ฮวงจุ้ยของราชธานี
เดือน ธ.ค.เป็นเดือนแห่งการรำลึกเหตุการณ์สังหารหมู่ที่หนานจิง (นานกิง) อดีตเมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนจีน
โดย...กรกิจ ดิษฐาน
เดือน ธ.ค.เป็นเดือนแห่งการรำลึกเหตุการณ์สังหารหมู่ที่หนานจิง (นานกิง) อดีตเมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนจีน (สมัยก่อนเรียกจีนคณะชาติ หรือก๊กมินตั๋ง) ครั้งหนึ่งเคยคุยกับผู้สันทัดกรณีด้านประวัติศาสตร์ ผมเปรยขึ้นมาว่าหนานจิงเป็นเมืองที่สวยคลาสสิกน่าอยู่ มีประวัติศาสตร์ยาวนานสมกับเป็นเมืองหลวง แต่อีกฝ่ายบอกว่าไม่เห็นจะน่าอยู่เพราะฮวงจุ้ยไม่ดี มีกลิ่นอายของความตาย ผมเองไม่มีความรู้เรื่องฮวงจุ้ยแต่นึกถึงเหตุสังหารหมู่เมื่อ 78 ปีก่อน กับการที่พระเจ้าหย่งเล่อ หมิงเฉิงจู่ทรงย้ายเมืองหลวงไปปักกิ่ง ก็นึกคล้อยตามว่าท่าจะจริง คนจีนบางคนก็เชื่อเรื่องนี้จนมองว่าหนานจิงมีฮวงจุ้ยไม่ดี หรืออย่างน้อยสู้ปักกิ่งไม่ได้
ลองเปิดหนังสือดูกลับพบว่า ตำราฮวงจุ้ยโบราณยกย่องหนานจิงว่ามีชัยภูมิเป็นเลิศ คือป้องกันง่ายแต่รุกยาก มีราศีของราชธานี คือเป็นแผ่นดินที่ฮ่องเต้ทรงประทับ และเป็นตัวอย่างในตำราโบราณเวลาจะอ้างภูมิบ้านภูมิเมืองชั้นเลิศ มักจะใช้ลักษณะฮวงจุ้ยของหนานจิงเป็นแบบอย่างในการอธิบาย อย่างเช่นตำราตี้หลี่เหรินจื่อซวีจือ อันเป็นตำราฮวงจุ้ยฉบับชาวบ้าน แต่งโดยซินแสสมัยราชวงศ์หมิง ระบุชัดเจนว่าหนานจิงคือชัยภูมิของกษัตริย์ เหมาะจะตั้งราชธานี
แม้แต่จูกัดเหลียงขงเบ้ง ก็เคยกล่าวไว้ว่า เมืองเกี๋ยนเงียบมีชัยภูมิของกษัตริย์ เพราะมีมังกรเขียวซ่อนอยู่ในภูเขาจงซาน มีพยัคฆ์ขาวหมอบอยู่ในปราการสือโท่วเฉิง เมืองเกี๋ยนเงียบก็คือเมืองเจี้ยนเย่ อันเป็นชื่อเดิมของเมืองหนานจิง ซึ่งมีชื่อเรียกหลายชื่อมากนับแต่โบราณ
ว่ากันตามสถิติหนานจิงเป็นเมืองหลวงของ 10 ราชวงศ์ เป็นเมืองหลวงของกบฏไท่ผิง เมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนจีน เมืองหลวงของรัฐบาลหุ่นวังจิงเว่ย แล้วก็เป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนจีนอีกรอบ นับว่ามีศักดิ์และศรีไม่แพ้มหาราชธานีโบราณอื่นๆ ทั้ง 4 ของจีนโบราณ อันได้แก่ ฉางอัน ลั่วหยาง หนานจิง และปักกิ่ง
