posttoday

14นศ.ประกาศร่วมมือทุกกลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย

09 กรกฎาคม 2558

"14 นศ." ร่วมอ่านแถลงการณ์ พร้อมร่วมมือกับทุกองค์กรที่มีแนวทางเดียวกัน ยัน เคลื่อนไหวต่อ ยืนยัน "ยิ่งลักษณ์" ไม่เกี่ยวข้อง

"14 นศ." ร่วมอ่านแถลงการณ์ พร้อมร่วมมือกับทุกองค์กรที่มีแนวทางเดียวกัน ยัน เคลื่อนไหวต่อ ยืนยัน "ยิ่งลักษณ์" ไม่เกี่ยวข้อง

เมื่อวันที่ 9 ก.ค. เวลา 15.15 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(ศูนย์รังสิต) กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ นำโดย นายรังสิมันต์ โรม  นายจตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ทรงธรรม แก้วพันพฤกษ์ หรือ เดฟ ดาวดิน พร้อมพวกรวมทั้งหมด 13 คน โดยในวันนี้ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ เกด ไม่ได้มาร่วมอ่านแถลงการณ์เนื่องจากมีอาการป่วย โดยนายรังสิมันต์ ได้อ่านแถลงการณ์ เนื้อหาระบุว่า

ภายหลังจากการที่ศาลทหารยกคำร้องฝากขังผลัดที่ 2 ของพนักงานสอบสวนฯ และนำไปสู่การปลดปล่อยอิสรภาพของ 14 นักศึกษา/นักกิจกรรม ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ เมื่อเช้าตรู่ของวันพุธที่ 8 กรกฎาคม 2558 ได้ทำให้เกิดการถกเถียงในสังคมถึงความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น ในแวดวงนักศึกษา นักวิชาการ ศิลปิน นักเขียน ตลอดจนประชาชนโดยทั่วไป แต่ในอีกด้านหนึ่ง กลับมีเสียงชื่นชมต่อคสช. ที่ใช้ไม้นวม ลดท่าทีที่แข็งกร้าวต่อนักศึกษา รวมไปถึงการที่ศาลทหารมีความเมตตาต่อ 14 นักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ในกรณีการยกคำร้องขอฝากขังในผลัดที่ 2 ทั้งๆที่ยังคงมีเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของรัฐ ลงไปเยี่ยมเยียนสอบถาม ในเชิงกดดันต่อผู้ปกครองของเรา แม้ว่าจะมีการปล่อยตัวพวกเราแล้วก็ตาม เพื่อเป็นการทำความเข้าใจต่อสาธารณชน และยืนยันในแนวทางการต่อสู้ของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ เราจึงขอแถลงจุดยืนดังนี้

1. ในกรณีการคุมขัง 14 นักศึกษา/นักกิจกรรม ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ จำนวน 12 วัน ตั้งแต่กลางดึกของวันที่ 26มิถุนายน จนถึง เช้าตรู่ของวันที่ 8 กรกฎาคม 2558 เป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน สิทธิพลเมืองที่ประชาชนพึงมี เนื่องจากเป็นการฝากขังโดยไม่มีการสอบสวนแต่อย่างใด

ดังนั้นถึงแม้ว่าจะมีการยกคำร้องของศาลทหารในผลัดที่ 2 ก็มิได้เป็นเรื่องที่ทำให้เรารู้สึกว่าได้มีความเป็นธรรมเกิดขึ้นแต่อย่างใด เพราะความอยุติธรรมได้เกิดขึ้นตั้งการแจ้งข้อกล่าวหาด้วยมาตรา 44 การออกหมายจับด้วยศาลทหาร การเข้าจับกุมโดยไม่แสดงตัวและหมายจับ และการฝากขังโดยไม่มีการสอบสวน จนทำให้ 14 นักศึกษา/นักกิจกรรม ต้องสูญเสียอิสรภาพถึง 12 วัน ทั้งนี้ยังคมมีเพื่อนของเราที่ยังมีอากาศบาดเจ็บจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ

2. เราขอเรียกร้องและตอกย้ำให้สาธารณชนได้ตระหนักว่า มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ.2557 เป็นสิ่งที่ไม่อาจเรียกว่ากฎหมายได้ ตรงกันข้ามกลับเป็นสิ่งที่ควบคุมและขัดขวางเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนที่ต้องการออกมาบอกกล่าวปัญหาต่างๆที่ตนเองได้รับ ดังเช่นเคยเกิดขึ้นในทุกๆรัฐบาลก่อนหน้านี้ เราจึงขอเชิญชวนให้สาธารณชนร่วมส่งเสียงประกาศก้องให้รัฐบาล คสช. ยกเลิกการใช้มาตรา 44 โดยเร็ว

