ความรุนแรงไม่ยุติ เปิดสถิติคาร์บอมบ์ยุค คสช.

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

เป็นความน่ากลัวจากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นกลางดึกวันที่ 10 เม.ย. 2558 เมื่อเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี กลายเป็นเป้าหมายก่อเหตุความไม่สงบ 

อีกสาเหตุที่ตัดทิ้งไม่ได้แม้ว่าจะยังไม่มีใครในรัฐบาลออกมาฟันธงว่า เหตุระเบิดห้างเซ็นทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย จะมีประเด็นเรื่องความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยจริงหรือไม่

เพราะรถที่นำมาก่อเหตุ “คาร์บอมบ์” ถูกขโมยมาจากองค์การบริหารส่วนตำบลยะหา จ.ยะลา เดินทางด้วยฝีมือของคนร้ายข้ามทะเลมาระเบิดขึ้นที่เกาะสมุย

เป็นคาร์บอมบ์กลางเมืองท่องเที่ยว และถือว่าศูนย์กลางของปักษ์ใต้ก็ไม่ปาน แน่นอนว่าเหตุนี้ย่อมสะเทือนไปทั่วประเทศ

หากไล่เรียงการท้าทายอำนาจรัฐที่ทหารเข้ามาบริหารประเทศในชั่วยามนี้ นับตั้งแต่ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามายึดอำนาจแล้วนั้น สถานการณ์ความรุนแรงของผู้ก่อความไม่สงบโดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ยังคงมีต่อเนื่อง

โดยเฉพาะประเด็นความรุนแรงที่เกิดจากการระเบิดโดยใช้ยานพาหนะรถยนต์ หรือที่เรียกกันว่าคาร์บอมบ์ หรือจักรยานยนต์บอมบ์

ข้อมูลจากการรวบรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า นับแต่เดือน พ.ค. 2557 หรือหลังจากเริ่มมีการยึดอำนาจรัฐประหาร มีเหตุการณ์คาร์บอมบ์ และจักรยานยนต์บอมบ์เกิดขึ้นแล้ว 4 ครั้ง

- 6 พ.ค.คาร์บอมบ์ที่ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และตามด้วยจักรยานยนต์บอมบ์ หน้าร้านสะดวกซื้อใน อ.หาดใหญ่

- 23 ก.ค.คาร์บอมบ์ที่สนามไก่ชน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 8 คน และยังมีรถยนต์บรรทุกระเบิดไปจอดที่หน้า สภ.ปะนาเระ แต่ตำรวจเก็บกู้ได้ทัน

- 25 ก.ค. 2557 คาร์บอมบ์หน้าโรงแรมฮอลิเดย์ฮิลล์ อ.เบตง จ.ยะลา เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 35 คน

- 20 ก.พ. 2558 ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา คาร์บอมบ์หน้าร้านคาราโอเกะ อ.เมือง จ.นราธิวาส บาดเจ็บ 13 คน

หากรวมการก่อเหตุทั้งคาร์บอมบ์ และจักรยานยนต์บอมบ์ ที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนใต้นั้น มีทั้งหมด 44 ครั้ง และ จ.นราธิวาส ถือว่าเกิดเหตุมากที่สุด คือ 22 ครั้ง ตามมาด้วย จ.ยะลา 12 ครั้ง จ.ปัตตานี 7 ครั้ง และ จ.สงขลา 3 ครั้ง

ส่วนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ก็มีของหนักอย่างระเบิดมาสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชน พร้อมกับท้าทายอำนาจของ คสช. ดังจะเห็นได้จากเหตุวางระเบิดที่รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสยาม เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2558 ที่ขณะนี้ยังไม่ได้ตัวคนร้าย และคล้อยหลังเหตุแรกเพียงเดือนเศษ วันที่ 7 มี.ค. มีเหตุคนร้ายปาระเบิดใส่ที่ศาลอาญา แต่ตำรวจตามรวบตัวได้ทันควัน

ตามด้วย เดือน พ.ค. 2556 เกิดเหตุระเบิดที่ซอยรามคำแหง 43/1 กรุงเทพมหานคร ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 7 คน ขณะนั้นคนร้ายใช้ระเบิดแสวงเครื่องที่มีการต่อวงจรของระเบิดใกล้เคียงกับเหตุที่เกิดในจังหวัดชายแดนใต้

เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้คนกรุงเทพฯ หวาดผวาเกรงว่าความรุนแรงในภาคใต้ จะขยายพื้นที่ ล้ำมาหาคนเมืองกรุง เพราะมีการให้ข้อมูลจากฝั่งเจ้าหน้าที่รัฐว่าอาจเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อเหตุความไม่สงบจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้

กระทั่งมาเกิดเหตุคาร์บอมบ์ลานจอดรถชั้นใต้ดินห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล เกาะสมุย พร้อมกับเหตุเพลิงไหม้สหกรณ์สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2558

แหล่งข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุห้างเซ็นทรัล เกาะสมุย ระบุว่า ส่วนใหญ่การก่อเหตุคาร์บอมบ์ หรือจักรยานยนต์บอมบ์ จะเกิดอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้เท่านั้น และการก่อเหตุแต่ละครั้งจะสร้างความเสียหายระดับใหญ่ที่รุนแรงมาก เพราะถือว่าเป็นระเบิดชนิดใหญ่ เล็งผลทั้งทรัพย์สินและชีวิต แต่ครั้งนี้มีการขยับออกมานอกพื้นที่เป้าหมาย และก่อเหตุที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

วันนี้ภาพจากกล้องวงจรปิดปรากฏชัด รูปคนร้ายเจ้าของคาร์บอมบ์เกาะสมุย เป็นหลักฐานให้ฝ่ายความมั่นคงแกะรอยคาดว่า จะได้ตัวในไม่ช้า ผลจะเป็นอย่างไรและหากเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ใน 3 จังหวัดภาคใต้ก็ต้องยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น