posttoday

เสียงครวญจาก "วณิพก" ขอพื้นที่ให้เราร้องเพลง

22 มีนาคม 2559

ส่องชีวิตพ.ศ.นี้ของ "วณิพก" ขอทานหรือศิลปินข้างถนน?

เรื่อง...อินทรชัย พาณิชกุล

เสียงครวญเพลงไสบ่สิว่าถิ่มกันของก้อง ห้วยไร่ ดังกังวานจากเรียวปากของชายตาบอดที่เดินซอกแซกตามโต๊ะภายในร้านหมูกระทะ ข้างกายมีหญิงวัยกลางคนสายตาดีคอยประคับประคอง มือถือแก้วพลาสติกสีชมพูแนบแน่น

ลูกค้าหลายคนก้มหน้าก้มตาคีบเนื้อย่างเข้าปากอย่างไม่สนใจคนรอบข้าง คุณแม่ลูกสองควานหาเศษเหรียญในกระเป๋าหย่อนลงในแก้ว ไม่ไกลกันกลุ่มนักศึกษาหน้าแดงก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์โบกมือเรียกพลางยื่นแบงค์ยี่สิบให้ หนึ่งในจำนวนนั้นเอ่ยขอเพลงอย่างคึกคะนอง ขณะที่คู่รักหนุ่มสาวอีกโต๊ะส่ายหัว มองด้วยสายตาเหยียดหยาม มือข้างที่ถือตะเกียบสะบัดไล่

"อย่าไปให้มัน! พวกขอทาน มันมาเป็นแก๊ง ไม่เห็นเหรอไง ยัยผู้หญิงคอยประกบ รถตุ๊กตุ๊กจอดรออยู่หน้าร้าน"

เสียงนินทาไล่หลังทำเอาหญิงวัยกลางคนที่มากับนักร้องตาบอดชะงักเท้า หันมองด้วยสีหน้าปวดร้าวแกมโมโห ชั่วอึดใจเธอเดินต่อ ออกจากร้านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ทั้งหมดนี้เป็นชะตากรรมที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าของผู้ประกอบอาชีพ"วณิพก"

พวกเขาเชื่อว่าตนเองคือศิลปินที่มีความสามารถด้านร้องรำทำเพลง สร้างความบันเทิงแลกสินน้ำใจจากผู้ฟัง มิใช่ขอทานงอมืองอเท้า ใช้ความพิการไม่สมประกอบเรียกคะแนนสงสาร เพื่อล้วงเงินในกระเป๋าจากผู้คนที่ไม่เต็มใจหยิบยื่นให้

เสียงครวญจาก "วณิพก" ขอพื้นที่ให้เราร้องเพลง

ย้อนรอย"วณิพก"เมืองไทย

"ทุกวันนี้มีวณิพกอยู่ประมาณ 1 หมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นคนตาบอด มีทั้งเรียนจบจากโรงเรียนสอนคนตาบอด เคยผ่านการอบรมนวดแผนไทย บางคนเรียนสูงถึงระดับป.ตรี ป.โท แต่ที่ผ่านมาสังคมไม่ค่อยเปิดโอกาสให้คนพิการเข้าทำงาน คนตาบอดเลยต้องยึดอาชีพนวดและขายล็อตเตอรี่ ซึ่งต่อมาถูกคนปกติแย่งงานอีก ทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่คือ หันมาจับไมค์เป็นวณิพก"

น้ำคำอัดอั้นตันใจของ ถนอม ศรีนาคา ประธานเครือข่ายวณิพกคนตาบอดแห่งชาติ ชายพิการผู้ประกอบอาชีพร้องเพลงแลกเงินมานานกว่า 30 ปี

เขาย้อนรำลึกช่วงเวลาสีทองผ่องอำไพจนถึงยุคมืดไร้ซึ่งความหวังของอาชีพวณิพกให้ฟังอย่างน่าสนใจ ดังนี้

ปี 2520 อาชีพวณิพกเกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ตั้งแต่ริมฟุตบาท ตลาดนัด โรงงาน วัดวาอาราม ยันหน้าห้างสรรพสินค้า จะเห็นวณิพกเต็มวง ประกอบด้วยนักร้องนำ มือเบส มือกีต้าร์ มือกลอง รวมทั้งเครื่องดนตรีไทยอื่นๆอีกสารพัด บรรเลงเพลงอย่างสนุกสุดเหวี่ยงขับกล่อมคนฟัง

