.ในช่วง 37-38 ปีที่ผ่านมา ได้ทำภารกิจสำคัญในประเทศจำนวนมาก ในด้านความมั่นคงด้านพลังงาน ถ้าไม่มี ปตท.วันนี้ ก๊าซที่เราเอามาใช้ประโยชน์ หรือปั๊มน้ำมันที่มีการเปลี่ยนแปลงมากขนาดนี้คงไม่เกิดขึ้น การที่มีความมั่นคงทั้งน้ำมันและก๊าซมีการจัดหา ใช้ทั่วถึงทุกพื้นที่ในประเทศแบบราคาถูก เทียบกับประเทศอื่นที่ต้องซื้อมาอย่างเดียว คงไม่ได้ราคานี้หรอก”

สำหรับเรื่องไหนที่ก่อนหน้านี้ยังไม่มีความชัดเจน เช่น ธุรกิจที่ไม่มีการแข่งขัน อย่างเช่น ก๊าซหุงต้ม ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) และธุรกิจท่อก๊าซ ซึ่งจะถูกโจมตีมาตลอดว่า ปตท.ผูกขาด เมื่อมาถึงวันนี้เมื่อราคาพลังงานอยู่ในช่วงขาลง รัฐบาลอาศัยจังหวะนี้ปรับโครงสร้างราคาให้สะท้อนต้นทุนยกเลิกการใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปชดเชย พร้อมกับเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันมากขึ้น

“เรื่อง ปตท.ผูกขาดธุรกิจพลังงาน เราถูกเป็นเป้ามานาน ดังนั้น จะต้องทำให้ชัดเจนถึงบทบาทหน้าที่ของเรา วันนี้ ปตท.ต้องไปแข่งขันกับบริษัทน้ำมันระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น เชลล์ เอสโซ่ โทเทล บีพี ถ้าต้องไปแข่งขันกับบริษัทอื่นที่ใหญ่ ซึ่งเขามีภาครัฐสนับสนุน ในขณะที่เทียบกับ ปตท.เป็นบริษัทที่เล็กกว่าเยอะ แถมยังมีคนคอยดึง ทำอะไรไม่ได้ แบบนี้จะไปหวังให้ปตท.ทำอะไรคงลำบาก” เทวินทร์ ระบุ

อย่างไรก็ตาม ภารกิจ ปตท.ที่ผ่านมาพนักงานทุกคนช่วยกันทุ่มเท มีความมุ่งมั่นทำมาเยอะในการสร้างความมั่นคง แต่คนที่มองมาอาจแตกต่าง ดังนั้น อีกนโยบายที่เริ่มจะมีการเปลี่ยนแปลง คือการออกไปอธิบายทำกิจกรรมข้างนอกมากขึ้น

“ผมเชื่อว่าการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งจะทำให้เราเดินต่อไปได้ ผมมีโอกาสไปช่วยรัฐบาลหลายเรื่อง เริ่มเห็นว่าประเทศกับ ปตท. มีอะไรที่คล้ายๆ กัน ประเทศไทยเติบโตมาเยอะ ถึงเวลาที่ชะลอตัวลง จะเห็นได้ว่าประเทศมีปัญหาความขัดแย้ง ขาดการสนับสนุน ทำอะไรก็เจอการต่อต้าน เหมือนกับ ปตท. จะทำอะไรคนนอกไม่เข้าใจเหมือนกัน ผมก็กลับมาดูว่าเกิดจากอะไร พบว่าวัฒนธรรมไทยเปลี่ยนไปเยอะ สมัยก่อนคนรู้สึกผิดชอบชั่วดี มีวินัย ให้เกียรติซึ่งกันและกัน สังคมไทยโอภาปราศรัย แต่วันนี้ทะเลาะกัน ชิงดีชิงเด่น อันนี้เกิดจากวัฒนธรรมสังคมที่เปลี่ยนไป ถ้าไม่แก้ตรงนี้ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามก็จะเจอปัญหา”

ไม่เพียงแค่การทำกิจกรรมเพื่อสร้างความเข้าใจในสังคมไทยเท่านั้น เทวินทร์ ยังเดินหน้าสร้างพลังจากภายใน โดยการสร้างคน ปตท. ให้คนทุกคนในองค์กรใช้ชีวิตแบบมี Spirit นั่นคือ

Synergy สร้างพลังร่วมอันยิ่งใหญ่

Performance Excellence ร่วมมุ่งสู่ความเป็นเลิศ

Innovation ร่วมสร้างนวัตกรรม

Responsibility for Society ร่วมรับผิดชอบต่อสังคม

Integrity and Ethics ร่วมสร้างพลังความดี

สุดท้ายที่ทำ คือ Trust & Respect ร่วมสร้างความเชื่อมั่น ซึ่งคนเก่งคนดีต้องมีความรับผิดชอบ

นี่เป็นเป้าหมายที่คนหัวแถวอย่างเทวินทร์คาดหวัง เขาเชื่อว่า ความเข้มแข็งจากภายใน จะทำให้ ปตท.เกิดความยั่งยืน

กลยุทธ์นายใหญ่ ปตท. เรียกความเชื่อมั่นในสังคม

ภารกิจรับมือ โลกโซเชียล

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เรื่องพลังงานของชาติกลายเป็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ของสังคมไทย

แต่ละวัน แต่ละเดือน มีการถกเถียงและโจมตีผ่านทางสื่อมากมายเกี่ยวกับอาณาจักรของ ปตท. ที่ผูกขาดด้านพลังงานของประเทศ

