ซื้อของโจร ไม่รอบคอบอาจเจอคุก
กฎหมายบัญญัติไว้ชัดเจน ทรัพย์สินมาจากการกระทำผิดกฎหมาย ต้องตกเป็นของแผ่นดิน
โดย...ทีมข่าวในประเทศโพสต์ทูเดย์
ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ หรือ “บอย ปกรณ์” นักแสดงชื่อดังถูกเกี่ยวโยงไปยังคดียักยอกเงินสถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
เพราะเจ้าตัวไปซื้อรถซุปเปอร์คาร์หรู ยี่ห้อแลมโบกีนี่ รุ่นกัลลาโด ในราคา 13.5 ล้านบาท จากผู้ต้องหาที่ใช้เงินยักยอกไปซื้อรถคันดังกล่าวมาในราคาสูงถึง 18 ล้านบาท แต่มาขายต่อชนิดขาดทุน จึงเข้าข่ายลักษณะการฟอกเงิน
รถคันดังกล่าวถูกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) อายัดทันที แม้ “บอย ปกรณ์” จะอ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับความผิดที่เกิดขึ้น และรถยนต์หรูของเจ้าตัวก็ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง แต่กฎหมายบัญญัติไว้ชัดเจน ทรัพย์สินมาจากการกระทำผิดกฎหมาย ต้องตกเป็นของแผ่นดิน
“บอย ปกรณ์” จะมีหนทางใดบ้างที่จะเรียกร้องสิทธิของตนเอง หากว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จริง
พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รองผู้บังคับการปราบปราม (รองผบก.ป.) อธิบายถึงเคสที่เกิดขึ้นอย่างน่าสนใจ
“มองตามความจริง คงหมดสิทธิ์จะได้รถคืน มีทางเดียวที่บอยจะเรียกค่าเสียหายได้คือต้องไปฟ้องร้องทางแพ่งกับผู้ต้องหา เพื่อขอเงินที่ซื้อไปคืนมา แต่หากว่ากันตามจริงบอยก็คงผิดเองด้วย ที่อาจไม่ตรวจสอบที่มาที่ไปของรถให้ดีก่อนซื้อ ควรจะฉุกคิดว่าทำไมถึงขายได้ราคาถูกกว่าความเป็นจริง”
พ.ต.อ.ณษ ย้ำว่า ก็เข้าข่ายความผิดรับซื้อของโจร แต่อาจไม่เจตนาเพราะไม่รู้ที่มาของทรัพย์สินนั้น ก็ต้องพิสูจน์ทราบว่าจริงหรือไม่ หากว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ก็มีสิทธิ์ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้
กระนั้นก็ตาม ดั่งคำพูดของนายตำรวจข้างต้น แล้วการพิสูจน์ทราบว่าทรัพย์สินนั้นเป็นของโจรหรือไม่ หรือเป็นของถูกกฎหมายหรือเปล่า ทรัพย์สินที่ว่าจะต้องดู หรือตรวจสอบกันอย่างไร
คนที่น่าจะให้คำตอบได้เป็นตำรวจอีกเช่นกัน พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) รับผิดชอบงานป้องกันปราบปราม บอกว่า การตรวจสอบทำไม่ยาก เช่น การซื้อรถยนต์หรู หรือมอเตอร์ไซค์ราคาแพง อย่างแรกต้องเช็คทะเบียนรถ ชื่อเจ้าของรถ เช็กกับทางไฟแนนซ์ว่ามีที่มาอย่างไร นำเข้าแบบไหน ผ่านมาแล้วกี่มือ ดูเอกสารการครอบครองรถยนต์ที่ผ่านๆ มาว่าถูกต้องอย่างไร ที่สำคัญอย่าลืมเบอร์ติดต่อเจ้าของรถยนต์ตัวจริงคันเดิม ก่อนจะเปลี่ยนมือซื้อขายกัน ว่ามีตัวตนจริงหรือไม่
“ถามกับบริษัทไฟแนนซ์รถยนต์ก็ได้ว่าที่มาที่ไปของรถเป็นอย่างไร เพราะเขาจะมีข้อมูลบอกไว้อยู่แล้ว ตรงนี้จะแก้ปัญหาการรับซื้อของโจรได้ หากเราบกพร่องเอง ไม่ตรวจสอบให้ดี จะกลายเป็นผู้ต้องหารับซื้อของโจรไปด้วย หากทรัพย์สินได้มาอย่างผิดกฎหมาย”
ยังมีอีกหลายอย่างที่ถูกหลอกขายให้กับคนรวยหรือมีเงิน พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ ฉายภาพอีกว่า รูปภาพที่มีราคาแพงจากศิลปินมีชื่อก็เช่นกัน หลายครั้งที่ถูกลักขโมยและนำมาขายต่อในราคาถูก หากต้องการซื้อจริง ควรจะเช็กไปยังเจ้าของภาพด้วยว่า มีการเปลี่ยนมือมาหรือไม่ หรือภาพหายไปจะได้แจ้งเบาะแสต่อได้ เพราะหากเรารีบร้อนไปซื้อมาเก็บไว้ ก็เข้าข่ายรับของโจรไปอีก ดังนั้น การซื้อของดีราคาถูกต้องระมัดระวังให้ดี
“ฝากถึงผู้ซื้อ ควรขอดูบัตรประชาชนของผู้ขาย ถ่ายเอกสารเก็บไว้เป็นหลักฐาน ถ้าคนร้ายปฏิเสธว่าไม่มี ก็ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามาไม่ดีแน่ ควรขอเอกสารแสดงตนทุกอย่าง เบอร์ติดต่อทั้งของผู้ขาย เบอร์ญาติ เป็นต้น ซึ่งเป็นหลักการง่ายๆ ในการปกป้องตัวเองเพื่อให้พ้นข้อครหาการรับซื้อของโจร เพราะเราละเอียดรอบคอบพอที่จะเช็กก่อนจะซื้อ” พล.ต.ต.ฉันทวทิย์ ย้ำ
ความผิดหากเข้าข่ายการกระทำรับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 344 ต้องระวางโทษไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ


