กทม.คาใจรายได้ใบสั่งลดยันส่งเงินคืนตำรวจทุกปี

กทม.แจงเงินค่าปรับจราจร แบ่งคืนให้ตำรวจ 50% ทุกปีคาใจนับวันทำไมยิ่งน้อยสวนทางค่าปรับที่ได้หลายร้อยล้านต่อปี

นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจร กทม. เปิดเผยว่า เงินค่าปรับที่ตำรวจจราจรนำส่งให้ กทม.จะมีการแบ่งกลับคืนให้ 50% จากเงินค่าปรับที่จัดเก็บมาให้ ตัวอย่างเช่น เงิน 100 บาท หักออก 2.50 บาทเป็นค่าภาษี อีก 45 บาทเป็นเงินรางวัลนำจับแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เหลือ 50 บาท กฎหมายกำหนดต้องให้กับท้องถิ่น ซึ่งคือ กทม.

อย่างไรก็ตาม กทม.ก็แบ่งให้ตำรวจไป 25 บาท จะเหลืออยู่ที่ กทม.เพียง 25 บาท แต่ระหว่างนั้นตำรวจจะยื่นเรื่องขอเงินเพิ่มเติม เพื่อนำไปใช้จ่ายเรื่องต่างๆ ประจำปีทุกครั้ง ทั้งนี้ การคืนเงิน 50% ให้ทางตำรวจเป็นนโยบายที่มีมาตั้งแต่ปี 2546 ของผู้บริหาร กทม.ที่เห็นว่าทั้งสองหน่วยงานต้องทำงานร่วมกัน และเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมาเงินที่ตำรวจส่งให้ กทม. เริ่มน้อยลง เช่นตั้งแต่ปี 2555 ตำรวจส่งค่าปรับจราจรให้ กทม. 67 ล้านบาท กทม.ส่งคืนครึ่งหนึ่งจำนวน 33 ล้านบาท ตั้งเป็นงบประจำปี 2558 มีการเบิกใช้ไปแล้วโดยตำรวจแจ้งว่าจะนำไปใช้ในงานด้านจราจร

สำหรับปี 2556 ตำรวจเก็บค่าปรับได้จำนวน 74 ล้านบาท ทาง กทม.แบ่งเงินคืนให้ 37 ล้านบาท ซึ่งยังเบิกใช้ไม่ได้จนกว่าจะถึงเดือน ต.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม มีเพียงปี 2551 ทางตำรวจเก็บเงินค่าปรับมาให้มากที่สุดคือจำนวน 111 ล้านบาท กทม.ส่งคืนให้ 55 ล้านบาท มีการเบิกใช้จนครบไปแล้ว

"ยืนยัน กทม.ให้ครบทุกปี ไม่เคยขาดแม้แต่ยอดเดียว ดังนั้น อัตราค่าปรับจากใบสั่งที่คาดว่าจะได้ประมาณหลายร้อยล้านบาทต่อปีนั้น สวนทางกับยอดเงินจำนวนจริงที่จัดเก็บส่งให้ กทม. ตั้งแต่ปี 2552 ที่ไม่เคยถึง 100 ล้านบาท" ผู้อำนวยการสำนักการจราจร กทม.กล่าว

นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า ตำรวจจราจรส่งค่าปรับมาให้เท่าไหร่ กทม.ก็ส่งกลับคืนให้ครึ่งหนึ่งทุกปี บางปี กทม.คืนให้ทั้งหมดเพื่อนำไปใช้งานด้านจราจร ส่วนจะนำไปดำเนินการอะไรตามที่ขอมาจริงหรือไม่ กทม.ไม่ได้ติดตามไปตรวจสอบ

ทั้งนี้ พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุก่อนหน้านี้ว่า เงินที่ตำรวจจราจรได้ค่าปรับจราจรและส่งให้ กทม.ปีละหลายร้อยล้านบาท แต่ กทม.ไม่นำเงินมาพัฒนาสังคม และตั้งแต่ดูแลงานจราจรมา 2 ปี ได้ของบจาก กทม.แต่ก็ไม่ได้สักครั้ง

ภาพประกอบข่าว