posttoday

หัวใจพระพุทธศาสนา (5) หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม

06 กันยายน 2558

หนึ่งชั่วโมงในสวรรค์ เป็น 1 นาทีในนรก สองชั่วโมงในสวรรค์ เป็น 2 นาทีในนรก นี้แหละ นักธรรมเจ้าทั้งหลาย

โดย...ภัทระ คำพิทักษ์

หนึ่งชั่วโมงในสวรรค์ เป็น 1 นาทีในนรก สองชั่วโมงในสวรรค์ เป็น 2 นาทีในนรก นี้แหละ นักธรรมเจ้าทั้งหลายพระศาสดาของเราว่าอย่างนี้ได้บัญญัติพระศาสนาไว้ 5,000 ปี แต่เทศนาสั่งสอนมนุษย์อยู่45 ปี รวมโลกียมนุษย์เมื่อเป็นพระเจ้าแผ่นดิน โลกุตรมนุษย์ได้เป็นพระอรหันต์เข้าพระนิพพานไปแล้ว พระนิพพานก็ยังมีอยู่ไม่เสื่อมสูญ

พระพุทธเจ้าเข้านิพพานก็มีอยู่ในพระนิพพานนั้นแลพระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตรและพระอนุรุทธ พระอานนท์เข้านิพพานก็มีอยู่ในพระนิพพานนั้นแล นางภิกษุณี ผู้หญิงทั้งหลายได้บวชกายวาจาใจ ใจก็เป็นพระนิพพาน แล้วก็เข้าพระนิพพานได้ด้วย

เหมือนกับพระจันทร์ พระจันทร์ไม่มีเกิด ไม่มีแก่ พระจันทร์ไม่มีเจ็บ พระจันทร์ไม่มีร้อน ไม่มีหนาว ดาวไม่มีเกิด ไม่มีตาย คนเรานี้เป็นบอเป็นบ้าคอยาว ตาขาว ลิ้นยาว ใช้ไม่ได้ (หมายถึงลุ่มหลงมัวเมาอยู่ในกองกิเลส ชอบสอดส่ายหาของถูกหู ถูกตา กลัวสารพัดที่จะต้องสูญเสีย ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่น มากกว่าจะหมั่นตรวจดูข้อบกพร่องของตนแล้วแก้ไข)

ส่วนพระธรรมคำสั่งสอนเกิดจากหัวใจของพระพุทธเจ้า เกิดจากหัวใจของพระอรหันต์เจ้าทั้งหลาย ทำไมพวกเราและท่านทั้งหลายจึงไม่รู้ (ที่ว่ารู้ๆ กันอยู่ทุกวันนี้) ก็สักแต่ว่ารู้ไปตามที่มีผู้อธิบายขยายความตามตำรา ท่านต้องการให้รู้ด้วย “วิญญาณ” หรือด้วย “ใจ” ซึ่งต้องอบรมและใช้ความเพียรให้มากๆ ทำไมเราทั้งหลายจึงไม่เห็น

ถ้าเราเป็นพระอรหันต์ เป็นพระโสดาบัน เป็นพระอนาคาเมื่อใด ก็เมื่อนั้นแหละ จึงจะเห็นจะรู้ที่อยู่ของพระพุทธเจ้าที่อยู่ของพระอรหันต์เจ้าทั้งหลาย

เมื่อเป็นมนุษย์ ตาก็เป็นมนุษย์ หูก็เป็นมนุษย์ รูจมูกก็เป็นมนุษย์ ปากก็เป็นมนุษย์ กายก็เป็นมนุษย์ ตาเป็นมนุษย์ เห็นเงินก็อยากได้เงิน เห็นคำ (ทองคำ) ก็อยากได้คำ เห็นแก้วก็อยากได้แก้ว เห็นแหวนก็อยากได้แหวน เห็นลูกสาวก็รักลูกสาว เห็นหลานก็รักหลาน ตลอดถึงเหลนไม่มีที่สิ้นสุด เป็นมนุษย์เสียงขับ เสียงลำ เสี่ยงปี่ เสียงแคน เสียงเทศนา เสียงพระธรรม เสียงยกเสียงยอ ถ้าขัดคอก็ผิดผีปู่ผีย่า หูขวาหูซ้ายของย่า ผียายโกรธง่ายหายเร็ว จมูกเป็นมนุษย์ ชอบดมน้ำอบ น้ำหอม น้ำมันจันทน์ที่หอม สิ่งที่หอมต่างๆ หอมยิ่งกว่าน้ำหอมนั้นก็คือหัวลูกสาวลูกชาย เมื่อได้ดมแล้วหิวข้าวก็หาย ร่างกายก็ยิ้มแย้มแจ่มใส สว่างไสวเกิดจากดวงใจ ปากเป็นมนุษย์ กินอะไรก็ไม่รู้จักพอ กินปลา ก็เห็นปลาค้าว ก็อยากปลาค้าว เห็นปลาดุกก็อยากปลาดุก ไม่รู้จักอิ่ม ไม่รู้จักพอสักที

ปากเป็นมนุษย์ เมื่อเห็นหน่อไม้ เห็นยอดหวายก็กินยอดหวาย เห็ดบด (จะออกเวลาครึ้มฟ้า ครึ้มฝน บด แปลว่า ครึ้ม ไม่ใช่บดเหมือนบดยา) เห็ดขาว เห็ดเผาะ ผักกาด ผักชี ผักหอม หมากแดง หมากโม (แตง แตงโมตามลำดับ) หมากพริก หมากเขือ หมากมี่ หมากม่วง กินได้ทั้งนั้นไม่เลือกเลย

