ดีเอสไอบุก3จุดยึดทรัพย์แชร์น้ำมันหอมระเหยเพิ่ม
ดีเอสไอบุกตรวจบริษัทดีซีเอชแอลคดีแชร์ลูกโซ่น้ำมันหอมระเหย 3 จุด ยึดทรัพย์รวมเพิ่มได้กว่า 700 ล้านบาท จากยอดเสียหาย 900 ล้านบาท
ดีเอสไอบุกตรวจบริษัทดีซีเอชแอลคดีแชร์ลูกโซ่น้ำมันหอมระเหย 3 จุด ยึดทรัพย์รวมเพิ่มได้กว่า 700 ล้านบาท จากยอดเสียหาย 900 ล้านบาท
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ต.ค. พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 1กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหัวหน้านำคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 1/2556 และชุดปฏิบัติการพิเศษจู่โจม ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นำหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยในคดีแชร์ลูกโซ่ บริษัท ดิจิตอล คราวน์ โฮลดิ้ง หรือ DCHL รวม 3 จุดพร้อมกัน
จุดแรกที่อาคาร DCHL เลขที่ 338 ,338/1 ,338/2 ,338/3 ,338/4 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. จุดที่ 2 บ้านเลขที่332/86 ถนนอโศก-ดินแดง แขวงและเขตดินแดง กทม. และจุดสุดท้าย ห้องชุดเลขที่ 116/152 ชั้นที่ 44 ,45 อาคารชุด มิลเลนเนียม เรสซิเดนท์ เลขที่ 4 แขวงคลองเตย เขตพระโขนง กทม.
พ.ต.ต.สุริยา เปิดเผยว่า วันนี้นำหมายค้นศาลอาญา ที่ 306/2558 เข้าตรวจค้นอาคาร DCHL และอีก 2 จุดพร้อมกัน สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายกว่า 8,000 ราย ร้องทุกข์กรณี บริษัทดังกล่าว มีนายวาเลอรี่ ริยนฮ์ หรือ กิมฮวง สัญชาติฝรั่งเศส และนายสรวีย์ รวยฟูพันธ์ เป็นกรรมการบริษัท ประกอบกิจการขายตรงน้ำหอม ช่วงปี 2552-2555 มีการชักชวนให้ประชาชนทั่วไปสมัครสมาชิกลักษณะแชร์ลูกโซ่ คนละ 192,000 บาท จะได้คืนจากการลงทุนครั้งแรกประมาณ 42,000 บาท เป็นการตอบแทน หลังจากนั้นต้องหาสมาชิกใหม่ 5-6 ราย เพื่อเข้าร่วมเครือข่ายให้ตนมีระดับสูงขึ้น รวมทั้งรับเงินตอบแทนจากการหาสมาชิก รายละ 21,000 บาท
พ.ต.ต.สุริยา กล่าวต่อไปอีกว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษรับเป็นคดีพิเศษเมื่อปี 2555 สั่งฟ้องผู้ต้องหาไปส่วนหนึ่ง ยังอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาล ซึ่ง ป.ป.ง. อายัดเงินในบัญชีกว่า 35 ล้านบาท แต่ทรัพย์สินอื่นๆ ยังไม่สามารถติดตามได้ กระทั่งเดือน มิถุนายน 2558 มีการแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนใหม่เข้าดำเนินการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสามารถติดตามยึดทรัพย์สิน เป็นที่ดิน บ้าน อาคาร กว่า 400ล้านบาท และจากการเข้าตรวจค้นในบริษัท DCHL พบเอกสารเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัท เอกสารผู้ถือหุ้นที่ไม่มีตัวตนจริง พร้อมรายชื่อผู้เกี่ยวข้องภายในบริษัทเพิ่มเติมอีกกว่า 10 รายเป็นชาวต่างชาติ 1-2 ราย ที่เหลือเป็นคนไทย รวมทั้งสินค้าน้ำมันหอมระเหยนำเข้าจากฝรั่งเศสกว่า3แสนชิ้น มูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งหมดตอนนี้กว่า 700ล้านบาท จากยอดความเสียหายประมาณ 900 ล้านบาท
จุดที่ 2 เป็นบ้านพักของนายสรวีย์ รวยฟูพันธ์ กรรมการบริษัทดีซีเอชแอล ในรัชดาภิเษก ซอย 3 แขวงและเขตดินแดง และจุดสุดท้ายคือห้องพักของนายวาเลอรี่ ริยนฮ์ หรือนายกิม ฮวง กรรมการบริษัทดีซีเอชแอล ซึ่งอยู่ที่อาคารชุด มิลเลนเนียม เรสซิเดนท์ ย่านคลองเตย พบรถเบนซ์ 6 ประตู 1 คัน แต่ไม่พบนายวาเลอรี่ ทราบว่าขณะนี้อยู่ต่างประเทศ
หลังจากนี้จะอายัดทรัพย์สินทั้งหมด และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ทั้งหมดต่อไป


