ไฟไหม้โรงงานในนิคมบางกะดีเสียหายกว่า500ล.
ไฟไหม้โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในนิคมบางกะดี คนงานกว่า300หนีตายเสียหายกว่า 500 ล้านบาท
ไฟไหม้โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในนิคมบางกะดี คนงานกว่า300หนีตายเสียหายกว่า 500 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 12 พ.ย. เวลา 04.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้โรงงาน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ภายในสวนอุตสาหกรรมบางกะดี โดยเป็นโรงงานของ บริษัท เอสวีไอ (SVI) จำกัด มหาชน ต.บางกะดี อ.เมือง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลบางกะดีและเทศบาลใกล้เคียง
ที่เกิดเหตุ เป็นโรงงานขนาดใหญ่ ผลิตชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ และกล้องวงจรปิด เพลิงลุกไหม้โหมที่อาคารฝ่ายผลิต มีคนงาน แม่บ้าน กว่า 300 คน อพยพออกมาจากตัวอาคาร เนื่องจากเป็นช่วงเวลากะดึกทำงานอยู่ ไฟไหม้อุปกรณ์ เครื่องจักร และชิ้นส่วนอะไหล่อิเล็คโทนิค ภายในฝ่ายผลิตทั้งหมด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 30 คัน เร่งควบคุมเพลิง ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด
จากการสอบสวนพนักงานฝ่ายผลิต ให้การว่า ขณะเกิดเหตุได้ทำงานอยู่ที่ฝ่ายผลิต ซึ่งอยู่ชั้นล่างของอาคาร ขณะนั้นได้กลิ่นเหม็นไหม้ และมีควันที่ห้องออฟฟิศ ชั้น 2 จากนั้นก็มีเสียงตะโกนร้องบอกกันว่าไฟไหม้ พนักงานกว่า 300 คนที่ทำงานอยู่จึงพากันวิ่งหลบหนีออกจาก ก่อนที่สัญญาณไฟไหม้จะดังขึ้น
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจสอบในที่เกิดเหตุเบื้องต้น ไม่พบพนักงาน หรือบุคคลติดอยู่ในอาคารฝ่ายผลิตแล้ว มีเพียงพนักงานจำนวน 2 คน สำลักควันไฟ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลปทุมธานี อาการปลอดภัยแล้ว แต่เพลิงไฟยังคงครุอยู่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงฉีดน้ำไว้ ให้อยู่ในวงจำกัด และกันพื้นที่ห้ามเข้าภายในตัวอาคาร เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดถล่มขึ้น และจะได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุต้นเพลิงอย่างละเอียดว่าเกิดจากสาเหตุใด ความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำ 500 ล้านบาท ขณะที่ คนงานเร่งช่วยกันขนของออกหนีไฟไหม้เกรงลามเข้าห้องเก็บของ
กระทั่งเวลาประมาณ 07.00 น. เจ้าหน้าที่จากจังหวัดใกล้เคียงนำรถดับเพลิงเร่งเข้าช่วยกันดับเพลิงที่ยังคลุอยู่ ส่วนพนักงาน และคนงานในบริษัทฯดังกล่าว และ บริษัทฯใกล้เคียง เข้ามาช่วยกันเร่งขนของอุปกรณ์ภายในห้องเก็บของซึ่งมีมูลค่ามาก ซึ่งอยู่ใกล้กับตัวอาคารฝ่ายผลิต เพราะเกรงว่าไฟจะลุกลามเข้าไหม้ห้องเก็บของดังกล่าวอีก ขณะนี้เพลิงยังไม่สงบ เจ้าหน้าที่ยังคงฉีดน้ำเลี้ยงตัวอาคารดังกล่าวไว้อยู่ในวงจำกัด
เบื้องต้น นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เข้าดูในที่เกิดเหตุ เพื่อประเมินสถานการณ์ ซึ่งเบื้องต้นได้กั้นพื้นที่เป็นเขตอันตราย ห้ามเข้าภายในตัวอาคารที่เกิดเพลิงไหม้เด็ดขาด เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดการทรุดตัวและการถล่มของตัวอาคารที่เกิดความร้อนเป็นเวลานาน และขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของบริษัทฯ ได้เร่งสำรวจจำนวนพนักงานของบริษัทฯ ให้ชัดเจน เพื่อตรวจสอบว่ามีใครติดอยู่ภายในอาคารอีกหรือไม่ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังคงมีรถดับเพลิงฉีดน้ำเลี้ยงไว้อย่างต่อเนื่องไม่ให้เพลิงลุกลามไปอาคารใกล้เคียงและบริษัทฯใกล้เคียง


