posttoday

เก่งแต่ไม่เหลิง ทำอย่างไร...?

27 กรกฎาคม 2558

โดย...กุลเวช เจนวัฒนวิทย์

โดย...กุลเวช เจนวัฒนวิทย์

เคยสงสัยไหมครับว่าทำไมผู้นำระดับโลก หรือผู้นำองค์กรหลายคนที่สังคมยกย่องว่ามีความสามารถ กอบกู้องค์กรในยามคับขันได้สำเร็จ หรือไม่ก็นำองค์กรไปสู่ความเป็นหนึ่งได้ ถึงปรากฏเป็นข่าวอื้อฉาวตามหน้าหนังสือพิมพ์ บ้างก็ถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจในการทุจริต หรือใช้อำนาจในทางที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ถ้าเก่งอยู่แล้ว ทำไมถึงมาพลาดท่าเสียทีจนชื่อเสียงที่สั่งสมมาต้องด่างพร้อยไปจนถึงวงศ์ตระกูล ถ้ารวยอยู่แล้วทำไมจึงยังคิดโกงอีก อะไรคือสิ่งที่ทำให้คนที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยกย่องจากสังคมยอมเสี่ยงทำอะไรทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่ควรทำ อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้นำที่ดีทำตัวเหลิง?

ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นทั่วโลกซ้ำแล้วซ้ำเล่า กลายเป็นประเด็นที่สถาบันการศึกษาระดับโลกไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดและเอ็มไอที ต่างก็ให้ความสำคัญและพยายามศึกษาหาคำตอบจนเกิดเป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยการศึกษาพฤติกรรมมนุษย์ที่เปลี่ยนไปเพราะถูกอำนาจครอบงำ

มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่า อำนาจมักชักจูงให้ผู้นำที่ขาดจิตสำนึกเห็นผิดเป็นชอบ

จากบทความ Why Power Corrupts ของ Smithsonian.com ได้สรุปไว้ว่า การมีอำนาจไม่ได้ทำให้คนคดโกงเสมอไป อำนาจไม่สามารถครอบงำจิตใจที่มีจิตสำนึกแห่งมโนธรรมได้ เพราะมโนธรรมนั้นจะช่วยเตือนให้ผู้มีอำนาจต้องสำรวมใจ ข้อสำคัญก็คืออำนาจนี่แหละเป็นตัวสร้างจุดบอดให้ผู้ที่ไม่มีมโนธรรมในจิตใจ ทำให้ผู้มีอำนาจสำคัญตนสูงกว่าคนอื่น สามารถปฏิเสธความจริง มุมมองต่อโลกจึงบิดเบี้ยว เป็นบ่อเกิดของความเหลิง เห็นว่าตนมีเอกสิทธิ์สามารถครอบครองของที่เป็นสมบัติส่วนรวมได้

แล้วสามัญชนเราที่ยังมีกิเลสอยู่ป้องกันไม่ให้อำนาจมาครอบงำจิตใจเราได้อย่างไร

พวกเราส่วนใหญ่ที่เป็นมนุษย์ปุถุชนก็ยังคงข้องเกี่ยวกับเรื่องความรัก โลภ โกรธ หลง อยู่เป็นธรรมดา ถ้ามโนธรรมประจำใจเรายังไม่แข็งแรงพอ จะมีอะไรมาคอยช่วยกำกับไม่ให้เราเผลอทำตัวเหลิงไปกับอำนาจที่มี…? บทความ Why Talented Leaders Are Driven to Bad Behavior จากนิตยสาร Business Insider ได้เขียนบทสรุปข้อคิดของ Professsor Billl George จาก Harvard Business School ที่เคยเขียนลง Harvard Business Review ถึงวิธีสำรวจจิตใจของผู้นำ เพื่อจะได้ไม่ถูกกิเลสครอบงำไว้อย่างน่าสนใจดังนี้

