ณัฐวิทย์ ผลวัฒนสุข คนแห่งโลกดิจิทัล
ธุรกิจดอทคอม เว็บไซต์เทพช็อป (www.lnwshop.com) ผู้ให้บริการเปิดร้านค้าออนไลน์ฟรี ที่ก่อตัวขึ้นจากแนวคิด “ร่วมกัน”
โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล
ธุรกิจดอทคอม เว็บไซต์เทพช็อป (www.lnwshop.com) ผู้ให้บริการเปิดร้านค้าออนไลน์ฟรี ที่ก่อตัวขึ้นจากแนวคิด “ร่วมกัน” ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เข้ามาถูกจังหวะในช่วงที่กำลังซื้อดิจิทัลกำลังเคลื่อนสู่ยุคเฟื่องฟู ที่ธุรกิจมีอัตราการเติบโตพุ่งพรวดแบบเท่าตัวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ส่วนผสมบนความต่าง
ณัฐวิทย์ ผลวัฒนสุข วัย 29 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลเอ็นดับเบิ้ลยู บริษัทแม่ผู้ถือหุ้น 100% ในธุรกิจเว็บไซต์เทพช็อปดอทคอม ผู้ให้บริการอี-คอมเมิร์ซสำหรับร้านค้าออนไลน์ และ บริษัท พีแอนด์ที โฮสติ้ง ธุรกิจบริการโฮสติ้ง และการจดโดเมนสำหรับเว็บไซต์
สำหรับการเข้ามาทำธุรกิจส่วนตัวนี้ เขามองว่าเป็นเรื่องท้าทายและที่สำคัญตัวเขาเองชอบที่จะทำอะไรด้วยตัวเองมากกว่าการที่จะไปเป็นมนุษย์เงินเดือนทำงานในบริษัทใหญ่ๆ ที่มีกฎเกณฑ์ต่างๆ แต่ถ้าหากเราสามารถทำธุรกิจของเราเองได้ ก็สามารถที่จะกำหนดบทบาทแนวทางได้ด้วยตัวเอง
พร้อมยกตัวอย่างถึงตัวเขาเอง ที่นอกจากจะหลงใหลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์แล้ว ขณะเดียวกันก็ถนัดด้านการสื่อสารด้วย จึงมีหน้าที่ในด้านออกแบบวิธีการใช้งานของเทพช็อป ทั้งด้านการปฏิสัมพันธ์ร่วมกับผู้ใช้งาน (ยูสเซอร์ อินเตอร์เฟส) หรือการสร้างประสบการณ์ร่วมกับผู้ใช้งาน (ยูสเซอร์ เอ็กซ์พีเรียนซ์) เป็นต้น
ทั้งหมดเกิดจากประสบการณ์ที่ได้มาจากการเรียนรู้ในโลกอินเทอร์เน็ต ที่เขาออกไป “เซิร์ฟ” โต้คลื่นไซเบอร์เพื่อศึกษาพฤติกรรมของผู้คน และกระแสต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกผ่านจอสกรีนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 6-7 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อยต่อวัน
สตาร์ทอัพผู้ปฏิเสธวีซี
หลังจากได้ “ทีม” มาร่วมพัฒนาธุรกิจแล้ว สเต็ปต่อไป คือ การพัฒนาธุรกิจไปสู่ความเป็นเว็บไซต์เทพ ที่ใครเห็นแล้วจะต้องร้องว้าว!! ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทุกคนต้องนำกลับมาคิดอย่างหนัก จึงทำให้ช่วงของการพัฒนาธุรกิจดังกล่าวใช้เวลาไปถึง 1 ปีเต็ม เพื่อแก้ไขและปรับปรุงระบบทั้งหลังบ้านและหน้าบ้านให้มีความสมบูรณ์แบบ ก่อนเปิดตัวธุรกิจเทพช็อปเพื่อให้บริการอย่างจริงจังเมื่อราว 3 ปีก่อน ขณะที่ตัวบริษัทเทพก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2552
โดยในช่วงแรกของการทำธุรกิจ บริษัทใช้งบลงทุนที่ได้มาจากธุรกิจโฮสติ้งมาใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการพัฒนากิจการที่ ต้น-ปฐมพร แสงอุไรพร เริ่มธุรกิจนี้มาตั้งแต่สมัยยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 3-4
