พระสุเทพ-แกนนำกปปส.รายงานตัวอัยการคดีกบฎ

ดีเอสไอ นำพระสุเทพ พร้อม แกนนำ กปปส.รวม 28 คน รายงานตัวอัยการ คดีร่วมกันเป็นกบฎ  ด้าน "เอกนัฏ"ปัดมีจดหมายทวงถามเงินบริจาค

วันที่ 21 ม.ค. พระสุเทพ ปภากโร หรือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. อดีตรองนายกรัฐมนตรี   พระพุทธอิสระ  พร้อม แกนนำ กปปส. เข้ารายงานตัวกับพนักงานอัยการ ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ นัดรายงานตัวแกนนำ รวม 28 คน หลังมีความเห็นสั่งฟ้องในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฎ และข้อหาอื่นๆ

ทั้งนี้นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ โฆษกกลุ่ม กปปส. กล่าวว่า วันนี้กลุ่มแกนนำเดินทางมาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และยืนยันจะต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. เป็นการชุมนุมโดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ ตามรัฐธรรมนูญ และทางกลุ่มแกนนำ ได้ตั้งข้อสังเกตว่าการแจ้งข้อกล่าวหาของดีเอสไอ มีความรุนแรงโดยปราศจากมูลเหตุ ทั้งที่ความจริงศาลแพ่ง และศาลรัฐธรรมนูญ ได้วินิจฉัยรับรองการชุมนุมไว้ ซึ่งการตั้งข้อหาดังกล่าวเชื่อว่าเป็นความพยายามของผู้ที่เสียผลประโยชน์ และมีอคติ แต่อย่างไรก็ตามทางแกนนำ กปปส.ทุกคนเคารพกระบวนการยุติธรรม

ส่วนเรื่องเงินบริจาค ที่มีนักแสดงที่เข้าร่วมชุมนุมทวงถามการใช้จ่าย พบว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม ไม่ใช่เอกสารจากนักแสดงตัวจริง ที่เคยร่วมชุมนุม เป็นของกลุ่มบุคคลที่สร้างขึ้นเพื่อหวังกลบกระแสข่าวการชี้มูลคดีถอดถอนของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งทาง กปปส. มีการบริหารจัดการเงินอย่างโปร่งใส และชี้แจงค่าใช้จ่ายต่อประชาชนมาโดยตลอด

นายนิติธร ล้ำเหลือ อดีตแกนนำ คปท. กล่าวภายหลังเดินทางเข้าพบ พนักงานอัยการ หลังจาก ดีเอสไอ นัดส่งตัวต่ออัยการ ในข้อหากบฎ และข้อหาอื่น ๆ กรณีการชุมนุม ร่วมกับกลุ่ม กปปส. ว่า วันนี้ มีผู้ต้องหา เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมด รวม 28 คน ซึ่งทั้งหมด ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ก่อนหน้านี้ 3 ฉบับ ต่อพนักงานอัยการ ในประเด็น ที่ดีเอสไอ แจ้งข้อกล่าวหา ไม่เป็น แต่อัยการ ก็ยังไม่ได้นำมาพิจารณา และการเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ในวันนี้ ก็ ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม เข้ามาอีก

ทางด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทรยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า วันนี้ ดีเอสไอ ได้นัดส่งตัว ผู้ต้องหา มาส่งฟ้องต่ออัยการ จำนวน 28 คน นางสาวจิตภัสร์ ฤษดากร ได้ข้อเลื่อนการเข้ารายงานตัวออกไปก่อน เนื่องจากติดภารกิจ และจะเดินทางเข้าพบอัยการในภายหลัง ซึ่งคดีนี้ อัยการได้นัดสั่งคดี ว่าจะมีคำสั่งฟ้องหรือไม่ ในวันที่ 5 มี.ค.2558 เวลา 10.00 น.