posttoday

ไม่แก้พรบ.ท่องเที่ยวฯ-ไม่แก้คนททท. ไม่มีทางพ้นเงื้อมือการเมือง

24 กันยายน 2552

โดย...นิธิ ท้วมประถม

โดย...นิธิ ท้วมประถม

แม้ว่า วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานคณะกรรมการบริหารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (บอร์ดททท.) จะยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งประธานบอร์ดตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยคาดกันว่าสาเหตุการลาออกในครั้งนี้ เพราะวีระศักดิ์ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของฝ่ายการเมืองในหลายต่อหลายเรื่อง

แม้ว่าวีระศักดิ์จะเป็นคนที่พรรคการเมืองส่งมาก็ตาม

ที่สำคัญปัญหาเรื่องการโยกย้ายฝ่ายบริหารระดับรองผู้ว่าการ ซึ่งบอร์ดมีมติไปเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา กลายเป็นประเด็นร้อนในททท. ทันที

ทั้งนี้ เนื่องจากการโยกย้ายครั้งนี้เป็นการล้วงลูกจากฝ่ายการเมืองอย่างชัดเจน แม้ว่าอำนาจบอร์ดตามตัวบทกฎหมาย จะมีอำนาจในการโยกย้ายฝ่ายบริหารเพื่อความเหมาะสมได้ก็ตาม แต่ในทางปฏิบัติ การโยกย้ายรองผู้ว่าการนั้นต้องเป็นหน้าที่ของคนในททท. ที่จะต้องจัดทัพกันเอง

การล้วงลูกครั้งนี้ก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมภายในททท. ไม่น้อย เพราะถือว่าฝ่ายการเมืองเข้ามา “ก้าวก่าย” กิจการภายในของททท. จนเกินงาม

แต่เรื่องการล้วงลูกของฝ่ายการเมืองนั้นเป็นเรื่องที่ททท. ไม่สามารถ “ต่อต้าน” ได้มากนัก เนื่องจากตัวกฎหมายที่กำกับดูแลททท. ภายใต้พระราชบัญญัติการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ฉบับพ.ศ. 2550 ที่กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นผู้เสนอชื่อประธานบอร์ดททท. นั่นหมายความว่า บุคคลที่จะมานั่งกำกับดูแลนโยบายของททท. จะต้องผ่านการเห็นชอบของฝ่ายการเมืองที่กำกับดูแล

เป็นเรื่องที่ททท. ไม่สามารถ “ดิ้นหลุด” เงื้อมมือของฝ่ายการเมืองได้อย่างแน่นอน หากไม่มีการแก้ไขพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว

ล่าสุด ปรากฏชื่อ พรศิริ มโนหาญ อดีตผู้ว่าการททท. และที่ปรึกษาบอร์ดททท. ว่าจะเข้ามานั่งในตำแหน่งประธานบอร์ดททท. ซึ่งผ่านการเห็นชอบจากคนเมืองสุพรรณบุรีแล้ว
แต่ชื่อพรศิริ ที่แม้ว่าจะเป็นอดีตผู้ว่าการททท. แต่คนททท. กลับไม่ได้มองว่าพรศิริเป็นคนททท. แต่มองว่าเป็นคนของฝ่ายการเมืองอย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากบทบาทที่นั่งในตำแหน่งที่ปรึกษาบอร์ดนั้น ส่วนใหญ่จะเอื้อกับฝ่ายการเมือง มากกว่ารักษาผลประโยชน์ของททท.

และชื่อของ นิกร จำนง อดีตรมช.คมนาคม และอดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย ซึ่งถือเป็นเด็กในคาถา “บิ๊กสุพรรณฯ” อย่างเต็มรูปแบบ

อย่างไรก็ตาม มติบอร์ดเรื่องการโยกย้ายรองผู้ว่าการครั้งนี้ ได้กระตุ้นให้ฝ่ายบริหารททท. เริ่มขยับตัวออกมาแสดงจุดยืนของคนททท. เพื่อไม่ให้การเมืองเข้ามาแทรกแซงได้ง่ายๆ เหมือนที่ผ่านมา

โดยการประชุมฝ่ายบริหารระดับ 9 ขึ้นไปเมื่อช่วงเช้าวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่เนื้อหาในการประชุมส่วนใหญ่เป็นการถกถึงเรื่องของการโยกย้ายครั้งนี้ โดยผู้บริหารทั้งหมดต่างมีแนวคิดในทิศทางเดียวกันว่า ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว แต่ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ เพราะทุกอย่างเป็นไปตามตัวบทกฎหมาย

และจะทำหนังสือถึง ชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อสอบถามถึงความจำเป็นในการแต่งตั้งที่ปรึกษาระดับ 11 ขึ้นมาเพิ่มเติม และสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เพราะการขอตำแหน่งดังกล่าวไปที่กระทรวงการคลัง ไม่ได้มีการระบุชื่อผู้ที่จะมานั่งในตำแหน่งดังกล่าว นั่นหมายความว่า ตำแหน่งที่ปรึกษา 11 ไม่ได้เป็นตามบุคคล แต่เป็นการเพิ่มโครงสร้างใหม่ของททท.

แต่การเคลื่อนไหวครั้งนี้ แน่นอนว่า “ฝ่ายการเมือง” ย่อมทราบดีว่าคนททท. เริ่มขยับรวมตัวกันเพื่อต่อต้านอำนาจทางการเมืองอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

ซึ่งหากฝ่ายบริหารททท. รวมตัวกันอย่างชัดเจน แสดงความเป็นหนึ่งเดียวในการต้านอำนาจการเมืองอย่างเป็นปึกแผ่น อำนาจการเมืองที่จะเข้ามาล้วงลูกการบริหารงาน หรือล้วงงบประมาณต่างๆ ของททท. คงเป็นไปไม่ได้ง่ายนัก

การรวมตัวกันของฝ่ายบริหารระดับ 9 ขึ้นไปครั้งนี้ แม้ว่าจะ “ช้าเกินไป” เพราะฝ่ายการเมืองเข้ามา “ล้วง” กิจการต่างๆ ของททท. ไปแล้วไม่น้อย แต่ก็ไม่ถือว่า “สายเกินไป” ที่จะแก้ไข เพื่อไม่ให้ฝ่ายการเมืองย่ามใจมากนัก กับหน่วยงานของรัฐ อย่างททท. 

ทั้งนี้ หากคนในททท. ไม่เข้มแข็ง เห็นแต่ผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าผลประโยชน์ขององค์กร ไม่รวมพลังกันแสดงออกเพื่อต่อต้านอำนาจทางการเมือง อย่าหวังว่าททท. จะพ้นจากการล้วงลูกของฝ่ายการเมือง

หากคนททท. ไม่ร่วมกันรักษาททท. ก็ต้องปล่อยให้การเมืองครองททท.ไป

ข่าวล่าสุด

SME D Bank จัด 'Culture Day' ขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กร "ประสานพลัง-พัฒนาเรียนรู้" สู่การเติบโต