“บริษัทเราถือเป็นเทคโนโลยีสตาร์ทอัพยุคแรกๆ ก็ว่าได้ มีโค-ฟาวเดอร์ราว 6-7 คน โดยช่วงแรกในการทำธุรกิจก็มองถึงอนาคตกันว่าจะเป็นกันอย่างไร เราจะหาผู้ร่วมทุนอย่างวีซี หรือเวนเจอร์แคปปิตอลเข้ามาช่วยสนับสนุนการลงทุนธุรกิจไหม เรื่องนี้ก็มีเสียงแตกบ้าง มีการคุยกันเป็นเดือนๆ ด้วยในช่วงที่ผ่านมาหลังจากเปิดตัวบริการออกสู่สาธารณะไปแล้ว ก็มีวีซีหลายรายจากทั้งในและต่างประเทศแสดงความสนใจที่จะขอเข้ามาร่วมทุนธุรกิจ” ณัฐวิทย์ ย้อนภาพธุรกิจในช่วงแรกให้ฟัง
กระทั่งผู้ร่วมก่อตั้งต่างมองเห็นจุดร่วมที่ค่อนข้างจะไปในทิศทางเดียวกัน คือ จะไม่นำธุรกิจเข้าไปสู่การเข้าร่วมทุนกับวีซีรายใดรายหนึ่ง ด้วยไม่ต้องการให้ผู้เข้าร่วมทุนเข้ามากำหนดกฎเกณฑ์ วิธีการทำงานต่างๆ ที่อาจทำให้บริษัทสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งเป็นปณิธานหลักของธุรกิจที่ได้เริ่มต้นมาอยู่แล้ว ที่ปัจจุบันส่งผลดีต่อธุรกิจที่ทำให้เทพช็อปมีลักษณะ หรือคาแรกเตอร์การทำงานและการให้บริการที่มีเอกลักษณ์แตกต่างไปจากผู้ให้บริการอี-คอมเมิร์ซราย อื่นๆ ในตลาด ที่สะท้อนความเป็นมืออาชีพภายใต้เหล่าฝีมือวิศวกรคอมพิวเตอร์คนไทย
ทุกเรื่องมันน่าตื่นเต้น
ณัฐวิทย์ เสริมว่า ทำธุรกิจเว็บไซต์เทพช็อป เพื่อตอบสนองทั้งความต้องการของลูกค้าและร้านค้าคนไทย ให้ได้มีของดีบนโลกออนไลน์ไว้ใช้และสามารถเข้าถึงได้สะดวก อย่างหน้าร้าน “สโตร์ ฟรอนท์” เป็นระบบที่ช่วยให้เจ้าของร้านเข้ามาบริหารจัดการปรับปรุง อัพเดทข้อมูลสินค้าบริการต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง โดยตัวร้านค้าจะต้องสมัครใช้บริการกับทางเทพช็อปก่อน จนถึงปัจจุบันนี้บริการดังกล่าวมีจำนวนร้านค้าที่สมัครใช้งานไม่ต่ำกว่า 3 แสนร้านค้า และมีจำนวนลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชม (วิว) กว่า 1 ล้านรายต่อวันทีเดียว
และแน่นอนว่าไม่ว่าจะทำธุรกิจใดๆ ก็มักจะต้องเจอกับปัญหา เทพช็อปก็เช่นกันที่มักมีเรื่องให้เข้ามาแก้ไขอยู่เสมอ ซึ่งในช่วงนั้นจะใช้วิธีการลองผิดลองถูก อะไรดีก็จะลองทำ ใช้เวลาเรียนรู้กับมัน เพราะเราไม่มีที่ปรึกษา ทุกอย่างเป็นการตัดสินใจเองร่วมกันทั้งหมด อย่างในตอนแรกๆ ก็ตกใจเหมือนกันเมื่อเจอกับกระแสความต้องการใช้บริการเทพช็อปจากร้านค้าต่างๆ จำนวนมากๆ
“เรารู้สึกตื่นเต้นกับทุกเรื่องที่เจอ อย่างเราได้ทำมันจริงๆ เจอคนใช้งานจริงๆ เวลามีฟีดแบ็กกลับมาว่าไม่ดีเราก็รู้สึกแย่นะ แต่ถ้าเวลามีคนชม การใช้บริการก็รู้สึกว่ามีกำลังใจ แต่เราก็จะไม่ได้คิดมากกับปัญหาอุปสรรคต่างๆ ที่เจอ แต่เราสนุกกับการเข้าไปแก้ปัญหากับมัน อย่างในช่วงหลังหรือ 1-2 ปีมานี้ เริ่มมีเจ้าใหญ่ๆ ลงมาเล่นในตลาดอี-คอมเมิร์ซ มากขึ้น ซึ่งตอนนี้ทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาที่โหดขึ้นมาก ซึ่งเทพช็อปก็ต้องปรับกลยุทธ์ตาม” ณัฐวิทย์ เล่า
อี-คอมเมิร์ซเคลื่อนสู่ยุคใหม่
