posttoday

โรงพยาบาลสงฆ์ไทยแห่งเดียวในโลก

11 ตุลาคม 2558

โรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยมีทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย แต่ที่เป็นโรงพยาบาลเฉพาะพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนามีแห่งเดียว และเป็นแห่งเดียวในโลก

โรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยมีทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย แต่ที่เป็นโรงพยาบาลเฉพาะพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนามีแห่งเดียว และเป็นแห่งเดียวในโลก

สถาบันจักษุ

เมื่อเป็นแบบนี้ ย่อมมีอะไรพิเศษแน่นอน และเรื่องที่คนพูดกันเสมอ คือ การรักษาทางจักษุ จนเป็นที่ตั้งสถาบันจักษุแห่งประเทศไทย เพียบพร้อมด้วยจักษุแพทย์ที่มีฝีมือ เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์มีมาตรฐานติดอันดับ ผู้เขียนจึงไปเป็นคนไข้ เพื่อผ่าตัดต้อกระจก เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2558 ได้รับความอนุเคราะห์จาก นพ.สุวิช รัตนศิรินทรวุธ ผ่าตัดและใส่แก้วตาเทียม สามารถมองเห็นโลกสว่างไสวกว่าเดิม (โรงพยาบาลสงฆ์รับคนไข้ที่เป็นฆราวาสเฉพาะโรคทางจักษุเท่านั้น) จึงขอขอบคุณมา ณ ที่นี้

รักษาพระทุกโรคฟรี

ส่วนการรักษาพยาบาลทั่วไป ก็จะเห็นพระภิกษุสามเณรทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเดินทางมารับการรักษากันทุกโรค ฟรี ทั้งอายุรกรรม ทันตกรรม กระดูก โรคทางเดินหายใจ ตา หู คอ จมูก รังสีวิทยา พยาธิวิทยา เวชศาสตร์ฟื้นฟู และศัลยศาสตร์ เรียกว่าโรงพยาบาลทั่วไปมีอะไร โรงพยาบาลสงฆ์ก็มีอย่างนั้น บางอย่างมีเหนือกว่า หรือไม่มีที่โรงพยาบาลอื่น มีที่นี่ที่เดียว เช่น การประกอบพิธีมงคลสมรส และศาสนพิธีต่างๆ รวมทั้งกิจกรรมการทำบุญ เลี้ยงพระ ทั้งพระดีและพระอาพาธ

พิธียอดนิยม

พิธีที่มีผู้คนนิยมมาใช้บริการกันทุกวัน คือ พิธีมงคลสมรส ที่โรงพยาบาลสามารถรับจัดพิธีหลั่งน้ำสังข์ให้ได้วันละ 7 คู่

การจะจัดพิธีมงคลสมรส ต้องจองด้วยตนเองและชำระเงินค่าบริการในวันจอง ซึ่งราคาแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับเวลา ถ้าเวลาตั้งแต่ 06.30 น.เป็นต้นไป ค่าบริการรวมทั้งของใช้ในพิธีต่างๆ รวม 6,000 บาท ถ้าหากเริ่มพิธี 09.30 น.เป็นต้นไป ราคาจะเปลี่ยนเป็น 1.3 หมื่นบาท การจองล่วงหน้าสะดวกกว่า ถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ ต้องจองกันข้ามเดือนไปเลย ตัวอย่างเช่นวันเสาร์-อาทิตย์ เดือน พ.ย. 2558 จองเต็มหมดแล้ว

ส่วนการทำบุญเลี้ยงพระ เช่น วันเกิด พิธีบังสุกุล ก็เริ่มบริการตั้งแต่เวลา 06.30 น.ทุกวัน เช่นเดียวกับพิธีมงคลสมรส

กรรมการสงฆ์ชม

ผู้เขียนติดต่อขอสัมภาษณ์ นพ.สมนึก อร่ามเธียรธำรง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงฆ์ แต่ท่านติดประชุมเสมอ จึงกราบเรียนสัมภาษณ์ หลวงพ่อพระธรรมสิทธินายก (เฉลิม พนฺธุรํสี) กรรมการโรงพยาบาลสงฆ์ ประจำวันที่ 29 ของทุกเดือน เจ้าอาวาสวัดจันทาราม เขตธนบุรี อดีตเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ท่านเมตตาให้สัมภาษณ์สรุปได้ว่า โรงพยาบาลสงฆ์ทุกวันนี้พัฒนาและเจริญก้าวหน้ามาก เมื่อเทียบกับอดีต ทั้งสถานที่ อุปกรณ์ทางการแพทย์ แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ แพทย์ และพยาบาลก็มีความอดทน เมื่อคนไข้ที่เป็นพระ (บางรูป) มีอีโก้ มักแสดงอาการห้าวๆ ก็ตาม ส่วนปัญหาอื่นๆ ที่กรรมการประจำวันต้องช่วยแต่ละวันก็น้อย 

