ให้ทำบัญชีแจงทรัพย์สินของวัด
ถ้ามีการทำเรตติ้งกระแสพระสงฆ์ไทย อย่างที่ทำเรตติ้งรายการทีวีวิทยุและสื่ออื่นๆ เรตติ้งพระสงฆ์ไทย คงตกต่ำอย่างไม่ต้องสงสัย
โดย...สมาน สุดโต
ถ้ามีการทำเรตติ้งกระแสพระสงฆ์ไทย อย่างที่ทำเรตติ้งรายการทีวีวิทยุและสื่ออื่นๆ เรตติ้งพระสงฆ์ไทย คงตกต่ำอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะประชาชนชาวบ้านเสพข่าวพระนอกรีต นอกรอยบ่อยมาก เกือบจะเป็นข่าวรายวัน แต่สังคมพระสงฆ์ก็ยังอยู่ ชาวบ้านยังใส่บาตรพระสงฆ์หนาแน่น สถาบันชาติ และพระมหากษัตริย์ ยังให้เกียรติสูงนิมนต์พระสงฆ์ในพระราชพิธี และพิธีต่างๆ ไม่เคยเว้น แปลว่าที่เป็นข่าวก็เป็นไป กลับดีเสียอีกจะได้รู้ว่าของเสียที่เป็นข่าวถูกกำจัด หรือชำระล้างไปแล้ว
คนไทยชาวพุทธแยกแยะออก
การที่เหลือพระดีส่วนมากให้เรากราบไหว้ เพราะสังคมชาวบ้าน ข้าราชการ และพระสงฆ์ยอมรับในการควบคุม และตรวจสอบกันเอง และทำอย่างมีประสิทธิภาพ มิเช่นนั้นพวกเราชาวพุทธคงแยกแยะลำบาก เพราะพระอลัชชี ไม่มีสัญลักษณ์ให้เห็นเสียด้วย
การทั้งมวลที่ประคับประคองคณะสงฆ์ให้เป็นเนื้อนาบุญอยู่ได้ ต้องอนุโมทนาคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ ที่มิได้ปล่อยปละละเลย โดยช่วยสั่งการและกำชับระดับล่างให้ใส่ใจ ป้องกันเรื่องไม่ดีไม่ให้เกิดขึ้นในวัดเสมอ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2558 คณะสงฆ์กรุงเทพมหานครจัดประชุมพระสังฆาธิการระดับเจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส และผู้ช่วยวัดต่างๆ ในกรุงเทพมหานครทั้งหมด ซึ่งมี 400 กว่าวัด โดยมีพระสังฆาธิการมาประชุมประมาณ 800 รูป เพื่อบอกแนวทางการบริหารแนวนโยบายการจัดทำบัญชีทรัพย์สินของวัด ที่วัดสามพระยาวรวิหาร
สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม) เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ซึ่งเป็นประธานการประชุม กล่าวว่า การจัดประชุมครั้งนี้เพื่อให้พระสังฆาธิการทราบถึงนโยบายของคณะสงฆ์ และนโยบายของคณะผู้ปกครอง เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขกิจการของคณะสงฆ์ที่อยู่ในเขตปกครองของตน ให้เท่าทันกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะขณะนี้มีปัญหาที่เกิดขึ้นในวงการสงฆ์มากมายที่ทำลายความเชื่อมั่นและศรัทธาของประชาชน ซึ่งลาภสักการะ ยศถาบรรดาศักดิ์นั้น เปรียบเหมือนแค่เปลือกไม้ ศีล สมาธิปัญญา ต่างหากที่เป็นแก่นแท้ของต้นไม้ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพระสังฆาธิการที่เข้าร่วมประชุม จะนำความรู้ไปปฏิบัติตามเพื่อพัฒนาและสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่พระพุทธศาสนา
พระราชรัตนสุธี รองเจ้าคณะภาค 15 เลขาเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม ให้แนวทางการจัดทำบัญชีทรัพย์สินและเงินทองของวัด เมื่อมีผู้บังคับบัญชามาตรวจเปิดให้ดูได้ว่าในรอบปีเรามีอะไร แต่ห้ามเปิดเผยต่อสาธารณะ เพราะทรัพย์สินเงินทองถือว่าเป็นความลับ ผู้ที่จะรู้คือผู้ที่อยู่ระดับบังคับบัญชา เช่น เจ้าคณะแขวง เจ้าคณะเขต เป็นต้น ท่านเหล่านี้มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจ
คนอื่นๆ นอกจากที่กล่าวนี้ไม่สิทธิตรวจบัญชีขอทรัพย์สินและเงินทองของวัด ดังที่มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ไปขอตรวจสอบบัญชีของวัด หลังจากรับบัตรสนเท่ห์กล่าวหาวัดที่ว่านั้น โดยพระราชรัตนสุธี บอกว่าไม่ใช่หน้าที่เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ
ส่วนระยะเวลาการสำรวจตรวจสอบทรัพย์สินของวัดควรเป็นช่วงเดือน ก.ย.ทุกปี ทำแล้วเก็บไว้ที่วัด ส่งให้ระดับบังคับบัญชาที่เหนือขึ้นไป
เรื่องทำบัญชีทรัพย์สินเป็นหลักการของสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ที่ให้จัดทำแบบสำรวจภารกิจและแบบตรวจการ คณะสงฆ์ สำหรับพระสังฆาธิการระดับวัดขึ้น เพื่อให้พระสังฆาธิการระดับสูงได้ใช้ตรวจการณ์คณะสงฆ์เก็บรวบรวมข้อมูลของวัดต่างๆ ในพื้นที่ รวมทั้งทราบปัญหาและอุปสรรคการบริหารงานคณะสงฆ์ของวัด และช่วยแนะนำแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่ตรวจพบ ที่สำคัญการจัดทำแบบสำรวจภารกิจจะเป็นการกระตุ้นเตือนพระสังฆาธิการระดับวัดได้ตระหนักถึงหน้าที่และภาระงานของตนเอง
สมเด็จพระพุทธชินวงศ์เคยกล่าวก่อนหน้านั้นว่า แบบสำรวจจะประกอบด้วยภารกิจของพระสังฆาธิการระดับวัด คือ ด้านการปกครอง การศึกษา ศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่ สาธารณูปการ และสาธารณสงเคราะห์ รวมทั้งจะมีประวัติเจ้าอาวาส สถานภาพของวัด การปฏิบัติงานของเจ้าอาวาส ที่สำคัญ จะมีในส่วนของการบันทึกการบริหารจัดการรายได้ทรัพย์สินของวัด การบันทึกบัญชีแสดงรายรับ รายจ่าย และเงินคงเหลือของวัดด้วย
การจัดทำบัญชีของวัดได้มีมานานแล้ว แต่บางวัดอาจจะบกพร่องชี้แจงไม่ได้ แต่นับจากนี้เมื่อมีแบบสำรวจดังกล่าววัดจะต้องมีบันทึกและแจกแจงบัญชีของวัด ทั้งนี้ การมีบัญชีของวัดจะเป็นประโยชน์ต่อวัดอย่างมาก โดยพระที่จะมาสืบทอดต่อจากเจ้าอาวาสจะได้รู้ฐานะของวัด รวมทั้งหากมีปัญหาอะไรเกี่ยวกับงบประมาณ การเงิน ก็สามารถตรวจสอบ ชี้แจง จากหลักฐานที่มีอยู่ได้จากนี้ไปเกิดความโปร่งใสในวัดแล้ว เรตติ้งของพระสงฆ์อาจกระเตื้องขึ้นก็ได้


