posttoday

"ถือศีลกินผัก" ที่เมืองตรัง

11 ตุลาคม 2558

ใกล้เข้ามาทุกที สำหรับเทศกาลถือศีลกินผักเมืองตรัง วันที่ 13-21 ตุลาคมนี้

เรื่อง...จำนง ศรีนคร /ภาพ...เพจเฟซบุ๊ก “กินเจเมืองตรัง” , Kiki Gallery Thai , @Trang ที่นี่จังหวัดตรัง

กลุ่มควันสีขาวจากธูปนับหมื่นๆแสนๆก้านตลบอบอวลไปพร้อมกับกลิ่นหอมรัญจวนแห่งศรัทธา เสียงสวดมนต์ดังลอยมาพาใจสงบ  ผู้คนหลายพันคนในชุดสีขาวขวักไขว่เต็มทุกศาลเจ้าและทั่วเมืองตรังทุกครั้ง กับ “เทศกาลถือศีลกินผัก” หรือ “เทศกาลถือศีลกินเจ” เทศกาลแห่งบุญคู่คนตรังมาไม่ต่ำกว่าร้อยปี

ชาวตรังมีประเพณี “ถือศีลกินผัก” หรือ “กินเจ” สืบทอดกันมาร้อยกว่าปี คือเริ่มประมาณพ.ศ.2447 จัดระหว่างวันขึ้น  1-9  ค่ำ  เดือน 9  ของจีน หรือราวเดือนกันยายน – ตุลาคม ของทุกปี  นับเป็นช่วงเวลาการบูชาเทพเจ้าแห่งดาวนพเคราะห์ทั้ง 9  ตามความเชื่อแบบจีน  แต่เดิมจัดที่วัดประสิทธิชัย หรือวัดท่าจีน  อ.เมือง จ.ตรัง ภายหลังมาก่อสร้างศาลเจ้าขึ้นใหม่ขึ้นอีกหลายแห่ง

ในพิธีกินเจ จะมีสมาชิกของศาลเจ้าและผู้ร่วมศรัทธามาร่วมละกิจโลกียวัตร  บำเพ็ญศีล  สมาทาน  กินเจ  บริโภคแต่อาหารผักผลไม้  งดเว้นกิจที่จะทำความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น  ซักฟอกมลทินออกจากกาย  วาจา  ใจ  สวมเสื้อผ้าสีขาวสะอาดบริสุทธิ์  ก่อนเริ่มการกินเจจะมีพิธีเตรียมการหลายขั้นตอน ที่สำคัญคือการยกเสาตะเกียงหรือคี่เต็งโก  ซึ่งทำในวันสิ้นเดือนก่อนกินเจ  1  วัน

"ถือศีลกินผัก" ที่เมืองตรัง กินเจเมืองตรัง 2558

ระหว่างพิธีกินเจ จะมีการอัญเชิญเทพเจ้ามาประทับทรงและออกเยี่ยมลูกหลาน  ซึ่งแต่ละศาลเจ้าจะกำหนดวันออกเยี่ยมไปให้ตรงกัน  โดยจัดขบวนแห่อย่างมโหฬารไปรอบๆ เมืองในขบวนจะมีม้าทรงพร้อมกับบรรดาสาวกและรูปปฏิมาตัวแทน  “เจ้า”  อยู่ใน  “เกี๊ยว”  หรือเก้าอี้หาม  ออกเยี่ยมเยียนโปรดสัตว์ไปตามอาคารบ้านเรือน  ฝ่ายเจ้าของบ้านก็จะจัดโต๊ะบูชาและเตรียมประทัดไว้จุดต้อนรับ  บางที “เจ้า”  ก็จะแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ต่างๆ โดยใช้ของมีคมเสียบทะลุเนื้อหนัง  กลับจากออกเที่ยวก็มีพิธีลุยไฟ  พอถึงวันที่  9  ค่ำก็จะมีพิธีส่งเทพเจ้าที่อัญเชิญมา รุ่งขึ้นยกเสาตะเกียงลงเป็นอันเสร็จพิธี ทั้งหมดเหล่านี้ล้วนเป็น “อภินิหาร” ที่เกิดขึ้นจาก “ความศรัทธา”