กรรมการสงฆ์เรียกว่า “คณะกรรมการสงฆ์โรงพยาบาลสงฆ์” กับพระวินยาธิการ 1 รูป ทำหน้าที่ผลัดเปลี่ยนกันมาปฏิบัติงานประจำวันที่โรงพยาบาลสงฆ์วันละ 1 รูป เพื่อแก้ปัญหาและวินิจฉัยให้ความเห็นแก่โรงพยาบาลและช่วยอนุเคราะห์พระภิกษุสามเณรอาพาธให้ได้รับความผาสุกสะดวกเท่าที่ควร รวมทั้งเรื่องอื่นๆ ที่ทางโรงพยาบาลขอร้อง

กรรมการสงฆ์จะเข้าประจำหน้าที่ในเวลา 07.30-12.00 น.ก็กลับวัด ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ทางโรงพยาบาลจะนิมนต์ให้เป็นประธานในการสวดมนต์ในพิธีต่างๆ ที่หอฉัน เป็นประจำ สิ่งที่หลวงพ่อในวัย 83 ปี ปฏิบัติเป็นประจำเช่นกันตั้งแต่เป็นกรรมการมานานเกือบ 20 ปี คือ บริจาคปัจจัยทุกบาททุกสตางค์ที่โยมถวายในพิธีให้โรงพยาบาลสงฆ์ทั้งหมด ถ้าหากรวมยอดถึงปัจจุบันก็หลายแสนบาท ดังนั้นการไปเป็นกรรมการโรงพยาบาลสงฆ์ นอกจากได้ทำหน้าที่แล้วก็ได้ทำบุญกับพระที่อาพาธด้วย

จอมพล ป.ริเริ่ม

โรงพยาบาลสงฆ์เป็นโรงพยาบาลแห่งเดียวในประเทศไทยและในโลก ที่รัฐได้จัดสร้างขึ้นเพื่อให้บริการด้านการรักษาพยาบาลแก่พระภิกษุสามเณรอาพาธทั่วประเทศ เริ่มดำริครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2484 ในสมัยรัฐบาลของจอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี โดยจะสร้างที่บริเวณวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน แต่ระงับไปเนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2

พ.ศ. 2492  จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี รื้อฟื้นเรื่องการสร้างโรงพยาบาลสงฆ์และตั้ง “คณะกรรมการพิจารณาการก่อสร้างโรงพยาบาลสงฆ์” ประกอบด้วยบรรพชิตและฆราวาสรวมกัน 13 ท่าน เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2492 กรรมการตกลงคัดเลือกที่ดิน ณ ตำบลพญาไท คือที่ตั้งในปัจจุบันนี้

สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันพุธที่ 11 พ.ค. 2492 เวลา 09.32 น. วันวิสาขบูชา และทรงขนานนาม “โรงพยาบาลสงฆ์”

พิธีเปิด วันที่ 21 ก.พ. 2494 และได้มอบให้กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข รับไปดำเนินการต่อไป มี นพ.วิรัช มรรคดวงแก้ว เป็นผู้อำนวยการคนแรก เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2494

โรงพยาบาลมีวัตถุประสงค์ คือไม่ให้พระสงฆ์สามเณรไปรักษาปะปนกับฆราวาส เป็นโอกาสให้รักษาพระธรรมวินัยแม้อาพาธ และสนองพระพุทธพจน์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่ี่ว่า “โย ภิกฺขเว มํ อุปฏฺฐเหยฺย, โส คิลานํ อุปฏฺฐเหยฺย.” “ผู้ใดปรารถนาอุปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้นพึงอุปัฏฐากภิกษุไข้เถิด” สาธุ

ข่าวล่าสุด

เปิดตัว Gemini 3 Flash โมเดล AI ราคาประหยัดแต่ฉลาดเกือบเท่าเดิม