พร้อมมองต่อไปว่า ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในไทยนับจากนี้กำลังเข้าสู่ยุคการเปลี่ยนถ่าย (ทรานสฟอร์ม) จากการรวบรวมร้านค้าออนไลน์ไปสู่การแข่งขันดึงกลุ่มลูกค้า ทำให้เกิดการแข่งขันด้านบริการที่รวดเร็วมากขึ้น ทำให้เทพช็อปเตรียมหันไปใช้กลยุทธ์การตลาดที่เน้นบริการ เพื่อสร้างความประทับใจและบอกต่อ เพื่อรักษาฐานผู้ใช้บริการกลุ่มลูกค้าไปพร้อมกันด้วย
ขณะที่เทพช็อปจะมีบริการทั้งสิ้น 3 รูปแบบ ประกอบด้วย “เทพมอลล์” มีการคัดหน้าร้านที่ดีเด่น มีคุณภาพ และให้บริการจัดส่งสินค้าตรงตามเวลา บริการ “เทพมาร์เก็ต” ให้ร้านออนไลน์สามารถประกาศขายสินค้าผ่านหน้าร้านได้ และบริการใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ “เทพเพย์” ระบบการจ่ายเงินในการชำระสินค้าสำหรับร้านค้าและลูกค้า ซึ่งบริการดังกล่าวจะเป็นตัวกลางในการรับพักชำระเงิน เพื่อรับประกันการรับสินค้าให้กับลูกค้าปลายทางก่อน ซึ่งหากลูกค้ายังไม่ได้รับของจากร้านค้าก็สามารถติดต่อรับเงินคืนได้
สำหรับเป้าหมายการใช้บริการดังกล่าว ในช่วงแรกอยู่ที่สัดส่วน 10% หรือราว 300 ร้านค้าที่จะมีการใช้งานจริงจัง (แอ็กทีฟ) จากจำนวนร้านค้าที่มีอยู่ราว 3 แสนราย โดยบริการเทพเพย์คิดอัตราค่าบริการราว 5% ต่อการสั่งซื้อ (ออร์เดอร์) ซึ่งในสัดส่วนนี้จะถูกหักเป็นค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตไปแล้ว 3%
โดยในอนาคตเทพช็อปยังเตรียมพัฒนาบริการใหม่ๆ ด้านการขนส่งกระจายสินค้า (โลจิสติกส์) เพื่อเข้ามาเสริมความสะดวกให้กับธุรกิจมีความครบวงจรยิ่งขึ้น คาดจะเป็นรูปธรรมภายใน 1-2 ปีนับจากนี้ นอกเหนือจากการให้บริการของเทพช็อปที่ยังเข้ามาช่วยร้านค้าแก้ปัญหาด้านการจัดเก็บสินค้าคงคลัง (สต๊อก) ได้อย่างมีระบบ สำหรับร้านค้าที่มี หน้าร้านออนไลน์หลายรูปแบบ (แพลตฟอร์ม) ทั้งบนเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม (ไอจี) ที่สามารถจัดการได้ด้วยตัวเองผ่านแอพพลิเคชั่น ทั้งในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และไอโอเอส ที่ร้านค้าสามารถใช้สต๊อกสินค้าแบบเดียวร่วมกันได้
ณัฐวิทย์ ทิ้งท้ายว่า ธุรกิจเทพช็อปอาจมีเค้าโครงคล้ายคลึงกับเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซ ชื่อดังอย่าง อาลีบาบา ดอทคอม ของแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งชาวจีน ทว่าจะต่างกันที่สถานการณ์ ด้วยความสำเร็จของอาลีบาบาฯ นั้นเกิดขึ้นจากการที่เป็นของใหม่ที่เริ่มจากการที่ยังไม่มีอี-คอมเมิร์ซในจีน ต่างจากบ้านเราที่รู้จักเรื่องนี้กันมานานและมีผู้เล่นอยู่ก่อนหน้าพอสมควร
ดังนั้น การเข้ามาในตลาดอี-คอมเมิร์ซของเทพช็อป จึงเต็มไปด้วยเรื่องราวต่างๆ ทั้งปัญหาที่เข้ามาให้แก้ไข และประสบการณ์ใหม่ๆ และเมื่อหันกลับไปมองถึงจุดเริ่มต้นจากกลุ่มคนเพียงไม่กี่คน ที่ใช้สถานที่ห้องชุดคอนโดมิเนียมเพื่อเช่าใช้เป็นออฟฟิศแห่งแรก ก่อนขยับขยายมาที่ตั้งแห่งใหม่บนไอทีเอฟ สีลม ในปัจจุบัน
ถึงขณะนี้บริษัทมีพนักงานร่วม 32 คน ถือเป็นธุรกิจดอทคอมเล็กๆ ที่เติบโตมาเรื่อยๆ พร้อมยอดขายในปี 2558 ที่คาดว่าจะแตะอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท


