posttoday

แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ แม่ชีอรหันต์

21 ธันวาคม 2557

มิได้มีแต่บุรุษเท่านั้นดอกที่บรรลุมรรคผลนิพพาน และมิได้มีแต่อุบาสิกาในพุทธประวัติเท่านั้นดอกที่บรรลุธรรม

มิได้มีแต่บุรุษเท่านั้นดอกที่บรรลุมรรคผลนิพพาน และมิได้มีแต่อุบาสิกาในพุทธประวัติเท่านั้นดอกที่บรรลุธรรม ขึ้นชื่อว่ามนุษย์แล้ว หากเจริญสติปัญญาให้พร้อม มิว่าจะเป็นเพศใด จะเป็นกาลสมัยใด ล้วนแต่ข้ามฝั่งโอฆะสงสารได้ดังที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนไว้ทั้งสิ้น แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ แสดงให้ประจักษ์ถึงเรื่องนี้เป็นอย่างดี

แม่ชีแก้ว เป็นหนึ่งในศิษย์ฆราวาสของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ทั้งสองท่านพบกันเมื่อ พ.ศ. 2460 ปีนั้นเมื่อพระอาจารย์มั่นธุดงค์ผ่านไปถึงบ้านห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร หญิงสาววัย 16 ปี ซึ่งชื่อ น.ส.แก้ว ได้ถวายที่ซึ่งถางไว้เพื่อปลูกหม่อนเลี้ยงไหมให้หลวงปู่มั่นใช้เป็นที่พักสงฆ์ ระหว่างนั้นเธอและคนในหมู่บ้านก็ได้ปฏิบัติธรรมตามคำสั่งสอนของหลวงปู่ แต่น่าประหลาดว่า เมื่อหลวงปู่มั่นจะธุดงค์ต่อไปนั้น ท่านกลับสั่งให้ น.ส.แก้ว หยุดภาวนา พร้อมระบุว่า ให้รอ “ผู้มาสั่งสอน” ในวันข้างหน้า

มีการบันทึกคำกล่าวของหลวงปู่มั่นต่อ น.ส.แก้ว ไว้ว่า “หากเจ้าเป็นผู้ชาย เราจะให้บวชเป็นเณร และให้ติดตามไปด้วย แต่นี่เป็นหญิง ไปด้วยก็ลำบากต่อพระธรรม พระวินัย และสั่งว่าให้หยุดภาวนา ตั้งแต่นี้ต่อไปให้ใช้กรรมไปตามประสาโลก กาลต่อไปข้างหน้าจะมีผู้มาสั่งสอน”

เธอแต่งงาน และชดใช้กรรมตามประสาโลกอยู่ 20 ปี จึงโกนผมถือศีลเป็นแม่ชี และเตรียมที่ทางรอรับ “ผู้มาสั่งสอน” อยู่นับ 10 ปี พระธุดงค์องค์นั้น องค์นี้ผ่านมาก็ไม่ใช่

กระทั่งปีที่ 34 หลังหลวงปู่มั่นสั่งความไว้ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ก็มาถึง

ท่านจำพรรษาโปรดแม่ชีแก้วอยู่ถึง 4 ปี คือ 2494-2497 ผ่านเวลานั้นมาร่วม 40 ปี ในปี 2539 หลวงตามหาบัว ได้พูดชัดว่า แม่ชีแก้ว บรรลุมรรคผลเมื่อปี 2495 “ผู้เฒ่าแม่แก้วอัฐิเป็นพระธาตุแล้ว ผู้เฒ่านี้ถ้าพูดตามหลักความจริงก็ผ่านมาหลายปีแล้วนี่นะ ถ้าจำไม่ผิด เราว่าตั้งแต่ พ.ศ. 2495 นู้น”

 “แกรวดเร็วอยู่นะ ออกทางด้านปัญญานี้ก็หมุนติ้วเหมือนกัน 93 จำหนองผือ 94 จำห้วยทราย 95 จำห้วยทราย 2 ปีนี้แกก็ผ่านปี 95”

เมื่อแม่ชีแก้ว สิ้นในปี 2534 นั้น มีการพิมพ์ประวัติแจกในงานฌาปนกิจศพ หนังสือเล่มนั้นทำขึ้นจากกระดาษโรเนียว ขนาด A4 2 แผ่นพิมพ์แล้วพับครึ่ง ด้านหน้าเป็นปกวาดเป็นลายเส้น ด้านบนเป็นตัวพิมพ์ความว่า “ประวัติแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ สำนักแม่ชีบ้านห้วยทราย ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร” ที่เหลือเป็นประวัติของท่าน ประวัติชิ้นนี้เองที่ถูกนำมาเผยแพร่และอ้างอิงมากที่สุด

เพื่อสืบทอดประวัตินี้ต่อไป จึงขอนำมาเสนอทั้งหมดดังนี้

“ชาติภูมิของท่านเป็นคนบ้านห้วยทรายโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2444 ณ บ้านห้วยทราย ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร เป็นบุตรของขุนธรรมรังสี (ซ้น เสียงล้ำ) กับนางด่อน เสียงล้ำ นามเดิมของท่านคือ นางตาไป่ เสียงล้ำ แต่งงานกับนายบุญมา เสียงล้ำ เมื่ออายุได้ 17 ปี อยู่ด้วยกันมา 19 ปี โดยไม่มีบุตรด้วยกัน

ประมาณปี พ.ศ. 2460 ท่านพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล กับ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พร้อมคณะอันมีพระอาจารย์ขาว อนาลโย พระอาจารย์ชอบ ฐานสโม พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระอาจารย์เทสก์ เทสรังสี พร้อมพระภิกษุสามเณรประมาณ 60-70 รูป ได้เดินธุดงค์มาพำนักที่บริเวณวัดหนองน่อง ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสำนักชีแห่งนี้ ห่างประมาณ 1 กิโลเมตร หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้อบรมสั่งสอนญาติโยมในละแวกหมู่บ้านใกล้เคียง โดยแนะนำสั่งสอนให้นั่งภาวนาพุทโธ และพิจารณาร่างกายของตนเอง ว่าไม่มีความเที่ยงแท้แน่นอน มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย ตามสังขารด้วยกันทุกคน ท่านเป็นคนหนึ่งที่ได้ไปรับฟังคำสั่งสอนในครั้งนั้น (อายุได้ 16 ปี)

เผอิญในคืนนั้น เวลาประมาณ 21.00 น. ท่านได้บำเพ็ญภาวนาตามคำสอนของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จิตของท่านได้สงบเงียบไป เลยเป็นนิมิตเกิดขึ้น ท่านเห็นตัวของท่านเองนอนตาย ได้นิมนต์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และพระสงฆ์ มาสวดมาติกา ตามนิมิตของท่าน จนกระทั่งเวลาประมาณ 04.00 น. ท่านตื่นจากนิมิต ใจพะวงว่าใครหนอจะนึ่งข้าวใส่บาตร ขณะนั้นใจของท่านอิ่มเอิบเป็นที่สุด

ในคราวต่อมา ท่านพร้อมด้วยชาวบ้านได้เข้าไปฟังเทศนาจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พอได้โอกาส ท่านได้เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นให้หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ฟัง

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้บอกว่าเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องแล้วในระดับเบื้องต้น ต่อมาท่านก็ได้ปฏิบัติมาเรื่อยๆ จนกระทั่งคณะของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้ลาญาติโยมเพื่อจะไปธุดงค์ในถิ่นอื่นๆ ก่อนจากไปได้ปรารภกับคุณย่าว่า “หากเจ้าเป็นผู้ชาย เราจะให้บวชเณร และติดตามไปด้วย นี่เจ้าเป็นหญิง ไปด้วยก็ลำบาก และได้สั่งว่าให้หยุดภาวนา ตั้งแต่นี้ต่อไปให้ใช้กรรมไปตามประสาโลก”

ครูบาอาจารย์รุ่นหลังๆ ได้สันนิษฐานว่า ที่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ให้หยุดภาวนานั้น เพราะเป็นจิตที่โลดโผน ถ้ามีผู้แนะนำที่ดี ก็จะไปได้ดี ถ้าไม่มีผู้แนะนำ อาจจะทำให้เสียคนไปก็ได้

ประมาณปี พ.ศ. 2461 ท่านได้แต่งงานอยู่กินกันมาจนถึงปี พ.ศ. 2480 ท่านได้ขออนุญาตกับสามีว่าต้องการจะบวช ฝ่ายสามีพยายามทัดทานอ้อนวอนหลายครั้งหลายคราก็ไม่เป็นผลสำเร็จ และในที่สุดความตั้งใจอันแน่วแน่ของท่านก็บรรลุผล ท่านได้เข้าบวชเป็นชีตามปรารถนา โดยมีพระอาจารย์คำพัน กันตสีโล เป็น อุปัชฌาย์ ที่วัดหนองน่อง ต่อจากนั้นได้ติดตามพระอาจารย์คำพัน กันตสีโล ไปอยู่ที่วัดภูเกล้า (ห่างจากสำนักชีแห่งนี้ไปทางทิศใต้ประมาณ 30 กิโลเมตร) ท่านอยู่ที่วัดภูเกล้ากับเพื่อนชีด้วยกัน 4 คน กับพระอีก 6 รูป

ท่านได้บำเพ็ญภาวานาอยู่ที่นั่นจนเกิดความรู้แปลกๆ หลายอย่างที่ไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นมาก่อน ท่านอยู่ที่นั่นได้ 8 ปี เผอิญในเวลาต่อมาพระอาจารย์คำพันได้ลาสิกขาบท ท่านกับคณะแม่ชีได้พากันกลับมาที่บ้านห้วยทราย และได้พูดกับญาติพี่น้องลูกหลานตั้งสำนักชีแห่งนี้ขึ้นในปี พ.ศ. 2488 และเป็นสำนักชีแห่งแรกที่ไม่มีพระภิกษุอาศัยอยู่ด้วย แต่แม่ชีก็ยังปฏิบัติธรรมอย่างเดียว ท่านได้ไปกราบหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เป็นครั้งคราว แล้วกลับมาจำพรรษาที่วัดนี้ตลอดเวลา ครั้นเมื่อ พ.ศ. 2492 หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้มรณภาพที่วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร ท่านพร้อมกับชาวบ้านได้พากันไปร่วมงานฌาปนกิจศพด้วย

 (อ่านต่อสัปดาห์หน้า)

ข่าวล่าสุด

คนละครึ่งพลัส หนุน “พาสต้า บ่? - มีลาภ อุบลฯ" ยอดขายพุ่ง แชมป์ร้านต่างจังหวัดขายดี