ร้องถูกอุทยานฯเรียกเก็บเงินค่าเข้าไปหาเห็ดป่า
แกนนำชาวบ้านร้องสื่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯข่มขู่หากไม่จ่ายเงินเข้าไปหาเห็ดป่าจะไม่รับรองความปลอดภัย
แกนนำชาวบ้านร้องสื่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯข่มขู่หากไม่จ่ายเงินเข้าไปหาเห็ดป่าจะไม่รับรองความปลอดภัย
นายโสภัณ วราฤทธิ์พัชรกุล ชาวบ้านทุ่งมะส้าน ต.ห้วยผา อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ร้องเรียนว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนและราษฎร จาก 7 หมู่บ้าน ในต.ห้วยผา จำนวนกว่า 100 คน ได้พากันไปเก็บหาเห็ดเผาะ และ เห็ดไข่ห่าน บริเวณป่าใกล้กับน้ำตกซู่ซ่า ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว พื้นที่หมู่บ้านรุ่งอรุณ หมู่ 6 ต.ห้วยผา อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ทำการหน่วยพิทักษ์ป่าน้ำตกซู่ซ่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย ทำการเรียกเก็บเงินค่าเข้าไปหาเห็ด คนละ 20 บาท
นอกจากนี้ สำหรับผู้นำยานพาหนะเข้าในอุทยานฯจะเสียเงินอีก 20 บาท ซึ่งในวันหนึ่ง ๆ จะสามารถเก็บเงิน จากราษฎรที่เข้าไปหาของป่าได้ถึง 4-5 พันบาท อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ หน่วยงานดังกล่าว ไม่ได้มีการเรียกเก็บเงินจากชาวบ้านแต่อย่าง เพียงแต่เรียกเก็บจากนักท่องเที่ยวที่เข้าไปล่องแก่งในแม่น้ำของบริเวณน้ำตกซู่ซ่าเท่านั้น
นายโสภัณ กล่าวอีกว่า การเรียกเก็บเงินดังกล่าว น่าจะไม่ถูกต้องตามกฎระเบียบของกรมอุทยาน เนื่องจากพวกตนไม่ใช่นักท่องเที่ยว อีกทั้งยังถูกข่มขู่จากเจ้าหน้าที่บางคนว่า หากไม่ยอมจ่ายเงิน ก็จะไม่รับรองความปลอดภัย ซึ่งตนคิดว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่เหล่านั้นน่าจะหาทางกลั่นแกล้งทำลายรถจักรยานยนต์ของพวกตนอย่างแน่นอน ซึ่งตนเห็นว่าไม่ถูกต้อง จึงเข้าร้องเรียนต่อสื่อ หลังจากนั้นจะทำหนังสือร้องเรียนไปยังผวจ.แม่ฮ่องสอน และ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป
สำหรับพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ปัจจุบันอยู่ในห้วงฤดูฝน ซึ่งปีนี้พบว่า มีเห็ดป่านานาชนิดออกตามธรรมชาติมากมายผิดปกติกว่าทุก ๆ ปี ที่ผ่านมาส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากพากันเข้าไปหาของป่าเพื่อนำมาจำหน่ายให้กับโรงงานผลิตเห็ดเผาะกระป๋อง และ ผู้บริโภคเห็ดทั่ว ๆ ไป ส่งผลให้ประชาชนมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ และทำให้เศรษฐกิจ ในตัวจังหวัดดีขึ้นมาก ทั้งนี้เห็ดเผาะเมื่อออกใหม่ ๆ ราคาจะอยู่ที่ลิตรละ 200 บาท แต่ ปัจจุบันอยู่ที่ลิตรละ 15 บาท ส่วนเห็ดใบ ลักษณะคล้ายเห็ดโคน แต่ทางเหนือเรียกเห็ดไข่ห่าน ขณะนี้จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 70 บาท
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ระบุ หากมีการเข้าไปเก็บหาของป่าเพื่อการค้า ถือว่ามีความผิดตามพรบ.สัตว์ป่าและพันธุ์พืช แต่เรื่องการเรียกเก็บเงินจากชาวบ้านที่เข้าไปหาของป่า เพื่อการดำรงชีพถือว่าเจ้าหน้าที่หน่วยงานนั้น ๆ ดำเนินการไม่ถูกต้อง และ เจ้าหน้าที่ต้องสามารถชี้แจงได้ว่า เงินที่เก็บไปนั้นเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกรมหรือไม่ เพราะการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติต่าง ๆ จะมีการเรียกเก็บเงินค่าบำรุงสำหรับนักท่องเที่ยว ที่เข้าไปใช้บริการเท่านั้น ไม่ได้มีการสั่งให้เก็บเงิน จากประชาชนในท้องถิ่นที่เข้าไปหาของป่าเพื่อยังชีพแต่อย่างใด


