posttoday

หมายจับ‘พล.ท.มนัส’ค้ามนุษย์

02 มิถุนายน 2558

“อุดมเดช” สั่งพักราชการ “บิ๊กทหาร” ให้ออกนอกพื้นที่เปิดทางตำรวจทำคดี

“อุดมเดช” สั่งพักราชการ “บิ๊กทหาร” ให้ออกนอกพื้นที่เปิดทางตำรวจทำคดี

ศาลจังหวัดนาทวี ออกหมายจับ พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก อดีตผู้บังคับการจังหวัดทหารบกชุมพร และอดีตผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ฐานความผิดค้ามนุษย์

ทั้งนี้ หมายจับ ระบุว่า พล.ท.มนัส สมคบและร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปกระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์ ต่อบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี ร่วมกันช่วยเหลือประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น โดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกายและร่วมกันเรียกค่าไถ่

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวว่า ขณะนี้ พล.ท.มนัส ได้ประสานติดต่อเพื่อขอมอบตัวแล้วและตั้งแต่มีการออกหมายจับ พล.ท.มนัส ก็ยังอยู่ในประเทศไทยไม่ได้หลบหนีไปไหน

อย่างไรก็ตาม เมื่อ พล.ท.มนัส เป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ก็ต้องให้เกียรติและดำเนินการตามขั้นตอนระหว่างหน่วยงาน

“ที่ออกหมายจับเพราะมีพยานหลักฐานครบ ยืนยันว่าตำรวจทำตามหน้าที่และไม่มีใครมากดดันว่าต้องจับกุมทหารให้ได้” พล.ต.อ.เอก กล่าว

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า ภายหลังมีการออกหมายจับแล้วก็คงต้องดำเนินการตามระเบียบของกระทรวงกลาโหมคือการพักราชการ และจะสั่งการไม่ให้ พล.ท.มนัส เข้าไปในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการทำคดีความ

พล.อ.อุดมเดช กล่าวอีกว่า ทราบเรื่องการออกหมายจับมาระยะหนึ่งแล้วแต่ไม่ได้เปิดเผย ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจ

“เมื่อตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานก็สามารถออกหมายจับได้ ผิดต้องเป็นไปตามผิด จากนี้คงต้องเป็นการต่อสู้ของ พล.ท.มนัส เองว่าจะมีข้อมูลที่สามารถต่อสู้อย่างไรได้ หากผลการสอบสวนยืนยันว่า พล.ท.มนัส เข้าไปเกี่ยวข้องจริงและเป็นคดีอาญา ก็คงต้องปลดออกจากราชการ” พล.อ.อุดมเดช กล่าว

ด้าน พล.ท.มนัส กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องและไม่ขอตอบคำถามอื่นๆ

อนึ่ง เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจยึดเอกสารการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของ พล.ท.มนัส รวม 4 บัญชี ได้ที่บ้านพักผู้ต้องหาค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา จ.ระนอง

สำหรับการดำเนินคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาล่าสุด ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้แล้วทั้งสิ้น 51 คน จากทั้งหมด 84 คน และจะสรุปสำนวนคดีได้กลางเดือน มิ.ย.นี้

วันเดียวกันตำรวจมาเลเซียพบค่ายผู้อพยพชาวโรฮีนจาอีก 1 แห่ง บริเวณป่าสงวนมาตา อายเยอร์ เมืองลูบัค สิเรห์ ห่างจากชายแดนไทยเพียง 100 เมตร โดยพบทั้งเครื่องปั่นไฟและอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก เจ้าหน้าที่คาดว่าขบวนการค้ามนุษย์กลุ่มนี้ซ่อนตัวอยู่ใน จ.ระนอง

ข่าวล่าสุด

ขนส่ง เตือน! รถติดถุงลมนิรภัยทาคาตะ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต เช็ก-เปลี่ยนฟรี