ปี 2528-2529 ถือเป็นยุคทองของวณิพก ผุดขึ้นมากมายนับร้อยวง เริ่มขยับไปรับคิวงานบวช งานแต่ง งานเลี้ยงวันเกิด วันสำคัญ จนถึงงานพระราชพิธี รายได้อู้ฟู่หลักหมื่นบาทต่อเดือน  

ปี 2533-2534 มีการบังคับใช้กฎหมายพ.ร.บ. จราจรทางบก เพื่อควบคุมทางเท้า โดยประกาศห้ามเล่นดนตรีกีดขวางทางเดิน ทำให้หาสถานที่เล่นยากขึ้น ผลคือ วงวณิพกเกินครึ่งจากที่มีอยู่ทั้งหมดผันตัวมาเป็นศิลปินเดี่ยว บางส่วนยุบวงหันไปขายสลากตามเดิม

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดอีกครั้งในปี 2551 หลังนโยบายกวาดล้างขอทานครั้งใหญ่ ตามพ.ร.บ.ควบคุมขอทาน 2484 วณิพกจำนวนไม่น้อยโดนร่างแหไปด้วย ถูกจับกุมคุมขัง เพราะรัฐเหมารวมว่าเป็นขอทาน

"สาเหตุที่สังคมมองวณิพกว่าเป็นขอทาน เพราะการแสดงของพวกเราเล่นกันตามถนน ไม่มีขายบัตร ไม่จ่ายเงินเป็นค่าจ้าง ตั้งกล่องไว้เฉยๆให้คนฟังตอบแทนเงินเล็กๆน้อยๆเป็นสินน้ำใจ บ้างมองว่าให้ทาน คนเลยเรียกขอทานติดปากกันมา เพราะมันเรียกง่าย แต่ที่สำคัญสุดคือ พ.ร.บ.ควบคุมขอทาน 2484 ไม่มีระบุนิยามคำว่า "วณิพก" ทำให้ไม่มีกฎหมายรองรับ ถูกเหมารวมว่าเป็นขอทานหมด ไปเล่นไหนก็โดนจับขัง"

อย่างไรก็ดี พ.ร.บ.ควบคุมการขอทานฉบับใหม่ที่เพิ่งผ่านการเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยสาระสำคัญอยู่ที่มาตรา 14 กำหนดให้ผู้ที่แสดงความสามารถด้านการร้องเพลงและเล่นดนตรีถือเป็นวณิพก ไม่ใช่ขอทานอีกต่อไป ทว่าต้องขออนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นก่อนว่าจะให้เล่นได้ที่ไหน เมื่อไหร่ เวลาใด

"ตรงนี้ยังมีประเด็นน่าเป็นห่วง กฎหมายให้เรามีตัวตนก็จริง แต่ก็ไม่ให้อิสระไปไหนมาไหน ขัดกับวิถีของวณิพกที่ร่อนเร่พเนจรไม่อยู่กับที่ ดังนั้นการถูกกำหนดชะตากรรมโดยเจ้าพนักงานท้องถิ่น ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีความเมตตากรุณา เอื้อเฟื้อเห็นอกเห็นใจเรามากน้อยแค่ไหน ทั้งยังอาจเป็นช่องโหว่ให้เกิดการฮั้ว เล่นเส้นสาย จ่ายใต้โต๊ะกันด้วย"

เสียงครวญจาก "วณิพก" ขอพื้นที่ให้เราร้องเพลง

ความทุกข์ยากของ"นักเพลงข้างถนน"

น้อยคนจะรู้ว่า ซอยสุขสวัสดิ์ซอย 1 อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ มีชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า "ซอยวณิพก" เนื่องจากเป็นแหล่งที่พักอาศัยของเหล่าวณิพกตาบอดมากกว่า 50 ชีวิต  

ทุกเช้าตรู่ ภาพหญิงสาวซึ่งอาจเป็นทั้งลูก หลาน เมีย พี่ น้อง หรือญาติจะจูงผู้พิการตาบอดขึ้นรถแท็กซี่ตระเวนถือไมค์ร้องเพลงตามตลาด ป้ายรถเมล์ ท่าเดินรถที่คนพลุกพล่าน ตะวันสายโด่งค่อยกลับมาพักเอาแรง ก่อนจะออกไปทำมาหากินอีกครั้งเมื่อราตรีย่างเยือน