เทวินทร์ ยอมรับว่า 2 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่เจอแต่โจทย์ยาก เรื่องยาก ในการบริหารธุรกิจพลังงาน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากทิศทางราคาน้ำมันในช่วงขาลง ส่งผลกระทบต่อธุรกิจน้ำมันตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องตัดสินใจหลายด้าน แต่มองอีกมุมหนึ่งก็เป็นเรื่องที่ท้าทาย

ดังนั้น หลักการบริหารต้องเข้าใจว่า สิ่งที่ทำอยู่ตนเองมีความรู้แค่ไหน ซึ่งไม่ได้ทำเองทุกอย่าง ถ้าคนทำเองทุกอย่าง คงขึ้นมาอยู่จุดๆ นี้ไม่ได้ ต้องรู้ว่าจะบริหารคนอย่างไร หรือทีมของคุณใครเก่ง เก่งเรื่องอะไร จัดคนให้ตรงกับงาน

ภารกิจต่อไปของผมคือ ต้องทำให้คน ปตท. พร้อมที่จะไปอธิบายให้คนอื่นเข้าใจ ทำตัวเราให้ดีด้วย ไม่ใช่ว่าเรามีจุดอ่อนข้อบกพร่อง เขาคงไม่เชื่อเราว่าเราทำได้ดี โดยเฉพาะการตอบโจทย์ในสื่อออนไลน์หรือโซเชียลมีเดียที่มีการส่งผ่านข้อมูลกันตลอด

วันนี้ จะสังเกตได้ว่าสังคมโซเชียล เป็นกลุ่มที่มีเป้าหมายในการคัดค้าน

คนเหล่านี้บางคนจะมีจุดเด่นได้ เมื่อเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งมีข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งว่า เรื่องไหนที่ไม่ดี คนมักชอบและสนใจ เรื่องกล่าวหากัน เรื่องไม่มีมูล มักจะรีบแชร์รีบส่ง โดยที่ยังไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง

สื่อที่มีมาตรฐานที่เป็นสื่อกระแสหลักของเรา ก็น่าจะเจอปัญหาเหมือนกัน เพราะคนจะไปฟังพวกนั้นเยอะ มาตรฐานของสื่อก็เลยถูกดึงต่ำลงมา

ยุทธวิธีในการแก้เกม กับข่าวด้านลบแบบนี้ของ ปตท. คือ ต้องทำตัวเราให้ชัดเจน ไม่ต้องมีจุดอ่อนหรือจุดบกพร่อง

ที่สำคัญคือ ถ้าใครจะมาโจมตีเราแบบผิดๆ ก็จำเป็นต้องฟ้องกลับ เพื่อทำให้เกิดกติกา ไม่เช่นนั้นใครมาโจมตีทางโซเชียลมีเดียโดยไม่ต้องรับผิดชอบงั้นเหรอ ถ้าตั้งใจกันหาเรื่องโดยไม่มีมูลก็ต้องฟ้อง ถ้าไม่เข้าใจก็พร้อมชี้แจงให้เข้าใจ

หลักสำคัญคือว่า พนักงานในองค์กรต้องเข้าใจว่า นี่คือหน้าที่ต้องไปชี้แจงให้คนข้างนอกเข้าใจด้วย ส่วนจะชี้แจงอย่างไรนั้น ยอมรับว่า ในฐานะของคนทำงานไม่ค่อยเก่งเรื่องแบบนี้นัก เพราะไม่ใช่นักพูด นักเขียน นักจ้อ เคยแต่ทำงานด้านสำรวจและผลิตปิโตรเลียม คิดวางแผนในการหาแหล่งพลังงานใหม่ให้กับประเทศ

ในขณะที่กลุ่มที่มาโจมตี นั่นคืองานฟูลไทม์ของเขา ไม่มีงานอื่น

นี่จึงเป็นเรื่องยากในการจะหาทางชี้แจง แต่ต้องดำเนินการสร้างทีมขึ้นมาเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง

นอกจากนี้ งานด้านพลังงานเป็นเรื่องซับซ้อน แต่คำกล่าวหาพูดแค่คำ 3 คำ น้ำมันแพง คนเดือดร้อน ปตท.กำไรแสนล้าน แต่การชี้แจงใช้เวลาเป็นชั่วโมง ใครจะมานั่งฟัง นี่คือความยากในการสร้างความเข้าใจ แต่เป็นเรื่องที่ต้องทำ

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องท้าทายมากๆ ผมคิดว่ามีอย่างเดียวที่เราต้องเชื่อคือ เอาความดีชนะ เราต้องรณรงค์ให้พนักงานของเราทำตัวดี เก่ง มีความรับผิดชอบ ทำงานกับสังคมให้เห็นจริง ให้ได้ประโยชน์จริงๆ

ขณะเดียวกัน ปตท.ก็ต้องทำให้คนในชาติเห็นว่า การทำงานภายในของเราโปร่งใส มีจริยธรรม ถูกต้อง ถ้ามีอะไรไม่ถูกต้อง จะต้องดำเนินการแก้ไขในทันที

นี่คือภารกิจที่ท้าทายของเทวินทร์ ที่กุมบังเหียนบริษัทพลังงานของไทย

กลยุทธ์นายใหญ่ ปตท. เรียกความเชื่อมั่นในสังคม

 

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์ชู 3 แกนพัฒนาคน รับรางวัล HR Leader for Social Impact 2025