3. การขับเคลื่อนกิจกรรมของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ต่อจากนี้ เรายืนยันที่จะเคลื่อนไหวต่อไปในฐานะนักศึกษา นักกิจกรรม นักประชาธิปไตย ในการลงพื้นที่ศึกษาเรียนรู้ตลอดจนร่วมต่อสู้กับขบวนการชาวบ้าน ขบวนการประชาชนอื่นๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและในภูมิภาคต่างๆ และเราขอประกาศว่าเราพร้อมที่จะร่วมมือกับทุกองค์ที่มีจุดยืนในการเรียกร้องประชาธิปไตย ตามหลักการ 5 ประการ คือ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ความยุติธรรม การมีส่วนร่วม และสันติวิธีต่อไป

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวถามว่า เจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยกับสมาชิกในครอบครัวลักษณะใด นายรังสิมันต์ กล่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ทหารนอกเครื่องแบบจำนวน 5 นายและไม่มีหมาย เดินทางไปที่บ้านของตนในช่วงดึก ซึ่งมีญาติของตนที่เป็นผู้หญิงอาศัยอยู่คนเดียว ซึ่งสถานการณ์ที่เจออยู่ตอนนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหว แต่ส่งผลกระทบกับผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรนานาชาติด้วย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เคยมีคนที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลออกมาพูดไปหลายครั้ง ซึ่งไม่ซ้ำกันเลย บ้างก็ว่า มีนักการเมืองหนุนหลัง หรือเชื่อมโยงกับต่างประเทศ หากมีการจ้างมาจริงจะคุ้มค่ากับการเสี่ยงชีวิตหรือ หากมีเงินทุนมากมายจริงก็คงจะออกมามากกว่านี้ ซึ่งการจ้างนั้นเป็นการใส่ร้ายที่สามารถพูดกันได้โดยไม่จำเป็นต้องมีหลักฐาน เช่นเดียวกับเรื่ององค์กรต่างประเทศที่ไม่มีหลักฐานเช่นเดียวกัน ตนขอถามกลับไปว่า เป็นใคร องค์กรใด ระบุให้ชัดเจน

“คณะรัฐประหารมีความพยายามที่จะใส่ร้าย เพื่อสร้างความชอบธรรมแบบเดียวกับ เหตุการณ์ 6 ต.ค. 2519 และเขากำลังพยายามทำให้ไปสู่จุดนั้น หากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นอีกในอนาคตอันใกล้ คนไทยเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดกับเหตุการณ์ความรุนแรง การที่พูดแบบนี้ทำเกิดความเสื่อมเสียและเป็นการพูดเพื่อความชอบธรรมในการใช้ความรุนแรง”

ถามว่า หากคสช.เชิญไปพุดคุยจะตอบรับหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การพูดคุยต้องอยู่บนหลักการที่ถูกต้อง สิ่งที่คสช.เรียกร้องมาตลอดคือ ให้พวกเราอยู่เฉยๆแล้วให้พวกเขาย่ำยีประเทศต่อไป การที่คสช.ฉีกรัฐธรรมนูญ อันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ แล้วขอให้พวกเราอยู่นิ่งเฉย ซึ่งเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ ที่เราออกมาเพื่อต้องการให้สังคมกลับมาสู่ครรลองที่ถูกต้อง หลักการที่ถูกต้องคือรัฐบาลต้องยอมรับว่า รัฐบาลเองอยู่ในสถานะที่ผิดกฎหมาย และคสช.ยอมยกเลิกม.44 ก็จะทำให้การพูดคุยง่าย ส่วนแนวทางการเคลื่อนไหวต่อไป มีแน่ แต่ขอเก็บไว้ก่อน

ขณะที่นายจตุภัทร กล่าวถึงกรณี กลุ่มนักศึกษาเคลื่อนไหวแล้วมีการอ้างถึงความขัดแย้งระหว่างกลุ่มดาวดินและชาวบ้าน ว่า ทางผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ก็ได้เรียกทางชาวบ้านไปพูดคุย ซึ่งความขัดแย้งมีมาก่อนหน้านี้แล้ว สิ่งที่เราทำคือการค้านรัฐประหารและการค้านเหมืองมันเป็นเรื่องเดียวกัน

