ล่ามในคดีอาญา
เหตุใดล่ามในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาจึงมีความสำคัญ ก็เพราะคดีอาญาเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในคดีอาญา ในกรณีที่คู่ความเป็นคนต่างชาติ ต่างภาษา
“ล่าม” จึงมีบทบาทสำคัญมากขึ้นเห็นได้จากความร่วมมือเกี่ยวกับล่ามในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับประเทศและระดับสากลในกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศนั้นประเทศไทยได้ร่วมลงมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนมาตั้งแต่ต้น และได้เข้าเป็นภาคีกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมือง วันที่ 29 ม.ค. 2540
หลักการสำคัญที่บัญญัติไว้ในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองได้แก่ Article 14 ข้อ 3 (F) ซึ่งเป็นสิทธิในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา กำหนดว่า ในการพิจารณาคดีอาญา บุคคลทุกคนซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดย่อมมีสิทธิที่ได้รับหลักประกันขั้นต่ำในสิทธิที่จะได้รับความช่วยเหลือจากล่ามโดยไม่คิดมูลค่า หากไม่สามารถเข้าใจหรือพูดภาษาในศาลได้
กฎหมายไทยบัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 13 กำหนดให้หน้าที่ในการจัดหาล่ามเป็นของศาล ทั้งล่ามภาษาต่างประเทศ และล่ามภาษามือ
นอกจากนี้ ศาลได้ให้ความสำคัญกับปัญหาการใช้ภาษาที่อาจเป็นอุปสรรคต่อจำเลยในการเข้าใจกระบวนการพิจารณาของศาล โดยในปี 2551 ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 13 ให้การสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้อง หรือพิจารณาให้ใช้ภาษาไทย แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องแปลภาษาไทยท้องถิ่น หรือภาษาต่างประเทศ ให้ใช้ล่ามแปลในกรณีที่ผู้เสียหาย ผู้ต้องหา จำเลย หรือพยานไม่สามารถพูดหรือเข้าใจภาษาไทยหรือสามารถพูดหรือเข้าใจเฉพาะภาษาไทยท้องถิ่น พนักงานอัยการหรือศาลจัดหาล่ามให้โดยมิชักช้า
ปัญหาการใช้ภาษาไทยท้องถิ่นและภาษาถิ่น พบได้ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ โดยเฉพาะปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าในฐานะผู้ต้องสงสัย ผู้ต้องหา จำเลย หรือพยาน ข้อจำกัดทางภาษาดังกล่าวจึงเป็นอุปสรรคในการสื่อสารและทำความเข้าใจกันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิของตนและกระบวนการยุติธรรม รวมถึงบริการสาธารณะด้านต่างๆ ได้
เห็นได้ว่าการสื่อสารเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างมากต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อกระบวนการยุติธรรมของไทย ดังนั้น สำนักงานศาลยุติธรรมจึงได้ขึ้นทะเบียนบุคลากรที่มีความรู้เกี่ยวกับภาษาไทยท้องถิ่นหรือภาษาถิ่นหรือภาษาต่างประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวและเพื่อให้การดำเนินกระบวนการยุติธรรมทางอาญาของไทย สอดคล้องกับหลักการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนตามที่กล่าวมาข้างต้น
ทั้งนี้ สำนักงานศาลยุติธรรมได้จัดอบรม
“ล่ามภาษามลายูปาตานี” ระหว่างวันที่ 1–4 มิ.ย. ณ โรงแรมหาดใหญ่ พาราไดส์ แอนด์ รีสอร์ท

