ทะลักขายยางล้นตลาดกลางบุรีรัมย์
บุรีรัมย์-เกษตรกร 24 จังหวัดทั่วประเทศแห่ขายยางล้นตลาดกลางบุรีรัมย์จนสถานที่เก็บไม่พอต้องหยุดรับชั่วคราว
บุรีรัมย์-เกษตรกร 24 จังหวัดทั่วประเทศแห่ขายยางล้นตลาดกลางบุรีรัมย์จนสถานที่เก็บไม่พอต้องหยุดรับชั่วคราว
เมื่อวันที่ 24 ก.พ.เกษตรกรผู้ปลูกยางพารารายย่อยที่ชะลอนำออกมาขายช่วงราคาตกต่ำรวมถึงชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางและผู้ประกอบการที่รับซื้อยางพาราของเกษตรกร จากทั่วประเทศทั้งภาคกลาง
ภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ จ.ตรัง ระยอง ฉะเชิงเทรา ชลบุรี อุบลราชธานี ศรีสะเกษ พะเยา และจังหวัดอื่นๆ รวม 24 จังหวัด ได้แห่นำรถบรรทุกยางพาราแผ่นดิบ และยางแผ่นรมควันมาเข้าคิวรอขายที่ตลาดกลางยางพาราจ.บุรีรัมย์ ตั้งอยู่ ต.ชุมเห็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ ตาม“โครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง” ซึ่งเป็นหนึ่งใน 16 มาตรการของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือชาวสวนยางที่ประสบปัญหาราคายางตกต่ำโดยรับซื้อราคาสูงกว่าท้องถิ่นหรือท้องตลาดทั่วไปเฉลี่ยกิโลกรัมละ 6 – 8 บาท
ทั้งนี้ปัจจุบันยางแผ่นดิบรมควันตลาดกลางจะรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 63.15 บาท ยางแผ่นดิบคุณภาพดีกิโลกรัมละ 58.55 บาท ขณะที่ท้องตลาดทั่วไปจะรับซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 51 - 55 บาท ทำให้แต่ละวันได้มีเกษตรกร ชุมนุมสหกรณ์ และผู้ประกอบการ แห่นำรถบรรทุกยางพารามาเข้าคิวรอขายเฉลี่ยวันละกว่า 200 ตัน จนทำให้เป็นปัญหาในการตรวจคัดคุณภาพยางเนื่องจากเจ้าหน้าที่มีน้อย ประกอบกับสถานที่จัดเก็บไม่เพียงพอ ทำให้ทางตลาดกลางต้องงดรับคิวของผู้ประกอบการไว้ก่อนชั่วคราว เนื่องจากขณะนี้ยังมียางที่รับซื้อไว้จำนวนมากยังไม่ได้ระบายหรือส่งมอบให้กับบริษัทคู่สัญญามากกว่า 600 ตัน
นายทวีศักดิ์ อนุศิริ เจ้าพนักงานการเกษตร ชำนาญงานตลาดกลางยางพาราบุรีรัมย์ กล่าวว่า ตั้งแต่เริ่มโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง วันที่ 9 ธ.ค.2557 จนถึงขณะนี้ได้มีเกษตรกร นำยางพารามาขายที่ตลาดกลางแล้วกว่า 11,389 ตันคิดเป็นมูลค่าเงินหมุนเวียนในการรับซื้อยางกว่า 667 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ยังมีเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเงินอยู่กว่า 153 ล้านบาทเนื่องจากยังรอการอนุมัติจัดสรรจากรัฐบาลแต่คาดว่าจะมีเกษตรกรที่ยังเหลือยางเก็บไว้นำมาขายอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะสิ้นสุดโครงการในเดือนเม.ย.2559


