เทวทัต-อชาตศัตรู
ชื่อของพระเทวทัต ชาวพุทธรู้กันดีว่าเป็นพระฝ่ายชั่วที่ทำบาปทำกรรมไว้หนักจนถูกธรณีสูบ
โดย...สมผล ตระกูลรุ่ง
ชื่อของพระเทวทัต ชาวพุทธรู้กันดีว่าเป็นพระฝ่ายชั่วที่ทำบาปทำกรรมไว้หนักจนถูกธรณีสูบ ตามตำราว่ากันว่าแม้ทุกวันนี้กว่า 2,500 ปีแล้ว เทวทัตยังรับกรรมอยู่ในนรกชั้นที่ลึกสุดที่เรียกว่าอเวจีมหานรก
พระเทวทัตมีความอิจฉาพระพุทธเจ้าและพระสาวกที่มีผู้เลื่อมใสจำนวนมาก จึงคิดจะเป็นใหญ่ต้องการปกครองคณะสงฆ์ เทวทัตได้ทูลพระพุทธเจ้าขอปกครองคณะสงฆ์ โดยให้เหตุผลว่าพระพุทธเจ้าทรงชราแล้ว แต่พระพุทธเจ้าไม่ทรงอนุญาต โดยตรัสว่าแม้พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ อัครสาวกทั้งสอง พระองค์ยังไม่มอบให้ปกครองสงฆ์เลย พระเทวทัตซึ่งยังเป็นปุถุชนที่ยังมีกิเลสดุจก้อนเขฬะ จะมอบสงฆ์ให้ปกครองได้อย่างไร
พระเทวทัตโกรธ จึงหาทางกำจัดพระพุทธเจ้า ได้ยุยงเจ้าชายอชาตศัตรูพระราชโอรสของพระเจ้าพิมพิสาร ซึ่งทรงพระเยาว์อยู่ พระเทวทัตได้แปลงกายเป็นกุมารน้อยมีงูพันตัวอยู่ เหาะไปนั่งที่ตักของเจ้าชายอชาตศัตรู ทำให้เจ้าชายอชาตศัตรูเกิดความเลื่อมใส นับถือเป็นอาจารย์
พระเทวทัตคิดการใหญ่ ยุยงให้เจ้าชายอชาตศัตรู ปลงพระชนม์พระเจ้าพิมพิสาร เพื่อจะได้ครองราชย์ ส่วนพระเทวทัตก็จะกำจัดพระพุทธเจ้า และขึ้นปกครองคณะสงฆ์ จะได้เป็นใหญ่ทั้งอาณาจักรและศาสนจักร
เจ้าชายอชาตศัตรูพกอาวุธเข้าไปในที่ประทับของพระเจ้าพิมพิสาร แต่ถูกจับได้ พระเจ้าพิมพิสารทราบความต้องการแล้วจึงยกราชสมบัติให้ เมื่อได้ครองราชย์พระเจ้าอชาตศัตรูได้ทำปิตุฆาตตามที่พระเทวทัตยุยง
พระเทวทัตขอให้พระเจ้าอชาตศัตรูส่งพลแม่นธนูไปปลงพระชนม์พระพุทธเจ้าหลายครั้ง คนเหล่านั้นนอกจากไม่อาจทำร้ายพระพุทธเจ้าแล้ว ยังกลับใจบวชกับพระพุทธเจ้า นอกจากนี้ยังให้ช้างตกมันชื่อ นาฬาคีรี ไปทำร้ายพระพุทธองค์ แต่ช้างกลับสงบด้วยพระเมตตาบารมีของพระพุทธเจ้า พระเทวทัตจึงลงมือเองด้วยการกลิ้งหินจากภูเขาหมายให้ทับพระพุทธเจ้า แต่มีเพียงสะเก็ดหินกระเด็นไปทำให้พระพุทธองค์ห้อพระโลหิต เป็นอนันตริยกรรม
พระเทวทัตเสื่อมจากความเลื่อมใส เสื่อมจากลาภสักการะ จึงหาอุบายที่ทำเหมือนว่าเป็นผู้ที่เคร่งในการปฏิบัติเพื่อให้ผู้คนเลื่อมใส พระเทวทัตได้เข้าไปขอให้พระพุทธเจ้าบัญญัติข้อปฏิบัติ 5 ข้อ คือ ให้พระอยู่แต่ในป่า ให้ฉันอาหารเฉพาะที่บิณฑบาตได้ ให้นุ่งผ้าบังสุกุลเท่านั้น ไม่รับผ้าที่มีผู้ถวายให้ ไม่ให้อยู่ในอารามแต่ให้อยู่โคนไม้ และให้พระงดฉันเนื้อสัตว์ อ้างว่าเมื่อห้ามฆ่าสัตว์ก็ไม่ควรฉันเนื้อสัตว์ แต่พระพุทธเจ้าไม่ทรงอนุญาต โดยตรัสว่าผู้ใดประสงค์จะถือปฏิบัติในข้อใดก็ให้เป็นไปตามความประสงค์ของแต่ละบุคคล
พระเทวทัตได้โอกาสจึงประกาศว่าพระพุทธเจ้าไม่เคร่งครัด แยกตนไปปฏิบัติต่างหาก เป็นการทำให้สงฆ์แตกแยก เป็นอนันตริยกรรมอีกครั้ง
