posttoday

ผลวิจัยชี้ "กทม.น่าเที่ยวแต่ไม่น่าอยู่"

04 พฤศจิกายน 2558

สถาบันอนาคตไทยศึกษา เผยผลวิจัย " กรุงเทพฯน่าเที่ยวแต่ไม่น่าอยู่" ชี้การจราจรติดขัด พื้นที่สีเขียวน้อย ค่ารถไฟฟ้าแพง

สถาบันอนาคตไทยศึกษา เผยผลวิจัย " กรุงเทพฯน่าเที่ยวแต่ไม่น่าอยู่" ชี้การจราจรติดขัด พื้นที่สีเขียวน้อย ค่ารถไฟฟ้าแพง

สถาบันอนาคตไทยศึกษา ได้ทำการศึกษาวิจัย 10 ข้อเท็จจริงชีวิตคนกรุงเทพฯ โดยสรุปออกมาว่า แม้กรุงเทพได้รับการจัดอันดับเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวของโลกแต่สภาพข้อเท็จจริงแล้ว การใช้ชีวิตในเมืองหลวงแห่งนี้ ไม่น่าอยู่เอาเสียเลย "

โดย 10 ข้อเท็จจริงที่ทำการศึกษา สรุปดังนี้ 

1. กทม. มี 37 หน่วยงานดูแลการจราจร

แต่อัตราเร็วเฉลี่ยของรถยนต์อยู่ที่ 16 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้นถึงแม้ในกทม. จะมีหน่วยงานที่ดูแลด้านการจราจรกว่า 37 หน่วยงาน อาทิ กทม. เป็นผู้สร้างและซ่อมสัญญาณไฟจราจร, ตำรวจจราจรคือผู้ควบคุมสัญญาณไฟ, สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและการจราจรเป็นผู้กำหนดเส้นทางการเดินรถเมล์และรถไฟฟ้า แต่นั่นไม่ได้ช่วยทำให้ปัญหาการจราจรดีขึ้น

ล่าสุด ผลสำรวจจาก Castrol Magnatec Start-Stop index ระบุว่า ความเร็วเฉลี่ยของรถยนต์ที่วิ่งบนถนนสายหลักของประเทศไทยอยู่ที่ 16 กม. ต่อชั่วโมง หรือเท่ากับความเร็วของจักรยานที่แนะนำให้ปั่นในเมือง

2. ลงทุนไปมากกับการขนส่งมวลชนที่มีจำนวนผู้ใช้บริการน้อย

เป็นที่น่าแปลกใจสำหรับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งก์ซึ่งลงทุนใช้งบฯ ไปถึง 33,000 ล้านบาท แต่มีผู้โดยสารปีละ 17 ล้านคนเท่านั้น น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้จากเดิม 35 ล้านคนต่อปี เช่นเดียวกับขบวนรถด่วน BRT ที่ลงทุนไป 2,800 พันล้านบาท แต่ปัจจุบันมีผู้โดยสาร 6 ล้านคนต่อปี น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมที่ 13 ล้านคน ขณะที่เรือด่วนเจ้าพระยา และเรือโดยสารในคลองแสนแสบ ได้งบประมาณเพียง 70 ล้านบาทในการดูแล ทั้งที่มีผู้ใช้บริการสูงถึง 29 ล้านคนต่อปี

3. กทม. มีเจ้าหน้าที่เทศกิจกว่า 3,200 คน เฉลี่ยอัตราส่วน 2 คนต่อพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตร

เมื่อเทียบจำนวนเทศกิจของกทม. จำนวน 3,200 คน กับพื้นที่ 1,568 ตารางกิโลเมตร เฉลี่ยจะมีเทศกิจ 2 คน คอยดูแลพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตร แต่ทำไมเราถึงยังพบเจอปัญหาสภาพทางเท้าทรุดโทรม ร้านค้าแผงลอยและมอเตอร์ไซค์อยู่บนฟุตบาท ป้ายโฆษณากีดขวางทางเท้า ซึ่งบางครั้งก็เป็นป้ายประชาสัมพันธ์ของกทม. เอง

4 .กทม. ใช้งบฯ ประชาสัมพันธ์ปีละ 377 ล้านบาท เท่ากับจ้างคนกวาดถนนเพิ่มได้อีก 3,500 คน

งบประมาณประชาสัมพันธ์ของกทม. อยู่ที่ปีละ 377 ล้านบาท แต่เป็นการประชาสัมพันธ์โครงการของกรุงเทพฯ เช่น "กรุงเทพฯ มหานครแห่งความสุข" ใช้งบฯ 30 ล้านบาท "รักกรุงเทพร่วมสร้างกรุงเทพ" ใช้งบฯ 20 ล้านบาท "กรุงเทพฯมหานครแห่งอนาคต" ใช้งบฯ 8 ล้านบาท