นายจตุภัทร กล่าวว่า ที่เราตั้งชื่อว่าขบวนการประชาธิปไตยใหม่เพราะเราอยากจะก้าวข้ามความขัดแย้งทางการเมืองแบบเดิม การต่อต้านการคอร์รัปชั่น การรัฐประหารคือการคอร์รัปชั่นเหมือนกัน เพราะมีการใช้ระบบอุปถัมภ์ มีการเจรจาต่อรองผลประโยชน์กัน ทางคสช.ก็คอร์รัปชั่น อำนาจ ผลประโยชน์ต่างๆ

เนื่องจากเป็นรัฐบาลที่ใช้ปืนจ่อหัวไว้ ก็ไม่มีใครทีจะพูดได้ ทุกคนต้องสลัดความกลัวออกไป ไม่อย่างนั้นก็ไม่สามารถสื่อสารกับสังคมได้ ดีไม่ดีอย่างไรก็ต้องใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา และตนขอยืนยันว่าการรัฐประหารครั้งนี้ทำเพื่อผลประโยชน์ทั้งนั้น หากคุณอ้างว่าใครอยู่เบื้องหลังก็ขอให้เอาข้อมูลออกมา

“ผมขอถามกลับไปว่า ใครอยู่เบื้องหลังคุณในการทำรัฐประหาร หากเป็นประชาชนก็ขอให้บอกมาเลยว่ากลุ่มไหน ใคร เช่นเดียวกันกับที่ทางคสช.ถามกลุ่มตนเอง”

นายจตุภัทรกล่าวว่า การเจรจาต่อรองไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ เราเคยบอกแล้วว่าไม่สนับสนุนการรัฐประหาร คุณก็ไม่ฟัง พอพวกเราออกมาเคลื่อนไหวคุณก็บอกให้เราหยุด ทั้งที่ทางคสช.เองไม่เคยหยุดทำให้ประชาชนเดือดร้อนเลย เราจะไม่หยุดเคลื่อนไหว ตนอยากให้รัฐบาลรอพวกตนบ้างเหมือนกัน เราจะสร้างความสุขของตัวเอง จากความขัดแย้งที่ผ่านมาสังคมไทยมีบทเรียนแล้วว่าไปไม่ถึงไหน เราต้องก้าวข้ามการแบ่งพรรคแบ่งพวกและให้ประชาชนสามารถกำหนดอนาคตเอง ถึงเวลาที่จะต้องสู้บนหลักความเป็นจริง รัฐบาลทหารทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้วัฒนธรรมการเมืองตกต่ำไปเรื่อยๆ จากอดีตที่ผ่านมา ชนชั้นใดออกกฎหมายก็เพื่อชนชั้นนั้น สิ่งที่ทหารออกกฎมาก็เพื่อตนเอง แล้วเมื่อไหร่ประชาชนจะได้ออกกฎหมายเพื่อตนเอง ในตอนนี้สิทธิเสรีภาพไม่สามารถร้องขอได้ แต่ต้องต่อสู้ให้ได้มา

“พวกเราไม่ใช่เสียงของประชาชนทั้งหมด สิ่งที่อยากจะบอกคือ ให้ คสช.ออกไป ไม่ว่าจะเชิญอย่างไร สิ่งที่เราจะพูดมีแค่เรื่องเดียวคือคุณลาออกไปซะแล้วให้ประชาชนได้เลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้งเป็นขั้นตอนแรกการรับฟังความเห็นของประชาชน”

ด้านนายทรงธรรม กล่าวว่า รัฐต้องแสดงความจริงใจต่อประชาชนทุกคน เราต้องมีสิทธิพูด ปัญหาคือเราไม่มีสิทธิพูด ไม่ว่าจะทำอย่างไร ขอให้รัฐแสดงความจริงใจโดยการเปิดพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิก ม.44 หรือด้วยวิธีการใดก็แล้วแต่ที่พอทำได้ ซึ่งอาจเป็นทางออกให้แก่คสช.เอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จาก สภ.คลองหลวงกว่า 10 นาย เข้ามาติดตามการอ่านแถลงการณ์ในพื้นที่ โดยให้เหตุผลว่า เพื่อรักษาความปลอดภัย

ทั้งนี้ นายพรชัย ยวนยี หนึ่งในผู้เคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ กล่าวถึงกรณี ที่น.ส.ยิงลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สวมเสื้อที่มีข้อความว่า “ชีวิตธรรมดา“ ถูกโยงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวขณะนี้นั้น นายพรชัย ยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่แต่อย่างใด

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ คริสตัล พาเลซ คาราบาวคัพ วันนี้