สถานที่ประกอบพีธีกรรมทางศานาของชาวไทยเชื้อสายจีนในตรัง คือ “ศาลเจ้า” หรือคนท้องถิ่นเรียกโรงพระ ปัจจุบันมีศาลเจ้าสำคัญ ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชน อาทิ “ศาลเจ้ากิวอ่องเอี่ย” “ศาลเจ้าพ่อหมื่นราม” “ศาลเจ้าพ่อเสือ” “ศาลเจ้าไต่เซี่ยฮุดโจ้ว” “ศาลเจ้ากวนอิมเก็ง” “ศาลเจ้าส่ามอ๋องฮู้เต้าโบ้วเกง” “ศาลเจ้าท่ามก๋งเยี่ย” “ศาลเจ้าเปากง” “ศาลเจ้าพ่อกวนอู” “ศาลเจ้าไท่หนานไต้เทียนกง” เป็นต้น

"ถือศีลกินผัก" ที่เมืองตรัง บรรยากาศกินเจเมืองตรัง ปี2557

เทศกาลกินเจเมืองตรังส่วนใหญ่จะมีต่อเนื่องหรือกิจกัน 9 วัน ตามความเชื่อของการจัดงานโดยหลายศาลเจ้าในเมืองตรังที่ได้ยึดปฏิบัติทั้งการประกอบพิธี การเปิดโรงทาน และกิจกรรมอื่นๆที่เกี่ยวข้องโดยพร้อมเพรียงกัน ซึ่งเป็นประเพณีที่เริ่มโดยชาวไทยเชื้อสายจีนฮกเกี้ยนชุดแรกที่อพยพมาจากแผ่นดินใหญ่หรือประเทศจีนเมื่อราวร้อยปีมาแล้ว เดิมทีเรียก “ถือศีลกินผัก” แต่เมื่อมีชาวจีนแต้จิ๋วอพยพมาเพิ่ม บ้างก็เรียก “ถือศีลกินเจ” แต่จะเรียกอย่างไรก็ล้วนมีเจตนารมย์เดียวกันในเรื่องการรักษาศีล กาย ใจ ให้บริสุทธิ์

การกินเจเกิดขึ้นครั้งแรกที่ชุมชนริมแม่น้ำท่าจีน หรือบริเวณที่ตั้งของวัดประสิทธิชัย(วัดท่าจีน) ซึ่งเป็นชุมชนชาวจีนแต่เดิมของเมืองตรัง โดยในงานกินเจครั้งแรก มีผู้ร่วมกินเจจำนวน 20 คน เป็นเรื่องเล่าที่น่าอัศจรรย์ของศรัทธาอันแรงกล้าที่ค่อยๆบ่มเพาะเจริญเติบโตจนมีผู้เข้าร่วมกินเจจำนวนมากในวันนี้

ตามข้อมูลที่ศาลเจ้า “กิวอ่องเอี่ย” ศาลเจ้าแห่งแรกสายฮกเกี้ยนได้บันทึกไว้ เฉพาะผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมกับศาลเจ้าถึงปีละไม่ต่ำกว่า 6,000 คน ไม่นับผู้กินเจที่ไม่ได้ลงทะเบียนอีกจำนวนมาก ทำให้เชื่อได้ว่าต่อ 1 ศาลเจ้า มีผู้ร่วมบุญกิจเจไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นคนต่อปี หากรวมทั้งจังหวัดตรัง คงไม่น้อยกว่าหลักแสนคน ซึ่งตัวเลขเหล่านี้เป็นตัวชี้วัดใน “ความเชื่อ” อันแรงกล้า โดยเฉพาะเจตนารมณ์ในการทำบุญ ลดละบาปและอบายมุขทั้งปวง แม้ในยุคใหม่เทคโนโลยีทันสมัย ตัวเลขดังกล่าวก็ไม่มีทีท่าลดลง

"ถือศีลกินผัก" ที่เมืองตรัง กินเจเมืองตรัง

สำหรับผู้สนใจย้อนรอยเส้นทางของแรงศรัทธาเก่าแก่นี้ การสืบเสาะจากปากคำของคนรุ่นก่อน ย่อมมีคุณค่าแห่งการจดจำ...

