posttoday

เมืองใต้ดินในจินตนาการ

01 กุมภาพันธ์ 2558

บนพื้นดินกลางมหานครอันกว้างใหญ่ ตรงจุดศูนย์กลางของเมือง ปรากฏกลุ่มคนเล็กๆ ที่มารวมตัวกันเพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ

บนพื้นดินกลางมหานครอันกว้างใหญ่ ตรงจุดศูนย์กลางของเมือง ปรากฏกลุ่มคนเล็กๆ ที่มารวมตัวกันเพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ ให้กับเด็กๆ ในชุมชน โดยใช้ศิลปะแขนงต่างๆ เป็นสื่อกลางในการกระตุ้นความคิดเชิงสร้างสรรค์ นั่นคือ “กลุ่มดินน้ำมัน”

“กลุ่มดินน้ำมัน” เป็นกลุ่มคนที่ทำงานอิสระ ทำงานสร้างสรรค์กิจกรรมศิลปะหลากหลายรูปแบบกับเด็กและเยาวชนในชุมชน เสมือนเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ทั้งเรื่องศิลปะ จริยธรรม สังคมและวิชาการ ซึ่งเด็กสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับการเรียนและการเติบโต กลายเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชุมชน

ภายใต้ความเชื่อที่ว่า “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ และเยาวชนคือกำลังสำคัญของชาติ” จึงได้เกิดเป็นความร่วมมือกันทำงานกับชุมชนป้อมมหากาฬ ชุมชนบ้านบาตร ชุมชนวัดสระเกศ-ตรอกเซี่ยงไฮ้ และชุมชนสิตาราม เพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมเปิดพื้นที่ให้เด็กใช้จินตนาการขึ้นใน “โครงการสร้างหนังสือสื่อกลางเพื่อพัฒนาศักยภาพทางความคิดและความคิดริเริ่ม-เล่าเรื่องเมืองในดิน” ภายใต้การสนับสนุนจากแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ ขึ้น

ฆนรส เติมศักดิ์เจริญ ตัวแทนจากกลุ่มดินน้ำมัน เล่าว่า ก่อนหน้านี้เคยถามเด็กในชุมชนว่า “โตขึ้นอยากเป็นอะไร” คำตอบที่ได้คือ “อยากเป็นคนขับรถส่งอะไหล่” ซึ่งเหตุที่เด็กคิดแบบนี้เพราะยึดสิ่งแวดล้อมมาเป็นคำตอบ เราจึงเกิดความคิดที่ว่า ถ้าเด็กๆ ได้เปิดโลกทัศน์ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ มีเวทีหรือที่ให้เด็กได้แสดงผลงาน ก็จะทำให้เด็กเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง และนำไปสู่ความภาคภูมิใจในเรื่องต่างๆ ต่อไป

“การเข้าร่วมกิจกรรมแรกๆ ยังคิดไม่ออกว่าอยากเห็นอะไร แต่เมื่อลองคิดและจินตนาการไปว่าอยากเห็นอะไร เลยออกแบบและวาดเมืองในดินออกมาแบบนี้ พอทำไปก็สนุกดี ถ้าเมืองในดินเกิดขึ้นมาได้จริงคงจะดี ทุกคนจะได้มีแต่ความสุข สนุกสนาน และไม่วุ่นวายอย่างสังคมเราทุกวันนี้” น้องบิ้ว-ด.ช.ธเนศ ลิ้มธรรมนาท เยาวชนจากชุมชนบ้านบาตร บอก

ส่วนน้องก้อง-ด.ช.ชยธร ท้วมอรุณ เยาวชนจากชุมชนบ้านบาตร เล่าว่า “บนดินไม่น่าอยู่เท่าใต้ดิน” ผ่านภาพวาดเรื่อง “หนอนผู้ไม่ชอบเสียงทะเลาะ” ด้วยท้องถนนที่เต็มไปด้วยควันพิษ มีผู้คนทะเลาะเบาะแว้ง พ่วงด้วยมีโจรชุกชุม จึงทำให้คนลงไปอยู่ใต้ดิน นี่คือเสียงสะท้อนจากเด็กชายตัวน้อยๆ ที่ทำให้เราได้เห็นสภาพสังคมปัจจุบันที่เด็กๆ กำลังเผชิญ ภาพวาดเหล่านี้เป็นกระจกเงามองเห็นสิ่งแวดล้อมในชุมชนได้เป็นอย่างดี และยังแฝงเรื่องราวน่ารักๆ ซึ่งอธิบายในโลกใต้ดินอันน่าอยู่นั่นเอง

ซึ่ง วณิชชา เอมะศิริ ทิ้งท้ายว่า การจะสร้างเมืองใหม่หรือสังคมใหม่นั้น จะต้องมีความสามัคคีของคนหมู่มากเกิดขึ้น จึงจะสร้างเมืองใหม่ได้สำเร็จ “เมืองในดิน” จึงจะเป็นเมืองที่มีความสุขเกิดขึ้นมากมาย เราอยากเปลี่ยนแปลงกระบวนการคิดที่ผิดๆ ของคนสมัยนี้ที่ว่า คนจะมีความสุข คือคนที่ต้องรวย ต้องทำงานเยอะๆ หรือคนที่จะสวยต้องผอม ต้องขาว ...อยากให้ทุกคนมองสิ่งรอบตัวมากขึ้น ใส่ใจคนรอบข้างมากขึ้น และถ้าเราคิดจะรักใครสักคนต้องไม่หวังผลตอบแทนใดๆ กลับมาเมืองในดินถึงจะมีความสุขที่สมบูรณ์แท้จริง

ข่าวล่าสุด

งานเข้า! EU สอบสวน Google ข้อหาผูกขาดเนื้อหาให้กับ AI ของบริษัท