โจ๋ใส่ถุงยางเกินตัว
สธ.เผยโจ๋ไทยใส่ถุงยางไซส์ใหญ่เกินตัว เพราะกลัวโดนหยามว่าเล็ก ยอดติดกามโรคพุ่ง 5 เท่า
สธ.เผยโจ๋ไทยใส่ถุงยางไซส์ใหญ่เกินตัว เพราะกลัวโดนหยามว่าเล็ก ยอดติดกามโรคพุ่ง 5 เท่า
นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงในวัยรุ่นคือ เลือกขนาดถุงยางอนามัยไม่เหมาะสมกับตัวเอง โดยมักเลือกขนาดที่ใหญ่กว่าไซส์จริง เพราะมีทัศนคติที่ผิด กลัวเพื่อนหยามว่าอวัยวะเพศเล็กไม่สมศักดิ์ศรีความเป็นชายและบางรายอาจจะไม่รู้วิธีการวัดขนาด ทำให้ถุงยางอนามัยหลุด หลวมเสี่ยงติดโรคหรือตั้งครรภ์ง่าย รวมทั้งยังทำให้เสียบรรยากาศและไม่ต่างอะไรกับการใส่ถุงพลาสติก
ทั้งนี้ ผลสำรวจของ สธ. พบว่าผู้ชายไทยมีขนาดมาตรฐานอวัยวะเพศอยู่ที่ขนาด 52 มิลลิเมตร (มม.) 12 ล้านคน ขนาด 49 มม. 6.5 ล้านคน ขนาด 54 มม. 3.6 ล้านคน และขนาด 56 มม. 1.2 ล้านคน
ขณะที่ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรคปี 2557 พบว่าอัตราการป่วยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ได้แก่ โรคหนองใน ซิฟิลิส หนองในเทียม แผลริมอ่อน และกามโรคของต่อมและท่อน้ำเหลืองทั่วประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 35.89 เป็น 52.69 ต่อประชากรแสนคน และที่น่าตกใจพบว่าในรอบ 10 ปีมานี้วัยรุ่นอายุ 10-19 ปี ติดกามโรคเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากเกือบ 5 เท่าตัว จาก 7.53 เป็น 34.50 ต่อประชากรแสนคน ในกลุ่มอายุ 20-29 ปี เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าตัวเช่นกัน จาก 26.66 เป็น 42.73 ต่อประชากรแสนคน
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผลสำรวจพบว่าประชาชนมีความรู้ในการใช้ถุงยางอนามัยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 76.8% ลดลงจากปี 2557 กว่า 10% และพบว่ากลุ่มตัวอย่างเพียง 56.9% ที่ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มตัวอย่างเลือกซื้อถุงยางอนามัยจากร้านสะดวกซื้อมากที่สุด 66.5% แต่กว่า 43.6% ยังรู้สึกเขินอายในการเลือกซื้อ