5. ค่ารถไฟฟ้าในกทม. แพงกว่าในโตเกียว 1.4 เท่า ในฮ่องกง 1.7 เท่า ในเซี่ยงไฮ้ 4 เท่า

เมื่อราคาที่ดินและที่อยู่อาศัยใน กทม. ปรับตัวสูงขึ้นทุกๆ ปี ทำให้ผู้คนต้องออกไปอาศัยอยู่บริเวณชานเมืองมากขึ้น และก็ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในเดินทางเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งค่าโดยสารรถไฟฟ้าของไทยก็แพงกว่าค่าโดยสารรถไฟฟ้าในเมืองอื่น เช่น โตเกียว ฮ่องกง และเซี่ยงไฮ้ เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้และค่าครองชีพ

6. กทม. ประกาศว่ามีพื้นที่สีเขียว 5 ตารางเมตรต่อคน แต่ความจริงมีเพียง 2.2 ตารางเมตรต่อคน

ข้อมูลจากสำนักสิ่งแวดล้อมได้ทำการรวบรวมพื้นที่สีเขียวใน กทม. ทั้ง 50 เขต พบว่ามีพื้นที่ 34 ล้านตารางกิโลเมตร โดยนับรวมพื้นที่ของเอกชน ต้นไม้บนทางเท้า หรือกระทั่งเกาะกลางถนน ซึ่งพื้นที่เหล่านี้กว่า 40% ใช้ประโยชน์และเข้าถึงไม่ได้ และจำนวนคนที่นำมาคำนวณเป็นตัวเลขประชากรตามทะเบียนราษฎร์ที่มีเพียง 5 ล้านคน แต่แท้จริงแล้วตามสำมะโนประชากรมีคนอาศัยอยู่ในกทม. 9 ล้านคน

7. กทม. มีข้าราชการและลูกจ้างอยู่ที่ 97,000 คน

กทม. มีข้าราชการและลูกจ้างอยู่ที่ 97,000 คน มากกว่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นของโซล ประเทศเกาหลีใต้ 2 เท่า และมากกว่าจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย 1.5 เท่า ซึ่งทั้งสองเมืองมีประชากรราว 10 ล้านคน ขณะที่กทม. มีประชากร 9 ล้านคน

8. 2 ใน 3 ของเด็กนักเรียนสังกัดกทม. ตกวิชาเลขที่จัดสอบโดย PISA

ผลคะแนนวิชาคณิตศาสตร์จากการจัดสอบโดย PISA (การจัดสอบวัดผลระดับนานาชาติ) ซึ่งเป็นเกณฑ์พื้นฐานขั้นต่ำที่นักเรียนควรรู้ ปี 2555 พบว่า 65% ของนักเรียนสังกัด กทม. ได้คะแนนต่ำกว่าเกณฑ์ ขณะที่นักเรียนในสังกัดเทศบาล และอบต. ทั่วประเทศ ได้คะแนนต่ำกว่าเกณฑ์น้อยกว่า 57%

9. กทม. จ่ายโบนัสให้ปีละ 2,300 ล้านบาท

ทุกหน่วยงานของกทม. มีผลการประเมินการปฏิบัติราชการอยู่ในระดับดีมาก ทำให้ได้รับการจัดสรรโบนัส 2,300 ล้านบาทหรือประมาณ 1.5 เดือนในทุกหน่วยงาน นอกจากนี้ยังมีการจัดสรรงบฯ ราว 200 ล้านบาทต่อปี ในการจัดอบรมเจ้าหน้าที่ และได้รับงบฯ ดูงานทั้งในและต่างประเทศจำนวน 66 ล้านบาท

10. ศาลาว่าการกทม. หลังใหม่ ใช้งบประมาณ 9,900 ล้านบาท แพงกว่าตึกที่สูงที่สุดในกทม.

การก่อสร้างอาคารศาลาว่าการกรุงเทพมหานครแห่งใหม่ที่นานกว่า 20 ปีก็ยังไม่แล้วเสร็จ ต้องใช้งบประมาณในการสร้าง รวมเป็นเงินกว่า 9,957 ล้านบาท มีพื้นที่ใช้สอย 97,000 ตารางเมตร เฉลี่ยเป็นเงิน 103,717 บาทต่อตารางเมตร ขณะที่มูลค่าการก่อสร้างอาคารมหานคร (อาคารที่สูงที่สุดในกทม.) อยู่ที่ 86,855 บาทต่อตารางเมตรเท่านั้น

ข่าวล่าสุด

ขนส่ง เตือน! รถติดถุงลมนิรภัยทาคาตะ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต เช็ก-เปลี่ยนฟรี