โกป๋าว-สงวน กิตติเชษฐ์ วัย 71 ปี สาธุชนคนสำคัญที่สัมผัสคลุกคลีกับเทศกาลถือศีลกินผักของเมืองตรังมายาวนาน เล่าว่า ประเพณีนี้มีความผูกพันกับชาวไทยเชื้อสายจีนในเมืองตรังอย่างมากและมีมาช้านานจนเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นรากเหง้า โดยในสมัยโบราณเมื่อครั้งชาวจีนโพ้นทะเลตัดสินใจละทิ้งย้ายถิ่นฐานจากประเทศจีนมาอยู่ประเทศไทย เพราะเมืองสยามถือเป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุด และในสมัยนั้นในยุคที่ชาวจีนอพยพมาขึ้นที่เมืองตรัง ตรงกับช่วงการพัดเข้ามาของลมตะวันออก ลมตะวันออกจะพัดมาจากเมืองจีน ผ่านพม่า ทะเลจีนใต้ ผ่านไทย พัดออกทะเลทางแหลมมะละกา ซึ่งเป็นลมที่พัดมาในช่วงเทศกาลถือศีลกินเจพอดี ช่วงนี้จึงมีลมเย็นๆให้เราได้รู้สึกสบายตัว

ในยุคนั้นคนจีนถ้าจะเดินเรือก็ต้องอาศัยลมดังกล่าวล่องลงมา ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนใช้เรือสำเภาในการเดินทาง ทั้งเรืออพยพและเรือสินค้า เรืออพยพก็จะล่องลงมา อ้อมแหลมมะละกา เข้าทางแม่น้ำตรัง จนมาได้ทำเลสร้างถิ่นฐานริมฝั่งแม่น้ำตรังบริเวณวัดประสิทธิชัย และเริ่มก่อร่างสร้างชุมชนชาวจีนจนเป็นปึกแผ่นมั่นคง ซึ่งถือเป็น “เส้นทางสายแพรไหม” อีกเส้นทางหนึ่งของเหล่าพ่อค้าชาวจีนที่ลำเลียงสินค้าต่อไปยังอินเดียหรือเอเชียใต้

“เมื่อคนจีนในยุคนั้นตั้งถิ่นฐานที่ชุมชนแถถบวัดท่าจีนได้มั่นคงแล้ว ก็มีการกลับไปเยี่ยมถิ่นเดิมของตัวเองที่แผ่นดินใหญ่ และร่วมแรงร่วมใจกันนำประเพณีอันดีงามจากแผ่นดินใหญ่มาเผยแพร่ในเมืองตรังเพื่อหวังเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจ มีการริเริ่มประเพณีถือศีลกินผัก การตั้งศาลเจ้า และพิธีทางความเชื่อต่างๆ เล่าต่อๆกันมาว่า ประเพณีถือศีลกินผักครั้งแรกของเมืองตรังทำกันเล็กๆโดยอาศัยบริเวณลานวัดท่าจีน โดยการกินเจคือการยกเสาธงหรือเสาเต็งโกเพื่อประกาศว่าจะกินเจแล้ว ก็กินกันกันที่ลานวัด กินเสร็จถ้วยชามก็ประมูลไว้เป็นทุนจัดครั้งต่อไป ครั้งแรกกินกัน 20 กว่าคน ต่อมาชุมชนหนาแน่นขึ้น ย้ายมาในทับเที่ยง มีการตั้งศาลเจ้ากิวอ่องเอี่ยและศาลเจ้าอื่นๆตามมา คนกินเจก็เพิ่มจำนวนมากขึ้น

"ถือศีลกินผัก" ที่เมืองตรัง พิธีขึ้นเสาเต็งโก

 

"ถือศีลกินผัก" ที่เมืองตรัง ปั้งเอี่ย หรือ ป้างเอี่ยกุน (สำเนียงฮกเกี้ยน) คือการวางค่ายกลของเหล่าทหารและแม่ทัพนายกองประจำทิศ ในบริเวณพื้นที่นั้นๆ เพื่อ ดูแลความสงบเรียบร้อยและอารักขาฮ่องเต้

 

"ถือศีลกินผัก" ที่เมืองตรัง กาประลองกำลังเพื่อเล่นประทัด

ชายชราผู้รู้ลึกรู้จริง ฝากถึงคนรุ่นต่อๆไปให้ช่วยสืบสานประเพณีอันดีงามนี้ อย่างรู้จริง ศรัทธา และเข้าใจ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นหัวใจสำคัญในการสืบทอดลมหายใจของประเพณีถือศีลกินผักเมืองตรัง ให้ดำรงอยู่ต่อไปอย่างทรงคุณค่า