1) ถามลึกๆ เข้าไปในใจเราว่าเป็นผู้นำเพื่ออะไร เพื่อใคร (Self-reflection : a path to leadership development) ก่อนจะขึ้นมาเป็นผู้นำหรือรับตำแหน่งสูง ให้ลองทบทวนดูว่าเรามารับตำแหน่งเป็นผู้นำเพราะอะไร ถ้าคำตอบคืออำนาจ ลาภยศและเงินทอง เรากำลังตกอยู่ในความเสี่ยงของการยึดมั่นถือมั่นในของนอกกายผู้นำที่ลุ่มหลงกับลาภยศดังกล่าวมักมองตนเองเป็นที่ตั้ง มีความทะนงตนว่าเป็นผู้ที่มีความสำคัญและลามไปถึงการสร้างมายาคติขึ้นมาว่าองค์กรจะอยู่ไม่ได้ถ้าขาดตน และทำตัวเหลิงในที่สุด

2) เข้าใจว่ารางวัลของผู้นำคืออะไร (The leadership trap) อำนาจและลาภยศ เมื่อยิ่งเสพก็ยิ่งอยาก ความอยาก ความติดในอำนาจและลาภยศนี่แหละ เป็นสาเหตุทำให้ผู้นำมองข้ามศีลธรรม จรรยาบรรณบริษัท และอาจจะเลยไปถึงการกระทำที่ผิดกฎหมาย อนึ่ง ความสำเร็จก็เป็นสิ่งเสพติดประการหนึ่ง อันที่จริงแล้วรางวัลที่แท้จริงของผู้นำก็คือความสุขที่ได้นำความสามารถของตนมารับใช้สังคม เพื่อนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น

3) สูงได้หนาวได้ แต่อย่าทำจิตใจให้มืดมน(The dark side of leadership) ผู้นำที่ไม่ได้นำจากจิตสำนึกจะรู้สึกว่าต้องพิสูจน์ตัวเองตลอดเวลา รู้สึกว่าสังคมพร้อมจะเยาะเย้ยตนหากตนไม่สามารถพิสูจน์ความสามารถได้ นี่แหละคือกับดักของความสำเร็จ เมื่อเจอเรื่องล้มเหลวก็พร้อมที่จะปัดความผิดไปให้คนอื่นเพื่อปกป้องตนเองสิ่งที่ผู้นำในหัวข้อนี้กลัวที่สุดคือความล้มเหลวในหน้าที่การงาน จนบางครั้งก็นำพาองค์กรไปในทางที่ผิด

4) ต้องนำจากจิตสำนึก (Values-centeredleadership) การเป็นผู้นำเป็นงานที่มีความกดดันสูง ต้องตกเป็นเป้านิ่งให้สังคมโจมตี ซึ่งสามารถสร้างความวุ่นวายในจิตใจของผู้นำจนเสียศูนย์ได้ จึงจำเป็นมากที่ผู้นำต้องหมั่นมองเข้ามาสำรวจจิตสำนึกภายในของตน สะท้อนความหมายของชีวิต ละทิ้งรูปแบบผู้นำแบบวีรบุรุษ มาเป็นผู้นำที่รับใช้ผู้อื่น เพื่อลดละอัตตา

5) สร้างระบบการนำด้วยจิตสำนึกให้เกิดความยั่งยืน (A system to support values-centeredleadership) แม้แต่ผู้นำเก่งๆ ก็ต้องการความช่วยเหลือ ผู้นำที่ดีมักจะมีเพื่อนคู่คิดที่รู้จักตนดี และที่สำคัญคือไม่สนใจลาภยศ ตำแหน่ง เงินทอง ผู้นำที่ดีจะต้องไม่เอาคนประจบสอพลอที่อยากได้ประโยชน์จากผู้นำมาห้อมล้อมตนเอง แต่จะต้องเอาคนที่ซื่อตรงต่อความดีของผู้นำมาห้อมล้อมตนเองแทน

อยากจะจบบทความชิ้นนี้ด้วยการให้กำลังใจกับผู้นำองค์กรทั้งหลาย ภาระหน้าที่อันใหญ่หลวงของท่านอาจทำให้ท่านเหนื่อยล้า บางครั้งอาจรู้สึกท้อถอย อยากให้ท่านหาคนดีที่ไว้วางใจได้มาเป็นเพื่อนคิด ให้กำลังใจกัน เตือนกัน แล้วความเก่งและดีของพวกท่านก็จะสามารถนำพาองค์กรไปบนวิถีแห่งความยั่งยืน

ข่าวล่าสุด

สูตรไลฟ์ขายของจาก “จูน-กษมา–เชน ธนา”ทำยังไงให้ขายได้ ไม่ใช่แค่มีคนดู