กายเป็นมนุษย์ ผู้ชายมีเครื่องแต่งกายคือกางเกง หมวก สายรัดเอว (เข็มขัด) ทองคำ เกิบซุด (รองเท้าหนัง ยาง ฯลฯ) เป็นมนุษย์ผู้มีเกียรติ เป็นได้ถึงนายก นายพัน ในโรงในศาล เป็นข้าราชการ เป็นที่เคารพของราษฎร พ่อค้า ประชาชน พระศาสดาวางธรรมะไว้ให้ประพฤติปฏิบัติเป็นโยมค้ำชูพระศาสนา นายพันเอก พันโท นายพันตรี เป็นอุบาสก อุบาสิกาของพระพุทธเจ้า พวกนี้จะได้เป็นมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ พรหมโลกสมบัติ

เมื่อพระศาสนาของพระพุทธเจ้าโคตมะสูญไปแล้ว หมดไปแล้ว เมื่อพระศรีอริยเมตไตรยหน่อพุทธังกูรพระโพธิสัตว์ สร้างบารมีวิริยะสี่สิบอสงไขย แสนมหากัป เมื่อลงมาเกิดในเมืองเจตุตระนครได้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน สั่งสอนประชาราษฎรทั่วราชอาณาจักรสองหมื่นปีกึ่งอายุ 7 วัน ได้ออกบวชเป็นพระอรหันต์ สั่งสอนทายกทายิกา เจ้าพระคุณทั้งหลายได้ฟังธรรม จำศีล จิตเบิกบานเข้าพระนิพพานในศาสนาพระศรีอริยเมตไตรย อายุยืนนานถึงแปดหมื่นปี นี้แหละนักธรรม นักกัมมัฏฐานเจ้าทั้งหลาย

เมื่ออยากเห็นหน้าพระศรีอริยเมตไตรย จงพากันตั้งในทาน การถวายของ มีน้อยก็ทานน้อย มีเท่าใดก็ทำเท่านั้น ตามมีตามเกิด จงพากันรักษาศีลห้า ศีลแปด เข้าวัดฟังธรรม จำเริญเมตตาภาวนา บวชลูกบวชหลาน ถวายอัฐบริขาร กฐิน ผ้าป่าบังสุกุลตามมีตามเกิด พระสงฆ์ สาวกลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้า บิณฑิยะโลปะโภชะนัง แปลว่า บิณฑบาตรทานภายนอก คนทุกข์ยากอนาถา กำพร้าพ่อแม่ ผ้านุ่ง ผ้าห่ม
ข้าวของเงินทอง หนึ่งสตางค์ สองสตางค์ก็ดี เราจะพากันทำทานไปได้ผลปัจจุบัน ชาตินี้ชาติหน้า

คนที่จะไม่ได้เห็นหน้าพระศรีอริยเมตไตรยนั้น เป็นคนฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ปู่ย่า ตา ยาย นี้แหละเป็นภาษาบาลี มาตาปิตุฆาตไปตกนรกมหาอเวจี

ทำลายพระพุทธรูปของพระโคตมะ รูปเงินก็ดี พระเจ้าแก้วก็ดี พระเจ้าทองก็ดี ตายไปแล้วไปอยู่อเวจีมหานรก

รื้อพระธาตุที่บรรจุพระธาตุของพระอรหันต์หรือทำลายรอยพระบาท เมื่อตายไปแล้วไปตกนรกมหาอเวจี

ฆ่าพระอรหันต์ตายแล้วไปตกอเวจี สังฆเภทยุแหย่ให้พระภิกษุสงฆ์แตกร้าวจากกัน ยุแหย่ให้หมู่บ้านแตกความสามัคคี ตายแล้วไปตกอเวจี ฆ่าสัตว์ไม่หยุดไม่หย่อน ไม่ผ่อน ไม่ผัน เห็นคนฆ่าคน เห็นควายฆ่าควาย ตายแล้วไปอยู่อเวจี อทินนาทาน ลักทรัพย์ เห็นเงินลักเงิน เห็นคำลักคำ เห็นไก่ลักไก่ ตลอดถึงหมากพริก หมากเขือ เมื่อตายแล้วก็ไปอยู่อเวจี

หมายเหตุ : บันทึกพระธรรมเทศนาชุดนี้ พระสงัด อุทโย เจ้าอาวาสวัดป่าอรัญญวิเวก บ้านข่า ต.ท่าบ่อ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม เป็นผู้จดบันทึกแล้วส่งต้นฉบับให้นาย ทองเติม วงศาโรจน์ ปลัดอำเภอโท อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ แก้ไขเรียบเรียง เฉพาะบางตอน จัดวรรคตอน และอธิบายความบางส่วน แต่ใจความไม่แปรเปลี่ยนไปจากเจตนาของพระอาจารย์ที่มีเจตนาอบรมสั่งสอนท่านพุทธศาสนิกให้มีความมั่นคงต่อ ทาน ศีล ภาวนา ขอประโยชน์ที่เกิดจากการอ่านบันทึกพระธรรมนี้จงเป็นผลานิสงส์ให้ทุกท่านทุกคน จงดำรงให้อยู่ด้วยความมีสุขไม่เบียดเบียนซึ่งกันและ กันสืบไป แล

ข่าวล่าสุด

พลังงานคุมเข้มแท่นขุดเจาะอ่าวไทย สกัดโดรนป่วน ไม่กระทบการผลิต