posttoday

"เต้น" ชี้คู่ขัดแย้งคือกลุ่มอนุรักษ์นิยม-เสรีนิยม

23 เมษายน 2558

"ณัฐวุฒิ" ระบุคู่ขัดแย้งคือกลุ่มอนุรักษ์นิยม-เสรีนิยม แนะสังคมต้องการปรองดอง ที่มีการจัดสมดุลอำนาจ

"ณัฐวุฒิ" ระบุคู่ขัดแย้งคือกลุ่มอนุรักษ์นิยม-เสรีนิยม แนะสังคมต้องการปรองดอง ที่มีการจัดสมดุลอำนาจ

เมื่อวันที่ 23 เม.ย. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวภายหลังการประชุมแสดงความคิดเห็นเพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง กับศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.)  ว่า การประชุมวันนี้เป็นการเชิญคนหลายกลุ่มมาแสดงความเห็นแนวทางปรองดอง โดยตนได้เสนอความคิดว่าทั้งหมดที่เชิญมาวันนี้ไม่มีใครเป็นคู่ขัดแย้งที่แท้จริง เพราะคู่ขัดแย้งที่จริงคือกลุ่มความคิดอนุรักษ์นิยม และกลุ่มความคิดเสรีนิยม ซึ่งเกิดมาตลอดนับมาตั้งแต่ 2475 ดังนั้นหากปัญหาเดิมยังไม่ได้รับการแก้ไขก็จะเกิดคู่ต่อสู้ใหม่ขึ้นมาอีก วันนี้สิ่งที่สังคมต้องการและจะนำไปสู่การปรองดองคือการจัดสมดุลทางอำนาจให้ทุกคนเท่าเทียมกันภายใต้กติกาสูงสุดที่เป็นประชาธิปไตย และบังคับใช้อย่างเป็นธรรม

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่าดังนั้นกลุ่มต่างๆที่เชิญมาจึงไม่ใช่เหตุแต่เป็นผลของความไม่สมดุลทางอำนาจในประเทศไทย ตนจึงได้เสนอโรดแมปปรองดองอย่างเป็นรูปธรรมว่า ขั้นที่ 1 ต้องสร้างกระบวนการพูดคุยอย่างเช่นที่เชิญหลายฝ่ายมาพูดคุยในวันนี้ หรือที่บอกว่าไปพูดคุยมาแล้ว 4,000 เวที ทั่วประเทศ และต้องหมายรวมถึงกลุ่มทุนผู้มีบารมีอิทธิพล ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งที่ผ่านมา แม้กระทั่งกองทัพเองก็ควรพูดคุยกันเพื่อสรุปบทบาทที่ผ่านมาและกำหนดแนวทางข้างหน้าที่จะแสดงบทบาทภายใต้กติกาประชาธิปไตย

นอกจากนี้ต้องแสดงความจริงใจ จากผู้มีอำนาจที่จะลบบาดแผลที่มีในใจของประชาชน เช่นดำเนินการเยียวยาผู้บาดเจ็บและผู้สูญเสียทุกกลุ่มที่ยังไม่ได้รับอย่างรวดเร็ว หรือนิรโทษกรรมให้ประชาชน ที่ต้องคดีความทางการเมืองทุกฝ่ายและดำเนินการให้ประกันตัวประชาชนที่ต้องคดีทางการเมือง ซึ่งคดียังไม่สิ้นสุดในชั้นศาลฎีกา ส่วนคดีความของแกนนำนั้นก็ให้พิสูจน์ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า ขั้นที่ 2 สร้างกติกาสูงสุดที่เป็นประชาธิไตยเพื่อบังคับใช้อย่างเป็นธรรมหมายถึงต้องทำให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีเนื้อหาสาระที่ทุกฝ่ายยอมรับและบังคับใช้อย่าเสมอภาคเท่าเทียมกัน ซึ่งเมื่อสังคมเห็นเนื้อหาของรัฐธรรมนูญแบบนี้แล้วก็จำเป็นต้องเปิดพื้นที่ให้ผู้ที่เห็นต่างอธิบายหลักการและเหตุผล ซึ่งขั้นตอนนี้ี่ปะชุมก็เห็นด้วยในหลักการ ตนจึงเสนออีกว่าควรให้มีการเปิดให้มีห้องประชุมสภานัดพิเศษเพื่อให้สมาชิกกลุ่มการเมืองนักวิชาการองค์กรอิสระ ได้มาร่วมแสดงความคิดเห็นถึงเนยื้อหาของรัฐธรรมนูญและเปิดโอกาสให้กรรมาธิการยกร่างฯได้ชี้แจงด้วย ประชาชนจึงจะได้พิจารณาอย่างรอบด้าน

ขณะที่ ขั้นตอนที่ 3 จัดการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ซึ่งนักการเมืองทั้งหลายต้องเข้าสู่กระบวนการตามกติกา ส่วนองค์กรอิสระก็แสดงความสง่างามโดยการลาออกจากทุกตำแหน่ง แต่ไม่ปิดกั้นที่จะเข้ากระบวนการสรรหาตามรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อให้ทุกอย่างมาเริ่มต้นภายใต้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งหากทิศทางเป็นแบบนี้จะถือว่าประเทศยังมีความหวังเรื่องความปรองดอง

“แต่หากเนื้อหายังเป็นแบบที่ร่างนี้และคนกลุ่มหนึ่งก็ยังสร้างภาพว่านักการเมืองเท่านั้นคือต้นเหตุความขัดแย้งไม่ยอมพูดความจริงทุกฝ่าย นอกจากเราจะไม่เห็นอนาคตแล้วความขัดแย้งงเดิมๆก็จะกลับมา ซึ่งฝ่ายความมั่นคงก็รับปากว่าจะเสนอต่อผู้บังคับบัญชาต่อไป”นายณัฐวุฒิกล่าว

ข่าวล่าสุด

เจาะรายละเอียด อย.ปลดล็อก ยา ‘ATMP’ ตามความเสี่ยง 3 ระดับ!