แต่ถ้าดูสถิติดีๆ จะพบว่า 10 ราชวงศ์ที่มาตั้งเมืองหลวงหนานจิงล้วนแต่อายุสั้นและจบไม่สวย บางรายจบเห่กันเลยทีเดียว พอเข้ายุคใหม่ ทั้งไท่ผิง ก๊กมินตั๋ง วังจิงเว่ยใช้หนานจิงเป็นเมืองหลวงพบกับความพ่ายแพ้ย่อยยับ รายสุดท้ายคือรัฐบาลก๊กมินตั๋งแพ้จนต้องหนีไปไต้หวันจนทุกวันนี้ เรียกได้ว่าเมืองนี้มีราศีกษัตริย์ก็จริง แต่ไม่เสถียรถาวรเท่าไหร่ แถมฮวงจุ้ยป้องกันง่าย รุกยากยังใช้ไม่ค่อยได้ผล เพราะหนานจิงถูกตีแตกง่ายๆ หลายครั้ง เช่น คราวญี่ปุ่นบุก พอบุกเขายังฆ่าคนทิ้งเป็นเบืออีก
ขณะที่ฉางอันกับปักกิ่ง พวกซินแสบอกว่ามีชัยภูมิกษัตริย์ก็จริง แต่เทียบไม่ได้กับหนานจิง อย่างปักกิ่งต้องก่อภูเขาเทียมด้านหลังพระราชวังกู้กง ส่วนที่ฉางอันภูเขาห่างจากตัวเมืองเกินไป ไม่พอดีเท่าหนานจิง แต่ปรากฏว่าเมืองขาดๆ เกินๆ อย่างนี้ เป็นราชธานีที่เข้มแข็ง และราชวงศ์ที่ปักหลักที่ 2 เมืองมีอายุยืนยาวกว่ามาก
บางท่านก็ว่าจริงๆ แล้ว ปักกิ่งมีพลังโอรสสวรรค์ รุนแรงกว่าหนานจิง จึงมีชัยภูมิราชธานีมากกว่า จูซี ปราชญ์สำนักขงจื๊อสมัยราชวงศ์ซ่ง กล่าวว่า หนานจิงมีภูมิกษัตริย์ แต่ก็ชมเชยว่า แถบปักกิ่งมีฮวงจุ้ยดีมาก เชื่อกันว่าถ้อยคำของจูซี ทำให้ราชวงศ์หยวนเลือกที่จะตั้งปักกิ่งเป็นเมืองหลวงหลังล้มราชวงศ์ซ่งลงได้ และนับแต่นั้นก็เป็นเมืองหลวงมายืดยาว มาพักแค่ช่วงสั้นๆ ตอนจูหยวนจางตั้งราชวงศ์หมิงที่หนานจิง แต่ต่อมาไม่กี่ปีพระโอรส คือพระเจ้าหย่งเล่อ หมิงเฉิงจู่ทรงย้ายกลับไปปักกิ่งอีก
หลังล้มราชวงศ์ชิง รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนกลับไปใช้หนานจิง (ทักษิณราชธานี) อีกรอบ แล้วตั้งชื่อปักกิ่ง (อุดรราชธานี) ใหม่ว่าเป่ยผิง (อุดรสันติ คือปราบทิศอุดร ไม่รู้ว่าตั้งแก้เคล็ดหรือเปล่า) แต่รัฐบาลหนานจิงก็ล้มไปในที่สุด ขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์ประกาศตั้งประเทศที่ปักกิ่ง ยืนยงคงกระพันมาจนถึงทุกวันนี้
อนึ่ง เล่ากันว่า พรรคคอมมิวนิสต์ก็ถือเคล็ดฮวงจุ้ย โดยปักหมุดอำนาจของพรรคไว้ที่แถบภูเขาซีซาน เมืองคุนหมิง เพื่อหวังผลทางพิชัยสงคราม ซึ่งคุนหมิงถือเป็นเมืองที่มีฮวงจุ้ยดีที่สุดแห่งหนึ่งของจีน โดยเฉพาะแถบซีซาน
ส่วนตัวผมไม่รู้ว่าที่ไหนฮวงจุ้ยดีไม่ดี ได้แต่ว่าตามที่ปราชญ์โบราณท่านวิเคราะห์ อ่านเพลินๆ ครับ