ดุสิต ดัชถุยาวัตร วณิพกรุ่นเก๋า อดีตหมอนวดแผนไทย ผู้ผันตัวมาทำอาชีพนักร้องข้างถนน เล่าว่า ธรรมชาติของวณิพกไม่ค่อยอยู่ติดที่ติดถิ่น มักร่อนเร่พเนจรกไปทั่วทุกมุมเมือง หนอกจอก รามคำแหง สุขุมวิท สีลม ปิ่นเกล้า นนทบุรี แจ้งวัฒนะ ดอนเมือง ห้วยขวาง ฯลฯ แหล่งที่คนพลุกพล่านขวักไขว่

"โดยเฉพาะร้านหมูกระทะ ร้านลาบ ร้านเหล้า ตลาดนัด เวลาจะเข้าไปก็ขอเจ้าของเขาก่อน ถ้าไม่ให้ก็ไปที่อื่น ถ้าให้เราก็ไปเดินร้องรอบเดียวพอ ไม่ซ้ำ เพราะเกรงใจกลัวลูกค้าจะรำคาญ การเดินร้องเพลงตามร้านหมูกะทะ เป็นผลพวงจากการไม่มีสถานที่ให้เล่น พอไม่มีที่ให้วงใหญ่เล่น เลยต้องแยกออกมาเป็นศิลปินเดี่ยว เดินร้องเพลงไปเรื่อย บางคนให้เงินเพราะร้องเพลงโดนใจเขา บางคนให้เพราะรำคาญ บางคนไล่แถมด่าลับหลังว่าอย่าไปให้มัน ให้แล้วเดี๋ยวมันก็มาขออีก"

สมคิด มนตรีคลัง หญิงสาวผู้ทำหน้าที่พาวณิพกไปตระเวนร้องเพลง ยืนยันหนักแน่นว่า พวกเธอไม่ได้เป็นขบวนการขอทานตามที่สังคมเข้าใจ

"คนมักมองว่าเราเป็นแก๊ง เป็นขบวนการ เราหากินกับคนพิการ แต่ความจริงคือ ถ้าไม่มีคนพาไปบางร้านเขาไม่ให้เข้า เพราะกลัวจะเดินไปชนเตาหมูกระทะ เดินชนลูกค้า อีกอย่างคนพาไปร้องเพลงจะช่วยเหลือดูแลวณิพกตลอด ปวดห้องน้ำห้องท่าก็พาไป หิวน้ำหิวข้าวก็หาให้กิน จูงขึ้นรถ เขาต้องการให้เรามาช่วยด้วยความเต็มใจ แบ่งเงินกัน ได้มากก็แบ่งมาก ได้น้อยก็แบ่งน้อย เราเองก็ไม่ใช่คนที่หากินกับขอทาน รู้สึกเจ็บปวดนะเวลาโดนคนเขาด่า"

ธีรพัฒน์ วังราช วณิพกตาบอด บอกว่า ชอบงานบวชกับงานแต่งมากที่สุด เพราะงานเหล่านี้ปลอดภัย คนอารมณ์ดี ทิปเยอะ ต่างจากงานโศกเศร้า บรรยากาศจะซึมเซาเหงาหงอย คนไม่ค่อยมีอารมณ์ฟังเพลง

เสียงครวญจาก "วณิพก" ขอพื้นที่ให้เราร้องเพลง

บุญชู ซับขวัญ วณิพกผู้มากความสามารถทางดนตรี ทั้งร้องนำ เบส กีตาร์ กลอง ถึงขั้นมีวงของตัวเองชื่อ "น้ำเพชร" เล่าให้ฟังว่า เคล็ดลับการร้องเพลงให้ถูกใจคนคือ เลือกร้องแต่เพลงฮิต

"ยกตัวอย่างเพลงไสสิบ่ว่าถิ่มกันกำลังดัง โดนใจคน ต้องรีบหัดร้องเลย เพลงสมัยนี้มาเร็วไปเร็ว ช้าไม่ได้ ไม่ต้องร้องให้เหมือนเป๊ะหรอก ร้องไปก่อน ถ้าคนชอบจะรู้ได้จากเสียงตบมือ เสียงกรี๊ดกร๊าด แต่ถ้าเงียบสนิทหมายความว่าไม่ตรงใจเขา จุดด้อยของวณิพกตาบอดอยู่ตรงเอ็นเตอร์เทนคนไม่ได้ มองไม่เห็น อย่างจะพูดว่า 'เอ้า พี่เสื้อขาวขอมือหน่อย' มันทำไม่ได้ บรรยากาศเลยอับเฉาไม่ครึกครื้น ร้องได้แต่เพลง แต่เล่นกับคนดูไม่ได้ สมัยนี้แต่ละวันได้ 1,000 ถือว่าถูกหวย แต่ต้องหักใช้จ่าย เช่น ค่าคนพามาที่เขามาช่วย หักค่ารถ ตกถึงมือก็300-400 บาท บวกกับเงินที่รัฐช่วยเหลือคือเบี้ยพิการเดือนละ 800 ไม่ค่อยพอใช้หรอกครับ ต้องกู้รายวันด้วยอีกทางนึงถึงจะอยู่รอด"