ภายหลังพระเทวทัตสำนึกผิด ตั้งใจจะไปขอขมาพระพุทธเจ้า เพราะรู้ดีว่าพระพุทธองค์มีความเมตตาไม่มีประมาณ มีความรู้สึกต่อพระราหุลอย่างไร ก็รู้สึกต่อพระเทวทัตอย่างนั้น แต่พระเทวทัตบาปเกินไปจึงไม่มีโอกาสได้เข้าไปกราบขอขมาพระพุทธเจ้า เพราะถูกธรณีสูบที่หน้าวัดพระเชตวัน ไปเกิดในนรกชั้นลึกที่สุด คือ อเวจีมหานรก ก่อนตาย เมื่อธรณีสูบจนถึงคาง พระเทวทัตได้อธิษฐานถวายคางแก่พระพุทธเจ้า อันจะเป็นอานิสงส์ให้เมื่อรับกรรมหมดแล้ว จะได้เกิดเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า
สำหรับพระเจ้าอชาตศัตรูสำนึกได้ภายหลังจากทำร้ายพระพุทธเจ้าไม่สำเร็จได้กลับใจทำกุศลอย่างเต็มที่ เป็นผู้อุปถัมภ์การทำสังคายนาครั้งที่ 1 แต่ไม่อาจบรรลุธรรมใดๆ ได้อันเนื่องมาจากผลของการทำอนันตริยกรรม เมื่อสิ้นพระชนม์แล้วไปรับกรรมในโลหกุมภีนรก เมื่อหมดกรรมแล้วจะได้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ในอนาคตอันยาวไกล
ไม่น่าเชื่อว่าในยุคปัจจุบันจะเกิดปรากฏการณ์เทวทัต-อชาตศัตรู ขึ้นที่เมืองไทย
เทวทัตในยุคดิจิทัล มีแว่นดำปกปิดสายตา สวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนยาว เอาผ้าเหลืองคลุมกายไว้ให้เป็นสัญลักษณ์ของพุทธเทวทัตยุคนี้เลวร้ายกว่าเทวทัตต้นฉบับ โดยอวดอ้างว่าตนเป็นต้นธาตุต้นธรรม เหนือกว่าพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ สามารถนำอาหารไปถวายพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ได้ หลอกลวงมหาชนด้วยการเอาบุญมาเป็นสินค้าสร้างหลักการใหม่ว่า การขึ้นสวรรค์ชั้นใดจะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ทำบุญ เป็นการสร้างหลักการใหม่ ทำลายหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
เทวทัตยุคใหม่ยังทำลายพระธรรมคำสอนดั้งเดิม โดยอ้างว่าพระไตรปิฎกที่พระเถรวาทในประเทศไทยเราใช้กันอยู่ คือพระไตรปิฎกภาษาบาลีที่เก่าแก่ที่สุดนั้นเทวทัตยุคนี้อ้างว่าไม่ถูกต้อง เพราะไม่ได้บัญญัติสิ่งที่ตนเองสอนไว้ จึงได้จัดทำพระไตรปิฎกขึ้นใหม่เป็นฉบับเทวทัต
จึงเป็นการสร้างความแตกแยกในหมู่สงฆ์ เป็นอนันตริยกรรม
ส่วนอชาตศัตรูยุคใหม่นี้ เป็นลูกนักเลง ตัวเองก็หนีคดี มีความมักใหญ่ใฝ่สูง ใช้เงินมหาศาลที่ได้จากการค้าที่เป็นเจ้าของสัมปทานผูกขาด รวมกับเงินที่ฉ้อราษฎร์บังหลวง ซ่องสุมนักเลงอันธพาล เข่นฆ่าคนที่ไม่
ยอมเป็นข้าทาสบริวาร คิดการใหญ่ล้มล้างพ่อแห่งแผ่นดิน ก็ถือเป็นอนันตริยกรรมต่อชาติ
เทวทัต-อชาตศัตรู ในอดีตแม้จะทำกรรมหนักอย่างไร ก็สำนึกได้ในภายหลัง จึงมีโอกาสที่จะได้พบเห็นแสงแห่งธรรมเมื่อชดใช้กรรมหมดแล้ว แต่เทวทัต-อชาตศัตรู ยุคนี้โมหะครอบงำ มืดบอดด้วยกิเลส ประตูนรกเปิดรออยู่แล้ว และย่อมหมดโอกาสที่จะพบความสงบสุขอันแท้จริง
ว่าแต่ว่าใครกันนะที่เป็นเทวทัต-อชาตศัตรู ของเมืองไทย