“คนกินเจจะได้แน่ๆคือ ได้ เช็ง หมายถึง ความบริสุทธิ์ ล้างจิตใจคุณเอง ใน 1 ปี คุณมีโอกาส 9 วันให้คุณได้สำนึกบาป ทำบุญ เพราะงานเจ คือ การให้ สมัยก่อนคนมากินเจเขาไม่สวมรองเท้านะ เพราะคนเรามีเงินซื้อรองเท้าแพงถูกได้ แต่ที่ให้ถอดรองเท้าเพื่อให้ทุกคนเสมอภาคกัน การกินเจมันมีแต่ได้ อาหารเจคืออาหารเซียน อาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์เจือปน กินเจก็จะมีสุขภาพดี ยิ่งในโลกทุกวันนี้ที่คนใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น ลองกินดู 2-3 วันแรกก็จะเห็นผลเลย ระบบย่อยอาหารจะดีขึ้น ขับถ่ายดีขึ้น แต่ขอให้เลือกผักที่ดีไม่มีสารเคมี ในด้านจิตใจก็ช่วยได้ให้เราลดละ ผมคิดว่ามีวันดีๆแบบนี้ในตารางชีวิตบ้างก็ดี”

โกป๋าว เปรียบเทียบให้ฟังว่า เทศกาลถือศีลกินผักของเมืองตรังมีความอัศจรรย์อยู่อย่างหนึ่ง คือ เป็นการรวมผู้คนทุกเพศทุกวัยให้มาร่วมกันได้ ไม่เหมือนงานศาสนกิจอื่น ที่มักมีแต่คนแก่ แต่กินเจกลับมีคนหนุ่มสาวมาร่วมจำนวนมาก แต่ทว่าสิ่งที่เป็นห่วง คือ เราจะชักนำ เผยแพร่ ปลูกผัง ให้กับคนรุ่นใหม่เหล่านั้นอย่างไร เขาอยากฝากว่า ในช่วงกินเจนั้นถือเป็นโอกาสในการแนะนำเผยแพร่ในสิ่งดีงามแก่เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี อย่าให้ลูกหลานของเราออกนอกลู่นอกทาง

“ผมเคยไปฟังด็อกเตอร์ชาวจีนคนหนึ่งที่เคยมาบรรยาย เขาพูดได้น่าสนใจ เขาว่าเดี๋ยวนี้จีนให้ความสนใจในลัทธิทรงเจ้าเข้าผี เพราะคนทรงเจ้าเข้าผีนั้นกลัวบาป และคนที่กลัวบาปจะแบ่งเบาภาระบ้านเมืองได้เยอะ เพราะคนกลัวบาปจะไม่คดโกงไม่สร้างปัญหา ฟังดูเป็นเรื่องง่ายๆแต่มันมีคุณค่า เพียงแต่เราจะทำอย่างไรให้ความเชื่อเหล่านี้ให้มีขอบเขต ไม่งมงายจนเกินไป ผมก็ได้แต่คาดหวังว่า จะมีผู้รู้ทั้งหลายหันมาสนใจเรื่องกินเจบ้าง เพราะกินเจเป็นศูนย์รวมคนหมู่มาก คนเดียวกินเจนั้นเรื่องเล็ก แต่คนหลายพันหลายหมื่นกินเจนั้นย่อมไม่ธรรมดา แต่ของพวกนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและต้องอาศัยความเข้าใจถึงแก่นแท้"

นั่นคือ “สีขาว” ที่สวมใส่นั้น จะยังกุศลมหาศาลเหลือคณานับ หาก"สีขาว"นั้นได้ซึมลึกเข้าไปถึงในจิตใจของผู้คนด้วย

หมายเหตุ-เทศกาลถือศีลกินผักเมืองตรัง ระหว่างวันที่ 13-21 ตุลาคม 2558 ติดตามรายละเอียดเทศกาลถือศีลกินผักเมืองตรังแบบครบวงจร ได้ทาง แฟนเพจ “กินเจเมืองตรัง” ชมคลิปบรรยากาศได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=0cEKGCiqdHs , https://www.youtube.com/watch?v=8gdd8j3TiI4

"ถือศีลกินผัก" ที่เมืองตรัง งานเทศกาลถือศีลกินผัก(กินเจ) 2558 โดย เทศบาลนครตรัง

 

"ถือศีลกินผัก" ที่เมืองตรัง ตารางจัดงานเทศกาลถือศีลกินผัก(กินเจ) 2558โดย เทศบาลนครตรัง

 

 

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด เชลซี พบ เอฟเวอร์ตัน พรีเมียร์ลีก วันนี้ 13 ธ.ค.68