ขณะที่ ถนอม บอกอย่างภาคภูมิใจว่า จุดเด่นของวงดนตรีวณิพกตาบอดคือ จุดประกายให้คนที่มีร่างกายสมบูรณ์ที่กำลังท้อแท้สิ้นหวัง มีกำลังใจในการสู้ชีวิต

"คนตาดี มือเท้าดีที่มาฟังเพลงจะคิดได้ว่า คนตาบอดเขายังสู้ ทำไมเราไม่สู้ คนท้อแท้หมดหวังก็เกิดกำลังใจ นี่คือสิ่งที่คนตาบอดทำให้คนปกติได้ ฝันสูงสุดของวณิพกแก่ๆอย่างผมคือ ขอโอกาสให้พวกเรามีพื้นที่ในการแสดง ไม่ขอมากไปกว่านี้ ไม่ฝันเป็นดาวเด่น ได้อัดเพลง ได้อยู่ค่ายใหญ่ ขอแค่โอกาสได้รับความเข้าใจจากประชาชน จากภาครัฐ อย่าสงสาร แต่ให้โอกาสเรา แล้วเราจะแสดงฝีมือเต็มที่"

ประธานเครือข่ายวณิพก ฝากไปยังกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะผู้รับผิดชอบดูแลเรื่องขอทานและวณิพกว่า อยากให้มีการจดทะเบียนวณิพก ทำบัตรประจำตัว เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยยิ่งขึ้น

"ขอให้พวกเราวณิพกตัวจริงเสียงจริงได้มีส่วนร่วมในการร่างข้อบัญญัติรายละเอียดที่จะมาบังคับใช้ด้วย ไม่ใช่มีแต่นักวิชาการ ตัวแทนสมาคม ซึ่งไม่ได้มารับรู้คลุกคลีปัญหาที่แท้จริง ตรงนี้ถือเป็นการชี้เป็นชี้ตายชะตากรรมของวณิพกในอนาคตข้างหน้า พวกเรายินดีอยู่ภายใต้กฎระเบียบอยู่แล้ว แค่ขอให้พวกเราออกสิทธิ์ออกเสียง ได้มีที่ยืนในสังคมบ้าง"

เสียงครวญจาก "วณิพก" ขอพื้นที่ให้เราร้องเพลง

ศิลปินหรือขอทาน?...เส้นบางๆที่สังคมยังเข้าใจผิด

วิธนะพัฒน์ รัตนาวลีพงษ์ ผู้ประสานงานโครงการรณรงค์ยุติธุรกิจเด็กขอทาน มูลนิธิกระจกเงา ให้ความเห็นว่า ข้อดีของพ.ร.บ.การควบคุมขอทานฉบับใหม่ คือ การแยกพฤติการณ์ของวณิพกกับขอทานออกมาอย่างชัดเจน ไม่เหมารวมเหมือนพ.ร.บ.ควบคุมขอทานฉบับเก่า

"กฎหมายฉบับใหม่ จะมีการกำหนดนิยามคำว่าวณิพก ไว้อย่างชัดเจนว่าเป็นผู้มีความสามารถ ไม่ใช่ขอทาน ทำให้คนเหล่านี้มีตัวตน และจัดระเบียบแก้ปัญหาขอทานได้ง่ายขึ้น ที่ผ่านมาเราพบกลุ่มสวมรอยเป็นวณิพก นั่นคือ กลุ่มเด็กเป่าแคน พวกนี้มาจากสุรินทร์และศรีสระเกษเป็นหลัก เริ่มต้นจากมีเด็กมีความสามารถด้านการเป่าแคนมาเล่นที่ตลาดนัดจตุจักร ปรากฎว่าคนให้เงินเยอะมาก พอกลับไปเพื่อนบ้านก็เห็นว่ารายได้ดี จึงส่งลูกหลานมาเป่าแคนบ้าง ทั้งที่เป่าไม่เป็น และไม่เต็มใจจะมาเป่า

เราเคยติดตามไปเฝ้าดูเห็นได้ชัดว่า เด็กหลายคนเป่าไม่เป็นทำนอง ไม่มีความภาคภูมิใจในการแสดง ดูรู้เลยว่าถูกบังคับมาอย่างไม่เต็มใจ แตกต่างจากวณิพกที่ขายความสามารถ เพื่อที่คนให้เงินจะรู้สึกว่าให้เพราะชอบในน้ำเสียง ฝีมือการร้อง เล่น ให้เพราะประทับใจในการต่อสู้ชีวิต วณิพกบางกลุ่มฝีมือเยี่ยมไม่แพ้มืออาชีพ  เพียงแต่เขาเล่นอยู่ข้างถนนเท่านั้นเอง"

เสียงครวญจาก "วณิพก" ขอพื้นที่ให้เราร้องเพลง

จัดระเบียบใหญ่ในรอบ 75 ปี

เมื่อเร็วๆนี้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีมติเห็นชอบให้ ร่างพ.ร.บ.ควบคุมขอทาน พ.ศ. ... สาระสำคัญคือ แยกวณิพกออกจากการเป็นขอทาน กำหนดความผิดทางอาญาแก่ผู้แสวงหาประโยชน์จากการขอทาน โดยมีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท และถ้ากระทำต่อสตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ คนวิกลจริต คนพิการ หรือเจ็บป่วย โทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท มีผลบังคับใช้ 90 วันตั้งแต่ประกาศราชกิจจานุเบกษา

พุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ระหว่างช่วงเวลา 90 วันนี้ สิ่งสำคัญที่ต้องทำให้สำเร็จลุล่วงคือ  ตั้งคณะกรรมการควบคุมการขอทาน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นประธาน หลังจากนั้นจะมีการกำหนดรายละเอียดข้อบัญญัติต่างๆว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป

เสียงครวญจาก "วณิพก" ขอพื้นที่ให้เราร้องเพลง

"พรบ.ฉบับนี้ถือเป็นครั้งแรกที่นิยามตัวตน ยอมรับการมีอยู่ของวณิพก ที่ผ่านมาถือว่าผิดหมด แต่ไม่ได้มีการจับกุมขั้นรุนแรง ใช้วิธีตักเตือน สร้างความเข้าใจ เพื่อลดปัญหาขอทาน การรณรงค์จัดระเบียบครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 7-11 มี.ค.2559 เรามีแบบสอบถามกับประชาชน พบว่า ขอทาน 50 % เห็นด้วยกับพรบ.ขอทานว่า จะแก้ปัญหาค้ามนุษย์ได้ กำจัดขอทานเด็ก ถ้าลดการให้เงินได้ จำนวนขอทานก็จะลดลง

สำหรับวณิพก ที่ผ่านมามีโครงการ From Street to Star ร่วมกับทรู คอร์เปอเรชั่น ค่ายเพลงแกรมมี่ อาร์เอส เพื่อพัฒนาศักยภาพให้พวกเขาเหล่านี้ไปสู่อีกระดับหนึ่ง เช่น ไปแสดงโชว์ในภัตตาคาร โรงแรม หรือร้านอาหารที่ถูกต้องตามกฎหมาย  เมื่อร่างกฎหมายบังคับใช้คงต้องมีการกำหนดคุณสมบัติวณิพก ขึ้นทะเบียน มีบัตรประจำตัวอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการสวมรอยเป็นวณิพกมาเร่ขอทาน นอกจากนี้ในการประชุมจะเชิญผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคประชาสังคม สมาคมคนพิการต่างๆมาให้ความเห็น ข้อเสนอแนะ ตัววณิพกเองต้องส่งตัวแทนมาเป็นอนุกรรมการเพื่อออกอนุบัญญัติด้วย

ทั้งหมดนี้เป็นความคืบหน้าล่าสุดของพ.ร.บ.ควบคุมขอทานฉบับใหม่ที่จะมาเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของเหล่าวณิพก ศิลปินเพลงข้างถนน อาชีพที่ถูกดูหมิ่นดูแคลนมานานนับศตวรรษ.

 

 

 

ข่าวล่าสุด

LH Bank ออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก “LHB OPD SAVER”