สจล.-ไทยพาณิชย์จับมือแสดงจุดยืนร่วมสอบโกงเงิน
สจล.- ไทยพาณิชย์ แถลงข่าวแสดงจุดยืนถึงความร่วมมือตรวจสอบข้อเท็จจริง และเร่งหาตัวคนผิดกรณีทุจริตบัญชี เงินฝาก สจล.
สจล.- ไทยพาณิชย์ แถลงข่าวแสดงจุดยืนถึงความร่วมมือตรวจสอบข้อเท็จจริง และเร่งหาตัวคนผิดกรณีทุจริตบัญชี เงินฝาก สจล.
ศ.มไนย ไกรฤกษ์ รักษาการแทนอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดเผยว่า ได้ร้องขอข้อมูล เอกสาร หลักฐาน ในการดำเนินธุรกรรมทางการเงินจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) อันจะเป็นหลักฐานสำคัญในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดที่ได้ลักทรัพย์ของ สจล. ไป เป็นจำนวนเงินราว 1.5 พันล้านบาท ซึ่งสร้างความเสียหายทางด้านการเงินต่อ สจล. อย่างมาก ที่ผ่านมายังคงมีความล่าช้าในการจัดส่งเอกสารตามที่ สจล. ร้องขอ ในครั้งนี้ทางธนาคารได้ตกลงจะนำส่งเอกสารต่างๆ เพิ่มเติมให้แก่ทาง สจล. ให้ครบถ้วน
นายจำรูญ เล้าสินวัฒนา รักษาการแทนรองอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า ธนาคารตกลงที่จะส่งเอกสารเพิ่มเติมให้แก่ทาง สจล. มีรายละเอียดดังนี้
1. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จะนำส่งเอกสาร หลักฐาน จำนวน 8 รายการ ใน 3 บัญชีหลักของสาขาบิ๊กซี สุวินทวงศ์ โดยให้ทยอยนำส่งให้ครบทุกรายการ ภายในวันพุธที่ 18 ก.พ. 2558
2. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จะนำส่งเอกสาร หลักฐาน ในส่วนที่ยังขาดอีก 31 รายการ ในอีก 5 บัญชี โดยให้ทยอยนำส่งให้ครบทุกรายการ ภายในวันจันทร์ที่ 23 ก.พ. 2558
3. เอกสารที่ สจล. ร้องขอจำนวนรวม 68 รายการ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จะส่งสำเนาเอกสารดังกล่าวให้ สจล. และจัดส่งเอกสารต้นฉบับให้พนักงานสอบสวน กองปราบปราม
สจล. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ด้วยดี เพื่อให้พนักงานสอบสวน กองปราบปราม สามารถดำเนินการสืบสวน สอบสวนตามขั้นตอน เพื่อหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป และนำเงินกลับคืนสู่ สจล. โดยเร็ว”
นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารไม่ประนีประนอมกับเรื่องทุจริต สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยได้แต่งตั้ง นางวัลลยา แก้วรุ่งเรือง รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานกฎหมาย เป็นหัวหน้าคณะทำงานและเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการสื่อสารตลอดจนเป็นผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ คณะทำงานชุดนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการตรวจสอบ ซึ่งธนาคารเชื่อว่าจะได้ข้อสรุปในไม่ช้า และเมื่อประกอบกับผลการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากได้ข้อสรุปว่าพนักงานของธนาคารมีส่วนร่วมในการทำทุจริตหรือบกพร่องจนก่อให้เกิดความเสียหาย ธนาคารพร้อมที่จะรับผิดชอบตามกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
“เราจะช่วยกันหาคนผิดและสรุปเรื่องนี้ให้จบโดยเร็ว เพราะเรื่องนี้ลากยาวมาเกินความจำเป็นแล้ว และถ้าพบว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากพนักงานของธนาคารทางธนาคารจะรับผิดชอบเท่ากับจำนวนความเสียหายที่เกิดขึ้น ผมขอย้ำเราถือว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องพูดให้ชัดเจน เพราะไม่เช่นนั้นจะคิดว่าเราพยายามปกป้อง สถาบันนี้เป็นสถาบันที่มีเกียรติทำงานมาครบ 108 ปีแล้ว เราจึงไม่มีมีนโยบายที่จะปกป้องคนทุจริต และจะจัดส่งเอกสารให้ทันตามกรอบเวลาที่กำหนด”นายวิชิตกล่าว
นายวิชิต กล่าวา ส่วนกรณีที่กรณีที่ทางธนาคารไทยพาณิชย์ ได้มอบหมายให้นายทรงกลด นำเอกสารการเบิกถอนไปให้ผู้บริหารสจล.เซ็นต์ย้อนหลัง เป็นเรื่องปกติ แต่ทางธนาคารไทยพาณิชย์ไม่ได้ทำเป็นประจำจะทำเฉพาะลูกค้าชั้นดี ซึ่งสจล.ถือเป็นลูกค้าชั้นดี จึงอนุโลมให้มีการถอนเงินไปก่อน และให้เซ็นต์เอกสารรับรองย้อนหลังได้ และที่ไม่สงสัยว่าจะมีการทุจริตเพราะ ในวันที่เซ็นต์เอกสารด้วยมีพยายานไปพร้อมกับนายทรงกลดด้วยจึงทำให้ไม่ติดใจ ซึ่งในส่วนของตนยอมรับว่ายังไม่ได้เห็นเอกสารดังกล่าว เป็นไประดับชั้นจึงไม่รู้ว่าผู้บริหารของสจล.ที่เซ็นต์เป็นใคร และเป็นลายเซ็นจริงหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าเวลานั้นมีการทุจริตเกิดขึ้นคงไม่ใช่แค่ไล่ออก แต่ต้องมีการดำเนินคดีทางอาญาด้วย อีกทั้งข้อมูลต่าง ๆ ที่มีอยู่ในขณะนั้นก็ไม่ชัดเจนเหมือนในเวลานี้ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ธนาคารไทยพาณิชย์จะไปทบทวนมาตรการการเบิกถอนและการเซ็นต์ย้อนหลังให้มีความเข้มงวดมากขึ้น
นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ออกมาตรการเพิ่มเติมในระบบการปฏิบัติงานให้รัดกุมมากขึ้น เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า ตามที่ได้ประกาศไปแล้ว ได้แก่ การลดอำนาจอนุมัติของสาขาในรายการเงินสดและเงินโอนมาไว้ที่ส่วนกลาง และจะได้มีการออกมาตรการเพิ่มเติมเกี่ยวกับการควบคุมการปฏิบัติงานสาขาและระบบงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ต่อไป
นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) กล่าวว่า สกอ.ยินดีที่ทั้ง 2 ฝ่ายหารือร่วมกัน ที่ผ่านมาอาจเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการเข้าใจผิด เชื่อว่าการที่ทั้งสจล.และธนาคารไทยพาณิชย์ได้มาพูดคุยกันน่าจะช่วยคลี่คลายปัญหาได้ จากนี้ สกอ.จะถอดบทเรียนกรณี สจล.ให้มหาวิทยาลัยอื่นรับทราบ ทั้งจะขอให้ผู้แทนไทยพาณิชย์มาให้ข้อมูลด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหานี้กับมหาวิทยาลัยอื่นๆอีก นอกจากนี้ยังได้หารือกับกรมบัญชีกลาง สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน กระทรวงการคลัง และเห็นร่วมกันว่าคงต้องหามาตรการภาครัฐมาดูแลระบบการเงินของมหาวิทยาลัยเพราะเงินที่หายไปก็คือเงินภาษีของประชาชน และที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ได้ให้ความสนใจคดีของ สจล. และกำชับให้รายงานความคืบหน้าให้ทราบมาตลอด


