คสช.ล้มเหลวจัดระเบียบ รถตู้-แท็กซี่-วินมอ’ไซค์
เป็นเวลากว่า 7 เดือนแล้ว ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ประกาศจัดระเบียบบ้านเมืองให้เข้ารูปเข้ารอย
โดย...ทีมข่าวในประเทศโพสต์ทูเดย์
เป็นเวลากว่า 7 เดือนแล้ว ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศจัดระเบียบบ้านเมืองให้เข้ารูปเข้ารอย โดยประเด็นที่ คสช.ให้น้ำหนักตั้งแต่แรกเริ่มคืองานด้านจราจร ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มรถบริการสาธารณะ รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตู้ รวมถึงรถแท็กซี่
ความเอาจริงเอาจังของ คสช.ในช่วงต้น นำมาซึ่งแรงหนุนและเสียงแซ่ซ้องจากทุกภาคส่วนในสังคม แม้ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบคือผู้ประกอบการ ก็ยังให้ความร่วมมืออย่างดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ
อย่างไรก็ดี ล่วงเลยมาถึงนาทีนี้ สภาพที่เคยน่ายินดีกลับกลายเปลี่ยนไปชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ
เรียกได้ว่ามาตรการจัดระเบียบ “ล้มเหลว” ก็คงไม่เกินความจริงนัก
รถตู้สาธารณะ
บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิที่เคยหนาแน่นไปด้วยรถตู้สาธารณะจอดแช่เพื่อรับส่งผู้โดยสารอย่างไร้ระเบียบ คสช.ได้จัดระเบียบใหม่ด้วยการสั่งย้ายออกนอกพื้นที่ โดยเตรียมลานจอดรถบริเวณแอร์พอร์ตลิงค์มักกะสันไว้รองรับ
ในช่วงเดือนแรกมีทหารมาตั้งเต็นท์อำนวยความสะดวก แต่ปัจจุบันแทบไม่มีรถตู้มาจอดในจุดดังกล่าวเลย โดยผู้ประกอบการต่างให้เหตุผลเป็นเสียงเดียวกันว่าระยะจุดจอดกับจุดรับผู้โดยสารมีระยะไกลเกินไป ทำให้ไม่สามารถควบคุมเวลาได้
ผู้ประกอบการจึงแก้ปัญหาด้วยการขับรถวนรอบอนุสาวรีย์แทนการจอดแช่ นั่นยิ่งทำให้การจราจรติดขัดรุนแรงขึ้นกว่าเดิม และจนถึงขณะนี้ก็ไม่มีมาตรการใดๆ จาก คสช.ออกมาจัดการกับปัญหาอีก
นอกจากนี้ จุดจอดรถตู้บริเวณสถานีรถไฟฟ้าหมอชิต ซึ่ง คสช.สั่งให้จอดได้ไม่เกิน 5 คันเท่านั้น เช่นเดียวกับแท็กซี่ที่อนุญาตให้จอดได้ไม่เกิน 5 คัน แรกเริ่มมีทหารยืนคุมทำให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบร้อย ทว่าในปัจจุบันกลับตรงกันข้ามสิ้นเชิง พบว่ามีการจอดรถเป็นแถวยาวและกีดขวางเส้นทางการสัญจร
วินมอเตอร์ไซค์
ท่าทีขึงขังของ พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.พล 1รอ. ในการประสานวินมอเตอร์ไซค์ทั่วกรุงเทพฯ ขอความร่วมมือให้ติดป้ายราคาชัดเจนตั้งวินนอกพื้นที่ผิวจราจรและฟุตปาททางสาธารณะ พร้อมทั้งสั่งเปลี่ยนเสื้อวินและลงทะเบียนใหม่ ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากการใช้บริการ
ทว่าจากคำกล่าวของ เฉลิม ชั่งทองมะดัน นายกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย ที่ยืนยันว่ามาเฟียวินยังคงมีอยู่ ไม่ได้หมดไปอย่างที่ คสช.ต้องการ ซึ่งสะท้อนถึงชะตากรรมของผู้ใช้บริการว่าที่สุดแล้วก็อาจจะถูกขูดรีดจากการเรียกรับผลประโยชน์ของมาเฟีย
“ทุกวันนี้ยังคงมีตำรวจชั้นผู้น้อยมาเดินเก็บเงินกับหัวหน้าวินตามปกติเช่นเคย คือวินละ 3,000-5,000 บาท/เดือน แม้ว่าจะมีการเข้ามาจัดระเบียบ แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่หมดไป” เฉลิม ระบุ
แท็กซี่มิเตอร์
ปัญหาแท็กซี่ไม่รับผู้โดยสารก็ยังคงไม่สามารถแก้ไขได้ แม้จะมีการขึ้นค่าโดยสารพร้อมกำหนดเกณฑ์ยกระดับบริการ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ปัญหานี้จบลง หนำซ้ำยังพบพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ของคนขับแท็กซี่จนกลายเป็นเรื่องชินชา
สำหรับการร้องเรียนผ่านกรมการขนส่งทางบกและกองบังคับการตำรวจจราจร ก็ใช้เวลาดำเนินการนาน 4-6 เดือน และไม่มีหลักประกันใดว่าผู้กระทำผิดจะได้รับการลงโทษจริงๆ
นายตำรวจระดับผู้กำกับการจราจรนายหนึ่ง ทดลองเรียกแท็กซี่หน้าห้างสรรพสินค้ามาบุญครองและถูกปฏิเสธกว่า 10 คัน จึงแสดงตัวจับปรับส่งท้องที่รับผิดชอบ
ทั้งหมดคือความล้มเหลวในการจัดระเบียบด้านจราจร


