‘ภูเก็ต’ ฉะเตือนภัยสึนามิ ‘ถ้าเกิดจริงตายมหาศาล’
เหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 7.9 ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะสุมาตรา ห่างจาก จ.ภูเก็ต 1,463 กิโลเมตร แม้จะไม่เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ แต่ถือเป็นอีกครั้งที่เสมือนการซ้อมใหญ่สำหรับระบบเตือนภัย ถือว่า “สอบไม่ผ่าน”
โดย...ทีมข่าวภูมิภาคโพสต์ทูเดย์
เหตุการณ์แผ่นดินไหวในทะเลขนาด 7.9 ความลึก 10 กิโลเมตร บริเวณทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ห่างจาก จ.ภูเก็ต ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 1,463 กิโลเมตร เมื่อช่วงค่ำ วันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา แม้จะผ่านพ้นไปโดยไม่เกิดคลื่นยักษ์สึนามิตามที่กังวลและมีการเฝ้าระวัง แต่ถือเป็นอีกครั้งที่เสมือนการซ้อมใหญ่สำหรับระบบเตือนภัยและอพยพผู้คนตามแนวชายฝั่ง ซึ่งครั้งนี้ ถือว่า “สอบไม่ผ่าน”
“เมื่อคืนถ้าเกิดสึนามิจริง จะมีคนตายมหาศาล เรามีหน่วยงาน ขาดเครื่องมือเป็นระบบ ตอบโต้ ในเวลาที่กำหนด จุดบอดเมื่อคืน ฟังก์ชั่นไม่มี การสื่อสารต่อไม่มี ไม่สามารถใช้กลไกปกป้องคนได้ ดังนั้นการซ้อมแผนอพยพสึนามิครั้งต่อไปต้องดีกว่าเดิม ต้องแก้ปัญหาเดิมให้ได้” โชคดี อมรวัฒน์ รอง ผวจ.ภูเก็ต กล่าวในการประชุมการฝึกการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การสนับสนุนทรัพยากรและการจัดการภัยพิบัติ แผ่นดินไหวและสึนามิ ระดับกลุ่มจังหวัด ประจำปี พ.ศ. 2559 ครั้งที่ 1/2559 ร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน 18 หน่วยงาน เมื่อวันที่ 3 มี.ค. หลังผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อคืนวันที่ 2 มี.ค.มาแบบสดๆ ร้อนๆ
รอง ผวจ.ภูเก็ต กล่าวว่า อยากให้ทบทวนการเคลื่อนย้าย การอพยพคน แม้ว่ามีการเฝ้าระวัง เตรียมการซ้อมกันมานาน แต่จะรู้เฉพาะคนที่มาซ้อมแผน แต่คนที่ไม่ได้มาซ้อมแผน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เข้าออกทุกวันมีจำนวนมากเป็นตัวแปรความเสี่ยง จึงต้องขอความร่วมมือสมาคมโรงแรมฯ ให้ความรู้ ความเข้าใจ นักท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบ
“ระบบของเรายังไม่พร้อม เมื่อจะมีการฝึกซ้อม ขออย่าให้ซ้อมกันเล่นๆ เพราะถ้าเกิดจริง รุนแรง เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ได้ประเมินแล้วความพร้อมเราไม่ดีพอ อาจมีความเสียหายได้ อยากให้เกิดความพร้อม ครอบคลุมทุกมิติ เมื่อคืนเกือบเกิดสึนามิ ดังนั้นเราต้องเตรียมให้มากที่สุด ต้องการให้มีการซ้อมให้คนรู้เมื่อเกิดเหตุ เกิดภัย ในการช่วยเหลือตัวเองในทางที่ถูกต้อง อพยพไปที่ถูกต้อง” รอง ผวจ.ภูเก็ต กล่าว
ด้าน ว่าที่ ร.ต.ตระกูล โทธรรม ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 18 ภูเก็ต กล่าวว่า เหตุเตือนแผ่นดินไหวเมื่อคืนวันที่ 2 มี.ค.นั้น ทันทีที่เกิดเหตุได้ประสานไปท้องถิ่น แต่ไม่ได้รับคำตอบใดเลย มีกลุ่มไลน์ แต่เงียบทั้งกลุ่ม
“หลังเกิดแผ่นดินไหวที่อินโดนีเซีย ท่านจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผจว.ภูเก็ต นั่งบัญชาการ ที่ศูนย์ ปภ.เขต 18 ภูเก็ต ตลอดทั้งคืน จนกระทั่งมีการยกเลิกการเตือนภัย โดยหากเกิดเหตุจริง ทางศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ จะแจ้งผู้บริหารจังหวัดทราบผ่านระบบข้อความ SMS ให้เตรียมพร้อม และเช็กข้อมูลตามที่ศูนย์เตือนภัยฯ แจ้งมา”
ทั้งนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พื้นที่ จ.ภูเก็ต ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง โดยเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2558 ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหวจากหมู่เกาะนิโคบาร์ มหาสมุทรอินเดีย ขนาด 6.2 ส่งผลให้เกิดแรงสะเทือนและไหวต่อเนื่องกว่า 20 ครั้ง ครั้งรุนแรงที่สุด ระดับ 6.4 ริกเตอร์ รับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ใน จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ และสุราษฎร์ธานี
และครั้งที่ใกล้ที่สุด อยู่ห่างจาก จ.ภูเก็ต ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ราว 400 กิโลเมตร แผ่นดินไหวบริเวณหมู่เกาะนิโคบาร์ เคลื่อนที่แนวราบ เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2555 โดยรอยเลื่อนแนวราบเช่นนี้ แม้จะไม่ทำให้เกิดคลื่นยักษ์ แต่สร้างความตื่นตระหนกให้ประชาชนอย่างมาก
ขณะที่หลายฝ่ายกังวลว่า หากเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง หรือมีความรุนแรง ก็อาจส่งผลต่อรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย ซึ่งผ่านพื้นที่ จ.ภูเก็ต
ที่ผ่านมา ระบบเตือนภัยสึนามิ ถูกตั้งคำถามถึงความพร้อมในการปกป้องชีวิตผู้คนริมชายฝั่ง 6 จังหวัดอันดามันมาโดยตลอด


